ผู้ลงทุนรายใหญ่ ซึ่งรวมถึงชาวต่างชาติ (ควรมี Tax ID มิฉะนั้นอาจมีปัญหาตอนต้องการ claim ภาษีที่ถูกหักจากดอกเบี้ยไว้) และนิติบุคคล ยกเว้นผู้เยาว์ (ผู้เยาว์ที่อายุยังไม่ถึง 20 ปีบริบูรณ์ในวันจองซื้อ) โดยผู้ลงทุนรายใหญ่ต้องมีคุณสมบัติ ดังนี้
1.คุณสมบัติด้านความรู้หรือประสบการณ์
บุคคลธรรมดาหรือ บุคคลธรรมดาที่มีส่วนร่วมในการตัดสินใจลงทุนของนิติบุคคล (กรณีผู้ลงทุนที่เป็นนิติบุคคล)ซึ่งมีลักษณะใดลักษณะหนึ่งดังนี้)
- มีประสบการณ์การลงทุนย้อนหลังในสินทรัพย์เสี่ยง (เช่น กองทุน หุ้นกู้ ทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ (REIT) หรือหุ้นสามัญ เป็นต้น) เป็นประจำและต่อเนื่อง (อย่างน้อยไตรมาสละ 1 (หนึ่ง) ครั้งในช่วง 4 (สี่) ไตรมาสที่ผ่านมา หรือปีละ 1 (หนึ่ง) ครั้งติดต่อกัน 2 (สอง) ปี)
- มีประสบการณ์การทำงานด้านการบริหารการเงินและการลงทุน (เช่น ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงิน (Chief Financial Officer) พนักงาน หรือผู้บริหารที่รับผิดชอบในสายงานการลงทุนหรือสายงานบริหารการเงิน เป็นต้น)
- มีความรู้ความเข้าใจในหลักทรัพย์ที่ลงทุนอย่างเพียงพอ (เช่น มีวุฒิการศึกษาเกี่ยวกับเศรษฐศาสตรบัณฑิต หรือวุฒิการศึกษาเกี่ยวกับสาขาการเงิน หรือถือครองหลักทรัพย์ประเภทเดียวกันนี้อยู่แล้ว)
เป็นผู้แนะนำการลงทุนหรือผู้วางแผนการลงทุนที่ได้รับความเห็นชอบจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (“สำนักงาน ก.ล.ต.”) ได้รับวุฒิบัตรหลักสูตรใดหลักสูตรหนึ่ง ดังนี้
- Chartered Financial Analyst (CFA)
- Certified Investment and Securities Analyst (CISA)
- Chartered Alternative Investment Analyst (CAIA)
- Certified Financial Planner (CFP)
- หลักสูตรตามที่สำนักงาน ก.ล.ต. ประกาศกำหนด
2.คุณสมบัติด้านฐานะการเงิน
บุคคลธรรมดาซึ่งนับรวมกับคู่สมรส ที่มีฐานะการเงินอย่างใดอย่างหนึ่งดังนี้
- มีสินทรัพย์สุทธิไม่น้อยกว่า 30,000,000 บาท (สามสิบล้านบาท) ทั้งนี้ สินทรัพย์ดังกล่าวไม่นับรวมมูลค่าอสังหาริมทรัพย์ซึ่งใช้เป็นที่พักอาศัยประจำของบุคคลนั้น
- มีรายได้ต่อปีไม่น้อยกว่า 3,000,000 บาท (สามล้านบาท)
- มีเงินลงทุนโดยตรงในหลักทรัพย์หรือสัญญาซื้อขายล่วงหน้าไม่น้อยกว่า 8,000,000บาท (แปดล้านบาท) หรือในกรณีที่นับรวมเงินฝากแล้วมีเงินลงทุนในทรัพย์สินดังกล่าวไม่น้อยกว่า 15,000,000 บาท (สิบห้าล้านบาท)
นิติบุคคลที่มีฐานะการเงินอย่างใดอย่างหนึ่งดังนี้
- มีส่วนของผู้ถือหุ้นตามงบการเงินประจำงวดปีบัญชีล่าสุดที่ผู้สอบบัญชีตรวจสอบแล้วไม่น้อยกว่า 75,000,000 บาท (เจ็ดสิบห้าล้านบาท)
- มีเงินลงทุนโดยตรงในหลักทรัพย์หรือสัญญาซื้อขายล่วงหน้าไม่น้อยกว่า 15,000,000 บาท (สิบห้าล้านบาท) หรือในกรณีที่นับรวมเงินฝากแล้วมีเงินลงทุนในทรัพย์สินดังกล่าวไม่น้อยกว่า 30,000,000 บาท (สามสิบล้านบาท) ทั้งนี้ ให้พิจารณาตามงบการเงินประจำงวดปีบัญชีล่าสุดที่ผู้สอบบัญชีตรวจสอบแล้ว
ไม่ได้ บุคคลที่จะจองซื้อต้องมีอายุตั้งแต่ 20 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป ณ วันที่จะทำรายการจองซื้อ
