จากสถานการณ์หนี้ครัวเรือนไทย1 ณ ไตรมาส 3/2565 ที่สูงถึง 87% ของ GDP 14.9 ล้านล้านบาท คนไทยส่วนใหญ่เป็นเพื่อการอุปโภคบริโภค เช่น หนี้สินเชื่อบุคคลและบัตรเครดิต คิดเป็นสัดส่วนเกือบ 1 ใน 3 ของยอดหนี้ครัวเรือนทั้งหมด เมื่อเทียบกับต่างประเทศที่ส่วนใหญ่หนี้ครัวเรือนเป็นหนี้สินเชื่อบ้าน
หลายๆ ครอบครัวมีหนี้ครัวเรือนในจำนวนเงินที่สูงและมีหนี้หลายก้อน ทำให้มีปัญหาเรื่องการจ่ายหนี้ตามมา ซึ่งมีคนจำนวนหนึ่งไม่รู้ว่าต้องจัดการหนี้ที่มีดอกเบี้ยสูงที่สุดก่อน หรือลดภาระหนี้ที่ปิดได้เร็วที่สุดก่อน เพื่อทำให้มีเงินสดคงเหลือเพิ่มมากขึ้นเอาไว้จัดการกับหนี้ก้อนอื่นๆ ต่อไป สำหรับการจัดการหนี้ที่มีหลายก้อนให้มีประสิทธิภาพ มีแนวทางปฏิบัติ ดังนี้
เพื่อจะรู้ว่าในแต่ละเดือนมีรายได้เท่าไหร่ ซึ่งถ้าเป็นคนทำงานประจำจะมีรายได้ที่ชัดเจน แต่ถ้าเป็นพ่อค้าแม่ค้า หรือผู้ประกอบการที่ไม่ได้มีการจัดทำบัญชี หลายๆ คนไม่รู้ว่าตนเองมีรายได้เท่าใดในแต่ละเดือน แนะนำให้จดบันทึกเป็นรายวันพอถึงวันสิ้นเดือนนำมาสรุปยอด ในส่วนค่าใช้จ่ายให้จดบันทึกเป็นรายวันว่าในแต่ละวันมีค่าใช้จ่ายอะไรบ้าง และถึงวันสิ้นเดือนนำมาสรุปยอดเช่นกัน จะได้รู้ว่าในแต่ละเดือนเรามีค่าใช้จ่ายอะไรบ้าง และจะสามารถลดค่าใช้จ่ายตรงจุดใดได้บ้าง ตัวอย่างเช่น
เพื่อจะได้รู้ว่ามีทรัพย์สินและของสะสมอะไรบ้าง มูลค่าประมาณเท่าใด จะได้เอาไปขายเพื่อนำเงินมาใช้หนี้ หรือนำมาใช้เป็นหลักประกันเพื่อกู้เงินกับธนาคาร เช่น ที่ดิน, บ้าน, คอนโด, รถยนต์ หรือรถจักรยานยนต์ เป็นต้น ตัวอย่างเช่น
เพื่อจะได้จัดลำดับความสำคัญของหนี้แต่ละประเภทและวางแผนการชำระหนี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยรวบรวมหนี้สินที่มีทั้งหมดเรียงจากหนี้นอกระบบไปหาหนี้ในระบบ เรียงจากหนี้ที่เสียดอกเบี้ยมากไปหาหนี้ที่เสียดอกเบี้ยน้อย หรือเน้นปิดยอดหนี้น้อยๆให้หมดก่อน เพื่อสร้างกำลังใจในการจ่ายหนี้ ตัวอย่างเช่น
จากตารางบัญชีหนี้สิน พบว่า หนี้ที่ต้องให้ความสำคัญเป็นลำดับแรกคือ เจ้าหนี้เงินกู้นอกระบบทั้ง 2 ราย ส่วนที่เหลือในลำดับที่ 3-7 เป็นหนี้ในระบบ ซึ่งต้องให้ความสำคัญเป็นลำดับถัดไป หรือจะเน้นปิดบัญชีบัตรกดเงินสด (ลำดับ 3) ให้หมดก่อน เพื่อสร้างกำลังใจในการลดหนี้
เมื่อได้จัดทำบัญชีรายรับ-รายจ่าย, บัญชีทรัพย์สินและหนี้สินเป็นที่เรียบร้อยแล้ว จากนั้นมาเริ่มหาทางออกในการจัดการหนี้ที่มีหลายก้อนต้องจัดการอย่างไรบ้าง
แนวทางนี้สามารถทำได้ทันทีขึ้นกับตัวของผู้กู้เอง จากบัญชีรายรับ-รายจ่าย จะพบว่ามีค่าใช้จ่าย 2-3 รายการที่สามารถปรับลดลงได้ เช่น ค่าชานมไข่มุก จากวันละ 2 แก้ว เหลือวันละ 1 แก้ว จะทำให้มีเงินเพิ่ม 1,500 บาท ค่าสันทนาการ เช่น ไปเที่ยว, ดูหนัง, ฟังเพลง หากลดกิจกรรมไปสักครึ่งหนึ่ง จะทำให้มีเงินเพิ่มอีก 1,000 บาท ซึ่งยังไม่รวมกับค่าเดินทางที่จะลดลงด้วย มาจากกิจกรรมสันทนาการที่ลดลง และยังมีค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวันและค่าโทรศัพท์ที่อาจจะปรับลดลงได้อีกเล็กน้อย แต่ไม่เหมาะกับกรณียอดผ่อนชำระมากกว่าหรือเท่ากับรายได้ต่อเดือน
