การลงทุนในหุ้นกู้หรือพันธบัตร
เปรียบเสมือนการให้กู้ โดยผู้ลงทุนมีสถานะเป็น “เจ้าหนี้” และผู้ออกตราสารมีสถานะเป็น “ลูกหนี้” ผู้ลงทุนจะได้รับผลตอบแทนตามเงื่อนไขที่กำหนดไว้
มีด้วยกันหลากหลายประเภทและเงื่อนไข สามารถเลือกลงทุนตามระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้ และตอบโจทย์การลงทุนมากที่สุด
เป็นการลงทุนที่มั่นคงปลอดภัย และมีความเสี่ยงต่ำ
หุ้นกู้ออกโดยบริษัทเอกชนหรือรัฐวิสาหกิจ มีด้วยกันหลากหลายประเภท และเงื่อนไขสามารถเลือกลงทุนตามระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้และ ตอบโจทย์การลงทุนมากที่สุด
ผู้ลงทุนควรศึกษาและทำความเข้าใจในลักษณะสินค้าเงื่อนไขผลตอบแทนและความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน
พันธบัตรออกโดยรัฐบาลหรือรัฐวิสาหกิจ เป็นการลงทุนที่มั่นคงปลอดภัยและมีความเสี่ยงต่ำ
ผู้ลงทุนควรศึกษาและทำความเข้าใจในลักษณะสินค้าเงื่อนไขผลตอบแทนและความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน
*ธนาคารขอสงวนสิทธิ์ที่จะเปิดจองซื้อเฉพาะหุ้นกู้/พันธบัตรบางรุ่นเท่านั้นตามความเหมาะสม
หุ้นกู้/พันธบัตร คือ ตราสารหนี้ที่ผู้ออกต้องการระดมเงินทุนจากนักลงทุน โดยจะให้ผลตอบแทนแก่นักลงทุนและจ่ายชำระคืนเงินต้นตามเงื่อนไขที่กำหนด (ส่วนมากผลตอบแทนมักเป็นในรูปแบบของดอกเบี้ยทุกงวด 3 หรือ 6 เดือน โดยอัตราดอกเบี้ยคงที่ตลอดอายุ และจะจ่ายชำระคืนเงินต้นครั้งเดียวเมื่อครบกำหนด) กล่าวง่าย ๆ คือผู้ออกตราสารขอกู้ยืมเงินจากนักลงทุน และตราสารหนี้เป็นเหมือนสัญญากู้ยืมเงินระหว่างผู้ออกตราสารและนักลงทุน โดยพันธบัตรเป็นตราสารหนี้ที่ออกโดยรัฐบาลหรือรัฐวิสาหกิจ ในขณะที่หุ้นกู้เป็นตราสารหนี้ที่ออกโดยบริษัทเอกชนหรือรัฐวิสาหกิจ
เป็นแหล่งรายได้ประจำที่คาดการณ์ได้ตลอดระยะเวลาที่กำหนด เนื่องจากหุ้นกู้/พันธบัตรทั่วไปในตลาดจะจ่ายดอกเบี้ยแบบคงที่และเป็นงวด ๆ ซึ่งคล้ายกับเงินฝากธนาคารแต่มักได้ผลตอบแทนสูงกว่าการฝากเงินธนาคาร เนื่องจากมีความเสี่ยงที่สูงกว่า ทั้งนี้ผลตอบแทนขึ้นอยู่กับความเสี่ยงของหุ้นกู้/พันธบัตร ผู้ลงทุนควรศึกษาและทำความเข้าใจในลักษณะสินค้า เงื่อนไข ผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน
หุ้นกู้/พันธบัตรไม่ใช่การฝากเงิน แม้ว่าหุ้นกู้/พันธบัตรส่วนใหญ่ในตลาดจะให้ผลตอบแทนในรูปแบบของดอกเบี้ย เนื่องจากหุ้นกู้/พันธบัตรส่วนใหญ่ในตลาดเป็นประเภทที่ไม่รับประกันผลตอบแทนและเงินต้น จึงมีความเสี่ยงที่ผู้ออกตราสารจะไม่สามารถจ่ายชำระดอกเบี้ยและเงินต้นได้ตามที่กำหนด ดังนั้นก่อนการลงทุนผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลผลการดำเนินงานของผู้ออกตราสาร รวมถึงคอยติดตามข้อมูลข่าวสารของผู้ออกตราสารอย่างต่อเนื่อง
ไม่ใช่ ธนาคารกสิกรไทยเป็นเพียงผู้จัดจำหน่ายหุ้นกู้ให้แก่บริษัทผู้ออกหุ้นกู้ ซึ่งหุ้นกู้ที่ขายอาจจะออกโดยธนาคารกสิกรไทย หรือบริษัทอื่นก็ได้
การลงทุนใน หุ้นกู้/พันธบัตร มีความเสี่ยงดังนี้