ได้ ให้แนบสำเนาใบต่างด้าวหรือสำเนาหนังสือเดินทางแทนบัตรประชาชนเวลามาจองซื้อ (ต้องมีเลขประจำตัวผู้เสียภาษีเท่านั้นถึงจะจองซื้อได้)
ในกรณีที่ยังไม่ใช่ลูกค้า KBank สามารถเป็นลูกค้า KBank ได้โดยการเปิดบัญชี e-saving ที่ https://kbank.co/2AdhTHz และไปยืนยันตัวตนที่ตู้ ATM หรือ ตัวแทนธนาคาร โดยไม่ต้องไปสาขา (เช่น ถ้าเปิดบัญชีช่วง 20:00 ของวันที่ 1 ถึง 6:00 ของวันที่ 2 จะใช้ได้หลัง 6:00 ของวันที่ 2)
ผู้จองซื้อสามารถมอบอำนาจให้ผู้อื่นดำเนินการจองซื้อแทนได้ เฉพาะกรณีเป็นลูกค้า KBank ที่เคยทำ KYC/CDD และ suitability test (กับ KBank และอายุไม่เกิน 2 ปี) โดยต้องมีเอกสารมอบอำนาจอย่างถูกต้อง โดยผู้จองซื้อจะต้องแนบเอกสารประกอบการจองซื้อเพิ่มเติมเพื่อให้ผู้รับมอบอำนาจยื่นต่อธนาคารดังต่อไปนี้
- หนังสือมอบอำนาจฉบับจริง ที่ลงนามถูกต้องครบถ้วนพร้อมปิดอากรแสตมป์ 30 บาท
-
สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน สำเนาใบต่างด้าว หรือสำเนาหนังสือเดินทางที่ยังไม่หมดอายุ (แล้วแต่กรณี) ของผู้มอบอำนาจ พร้อมลงนามสำเนาถูกต้อง โดยลายมือชื่อนั้นจะต้องตรงกับลายมือชื่อที่ลงนามในเอกสารที่เกี่ยวข้องกับการจองซื้อทุกฉบับ
- สำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของผู้รับมอบอำนาจ พร้อมลงนามสำเนาถูกต้อง
ทั้งนี้การมอบอำนาจดังกล่าว ไม่รวมถึงการประเมินความเหมาะสมในการลงทุน (Suitability Test)
รายการจองซื้อจะสำเร็จเมื่อผู้จองซื้อหุ้นกู้ทำการจองและชำระเงินค่าจองซื้อครั้งเดียวเต็มจำนวนที่จองซื้อ
- หากจองซื้อผ่านระบบออนไลน์ K-My invest การจองซื้อสำเร็จจะได้ SMS/Email ยืนยันจากระบบ
- หากจองซื้อผ่านสาขา สามารถตรวจสอบได้จากสาขาที่ท่านจองซื้อไว้
สามารถเลือกรับหลักทรัพย์ได้ 2 วิธี คือ 1. รับเป็นใบ 2. รับเข้าหลักทรัพย์ของลูกค้า เท่านั้น
กรณียังไม่ได้รับใบหุ้นกู้ หรือต้องการสอบถามสถานะการจัดส่งใบหุ้นกู้ ให้ติดต่อสอบถามที่นายทะเบียน ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน)
- รับเป็นใบหุ้นกู้ : นายทะเบียนจะจัดส่งใบหุ้นกู้ให้แก่ผู้ถือหุ้นกู้ภายใน 15 วันทำการนับตั้งแต่ปิดการเสนอขายหุ้นกู้
- รับเข้าบัญชีหลักทรัพย์ของลูกค้า : นายทะเบียนจะฝากหุ้นกู้ให้ภายใน 7 วันทำการนับตั้งแต่ปิดการเสนอขายหุ้นกู้
กรณียังไม่ได้รับใบหุ้นกู้ หรือต้องการสอบถามสถานะการจัดส่งใบหุ้นกู้ ให้ติดต่อสอบถามที่นายทะเบียน ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) ติดต่อเบอร์ 02-296-5999
ชำระดอกเบี้ยทุก ๆ 6 เดือน ในวันที่ 13 มิถุนายน และวันที่ 13 ธันวาคม ของทุกปีตลอดอายุของหุ้นกู้ ทั้งนี้ ผู้ออกหุ้นกู้จะชำระดอกเบี้ยงวดแรกในวันที่ 13 ธันวาคม พ.ศ. 2568 และจะชำระดอกเบี้ยงวดสุดท้ายในวันครบกำหนดไถ่ถอนหุ้นกู้แต่ละชุด
สามารถทำได้ โดยติดต่อธนาคารพาณิชย์หรือบริษัทหลักทรัพย์ เพื่อให้ลองหาผู้ซื้อให้ได้ (ธนาคาร/บริษัทหลักทรัพย์ต่างๆ อาจไม่ได้รับซื้อไว้เอง) อย่างไรก็ตาม ตลาดอาจไม่มีสภาพคล่อง ซึ่งทำให้ขายไม่ได้ในทันที และอาจไม่ได้ราคาเท่ากับที่ซื้อมาหรือไม่ได้ราคาที่ต้องการ
ไม่ได้ แต่ KBank สามารถแนะนำโอกาสการลงทุนอื่นให้ได้
ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (หมาชน) ติดต่อเบอร์ 02-296-5999