เป็นแนวทางที่หลายๆ คนนิยมทำกัน โดยเฉพาะการไลฟ์สดขายของไม่ว่าจะเป็นของใหม่หรือของมือสอง หรือขายทรัพย์สินบางอย่างออกไป เช่น เสื้อผ้า, รองเท้า, กระเป๋า, เครื่องประดับ, นาฬิกา, รถมอเตอร์ไซด์ เป็นต้น แต่ควรจัดสรรเวลางานให้ดี เพื่อหลีกเลี่ยงการใช้เวลางานกับเรื่องส่วนตัว ซึ่งในส่วนนี้อาจจะทำให้ได้เงินมาเป็นกอบเป็นกำ ทำให้ยังใช้จ่ายได้ใกล้เคียงเดิม หรือช่วยเคลียร์หนี้ได้เร็วขึ้น
เพื่อขอขยายระยะเวลาชำระหนี้และขอลดดอกเบี้ยลงมาให้อยู่ในเกณฑ์ที่กฏหมายกำหนด หากเจ้าหนี้เป็นคนรู้จักมีแนวโน้มที่จะเจรจากันได้ แต่หากเป็นเจ้าหนี้นอกระบบพวกแก๊งหมวกกันน็อค คนกลุ่มนี้ไม่สามารถเจรจาได้ และชอบใช้ความรุนแรง ซึ่งอาจจะต้องขอความช่วยเหลือจากหน่วยงานต่างๆ ของภาครัฐได้ รายละเอียดและช่องทางการติดต่อ ตามรายละเอียดด้านล่าง
โดยนำบัญชีรายรับ-รายจ่าย บัญชีทรัพย์สินและหนี้ จากนั้นไปติดต่อธนาคารเจ้าหนี้ และเปิดใจคุยกับธนาคาร โดยต้องเล่าถึงสาเหตุที่แท้จริงที่เป็นหนี้ เพื่อหาแนวทางแก้ไขที่เหมาะสมที่สุด สำหรับแนวทางแก้ไขมีให้เลือกหลายทาง เช่น
หลายๆ คนมักจะบอกว่าขอเป็นทางเลือกสุดท้าย แต่บางคนอาจมองว่าเป็นทางเลือกแรกที่ควรจะทำ โดยไปพูดความจริงให้ญาติสนิทฟังทั้งหมดว่าเกิดอะไรขึ้นกับเราบ้าง ซึ่งเชื่อว่าญาติพร้อมที่จะให้ความช่วยเหลือ แต่มีเงื่อนไขที่สำคัญเมื่อยืมเงินเค้ามาแล้วต้องเลิกพฤติกรรมการสร้างหนี้ลักษณะนี้โดยเด็ดขาด และต้องผ่อนชำระคืนให้ตรงเวลา หากไม่ปฏิบัติตามคำมั่นสัญญาที่ให้ไว้ หากในอนาคตมีความจำเป็นจะไม่มีใครให้ความช่วยเหลือเราอีกต่อไป
หลังจากที่ได้รับเงินมาแล้วไม่ว่าจะด้วยแนวทางใดก็ตาม ทั้งขายทรัพย์สินที่มี หรือได้มาจากเงินกู้ธนาคาร หรือหยิบยืมมาจากคนในครอบครัว ให้รีบนำเงินที่ได้รับมาไปชำระหนี้คืนให้เจ้าหนี้ทันทีทุกราย แต่หากไม่สามารถชำระหนี้ได้ครั้งเดียวทุกราย ให้เริ่มชำระให้เจ้าหนี้ที่เสียดอกเบี้ยมากที่สุดไปยังเจ้าหนี้ที่เสียดอกเบี้ยน้อยที่สุด และมีอีกหลายสิ่งที่ต้องทำควบคู่กันไป เช่น เปลี่ยนพฤติกรรมการใช้เงิน โดยใช้จ่ายเท่าที่จำเป็น อย่าใช้จ่ายสุรุ่ยสุร่าย ยึดหลักออมก่อนใช้ ที่สำคัญหลีกเลี่ยงการกู้เงินนอกระบบ มิฉะนั้นจะกลับเข้าสู่วังวนเดิม คือ การเป็นหนี้ไม่สิ้นสุด หากมีข้อสงสัยสามารถสอบถามได้ที่ ธนาคารกสิกรไทย LINE @kbanklive หรือ K-Contact Center 02-8888888 กด 8 กด 1 กด 4 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง หรือติดต่อผ่านสาขาของธนาคารที่สะดวกได้เช่นกัน หากมีหนี้ส่วนบุคคลที่ไม่มีหลักประกันกับหลายสถาบันการเงิน สามารถใช้บริการของคลีนิคแก้หนี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่นี่