ผู้ลงทุนสามารถติดต่อขอรับหนังสือชี้ชวน เพื่อทำความเข้าใจในลักษณะสินค้า เงื่อนไข ผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุนได้ที่ธนาคารกสิกรไทยทุกสาขา
Credit rating คือการจัดอันดับความน่าเชื่อถือของผู้ออกตราสารหนี้ บอกถึงความสามารถในการชำระหนี้ สะท้อนความเสี่ยงของผู้ออก หรือคุณภาพของหุ้นกู้ ซึ่งประเมินโดยสถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือที่ได้รับความเห็นชอบจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ หรือ ก.ล.ต. ทั้งนี้ ผู้ลงทุนสามารถดู credit rating เพื่อประกอบการตัดสินใจลงทุนได้ โดยถ้า credit rating ของผู้ออกตราสารต่ำ แสดงว่าความเสี่ยงด้านเครดิตสูง ดังนั้นผลตอบแทนที่ผู้ลงทุนได้รับควรจะสูงด้วยเพื่อชดเชยความเสี่ยงที่สูงดังกล่าว Credit Rating มีการจัดอันดับตั้งแต่ AAA ถึง D ซึ่ง AAA สะท้อนความเสี่ยงในการผิดนัดชำระหนี้ต่ำ ในขณะที่ D สะท้อนความเสี่ยงจากการที่ผู้ออกตราสารหนี้ไม่สามารถชำระหนี้คืนได้ โดยระดับความน่าลงทุนสามารถแบ่งออกได้เป็น 2 กลุ่มคือ
อย่างไรก็ตาม Credit Rating อาจมีการยกเลิกหรือเปลี่ยนแปลงได้ หากมีปัจจัยเสี่ยงจากสถานการณ์ต่าง ๆ ที่ส่งผลกระทบต่อความสามารถในการชำระหนี้ของผู้ออกหุ้นกู้ เช่น การเปลี่ยนแปลงของสภาวะเศรษฐกิจ อุตสาหกรรมและสภาพแวดล้อมทางธุรกิจในอนาคตของผู้ออกหุ้นกู้ ดังนั้นผู้ลงทุนควรติดตามข่าวสารของผู้ออกหุ้นกู้ รวมถึงการเปลี่ยนแปลงการจัดอันดับความน่าเชื่อถือโดยสถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือที่ได้รับความเห็นชอบจาก ก.ล.ต. ตลอดระยะเวลาการลงทุน
ไม่ใช่ หากเป็นหุ้นกู้/พันธบัตรประเภทไม่รับประกันเงินต้นและ/หรือดอกเบี้ย ยังคงมีความเสี่ยงจากการผิดนัดชำระหนี้อยู่เสมอไม่ว่า rating จะสูงเพียงใดก็ตาม เพียงแต่มีความเสี่ยงในระดับที่ต่ำกว่าหุ้นกู้ที่มี rating ต่ำกว่าเท่านั้น
หุ้นกู้/พันธบัตรที่มีอัตราผลตอบแทนที่สูงกว่า ย่อมมีความเสี่ยงสูงกว่าหุ้นกู้/พันธบัตรที่มีผลตอบแทนต่ำกว่า (High risk, high return) ดังนั้น ผู้ลงทุนควรประเมินความเสี่ยงที่ยอมรับได้ และศึกษาทำความเข้าใจในลักษณะสินค้า เงื่อนไข ผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน
ได้ สามารถติดต่อธนาคารพาณิชย์หรือบริษัทหลักทรัพย์ เพื่อให้ติดต่อหาผู้รับซื้อให้ (ธนาคาร/บริษัทหลักทรัพย์ต่าง ๆ อาจไม่ได้รับซื้อไว้เอง) อย่างไรก็ตามตลาดอาจไม่มีสภาพคล่อง ซึ่งทำให้ขายไม่ได้ในทันที และอาจขายไม่ได้เท่ากับราคาที่ซื้อมาหรือไม่ได้ตามราคาที่ต้องการ ทั้งนี้ธนาคารกสิกรไทยไม่ได้มีข้อผูกมัดในการรับซื้อตราสาร แม้ว่าตราสารหนี้นั้นจะขายโดยธนาคารกสิกรไทยก็ตาม
ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของตราสารแต่ละรุ่น ทั้งนี้ผู้ลงทุนสามารถขอรับหนังสือชี้ชวนเพื่อทำความเข้าใจในลักษณะสินค้า เงื่อนไข ผลตอบแทน และ ความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุนได้ที่ธนาคารกสิกรไทยทุกสาขา