** ตามกฎหมายกำหนดให้เจ้าหนี้บุคคลธรรมดาห้ามคิดดอกเบี้ยเกิน 15% ต่อปี หากฝ่าฝืนลูกหนี้สามารถแจ้งความดำเนินคดีได้เลย มีโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี ปรับไม่เกิน 2 แสนบาท ส่วนกรณีทวงหนี้โหด ข่มขู่ ใช้ความรุนแรง ก็สามารถแจ้งดำเนินคดีได้เช่นกัน โทษจำคุก 5 ปี ปรับไม่เกิน 5 แสนบาท
อ้างอิง : 1แนวทางการแก้ปัญหาหนี้ครัวเรือนอย่างยั่งยืน ธนาคารแห่งประเทศไทย
อ่านบทความช่วยเรื่องกู้รู้จริงเพิ่มเติม
คลิกเลยรายรับ/รายจ่าย | จำนวนเงิน | % |
เงินเดือน | 40,000 | 100% |
หัก ภาษีเงินได้ | 600 | 1.5% |
ประกันสังคม | 750 | 1.9% |
เงินกู้สวัสดิการ | 2,500 | 6.3% |
เงินเดือนสุทธิ | 36,150 | 90.4% |
หัก ค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน (เฉลี่ยวันละ 500 บาท) | 15,000 | 37.5% |
ค่าชาชมไข่มุก (เฉลี่ยนวันละ 2 แก้วๆละ 50 บาท) | 3,000 | 7.5% |
ค่าเดินทาง (เฉลี่ยวันละ 200 บาท) | 6,000 | 15.0% |
ค่าบำรุงรักษารถยนต์ (เฉลี่ย) | 1,000 | 2.5% |
ค่าสันทนาการ | 2,000 | 5.0% |
ค่าโทรศัพท์ (จำนวน 2 หมายเลข ใช้โปรฯ 535 บาท) |
1,070 | 2.7% |
ค่าไฟฟ้า | 800 | 2.0% |
ค่าน้ำ | 100 | 0.3% |
ค่าส่วนกลาง | 1,200 | 3.0% |
เงินเดือนคงเหลือก่อนจ่ายเงินกู้ | 6,980 | 17.5% |
หัก ภาระผ่อนเงินกู้ (นอกระบบและในระบบ) | 37,500 | 93.8% |
เงินเดือนคงเหลือก่อนจ่ายเงินกู้ | -30,520 | -76.3% |
ประเภททรัพย์สิน | ราคาซื้อ | ราคาตลาด | หัก ติดจำนอง/จำนำ | มูลค่าสุทธิ | หมายเหตุ |
นาฬิกา | 20,000 | 30,000 | 0 | 30,000 | นาฬิกาข้อมือ 3 เรือน |
รถมอเตอร์ไซด์ | 40,000 | 30,000 | 0 | 30,000 | ไม่ติดจำนำ |
รถยนต์ | 300,000 | 200,000 | 190,000 | 10,000 | ติดจำนำทะเบียน ยอดหนี้คงเหลือ 190,000 บาท |
คอนโด | 1,500,000 | 1,800,000 | 900,000 | 900,000 | ติดจำนอง ยอดหนี้คงเหลือ 900,000 บาท |
รวมมูลค่า | 1,860,000 | 2,060,000 | 1,090,000 | 970,000 |
ประเภทหนี้ | ชื่อเจ้าหนี้ | ประเภทวงเงิน | จำนวนเงิน | ยอดค้าง | อัตราดอกเบี้ย (ต่อปี) |
ยอดผ่อน ต่อเดือน |
หลักประกัน | หมายเหตุ |
นอกระบบ | นาย ก. | 1.เงินกู้ | 100,000 | 80,000 | 120% | 10,000 | ไม่มี | |
นอกระบบ | นาง ข. | 2.เงินกู้ | 50,000 | 45,000 | 60% | 5,000 | ไม่มี | |
ในระบบ | ธนาคาร A | 3.บัตรกดเงินสด | 30,000 | 30,000 | 20% | 1,500 | ไม่มี | จ่ายขั้นต่ำ 5% |
ในระบบ | ธนาคาร B | 4.บัตรเครดิต | 35,000 | 35,000 | 16% | 3,500 | ไม่มี | จ่ายขั้นต่ำ 10% |
ในระบบ | ธนาคาร C | 5.เงินกู้ | 200,000 | 190,000 | 15% | 5,000 | จำนำทะเบียนรถยนต์ | |
ในระบบ | สวัสดิการ | 6.เงินกู้ฉุกเฉิน | 100,000 | 50,000 | 10% | 2,500 | ไม่มี | หักเงินเดือน |
ในระบบ | ธนาคาร D | 7.สินเชื่อบ้าน | 1,500,000 | 900,000 | 7% | 10,000 | จำนองคอนโด | |
รวมทั้งหมด | 2,015,000 | 1,330,000 | 37,500 |