หากจะกล่าวว่า “อาชีพอิสระหรือฟรีแลนซ์” (Freelance) กำลังเป็นอาชีพยอดฮิตหรือยอดนิยมของหลายคนๆ ในปัจจุบัน อาชีพอิสระหรือฟรีแลนซ์ในประเทศไทย เป็นอาชีพที่เน้นเรื่องของ “การให้บริการ” (Service) เป็นหลัก มีลักษณะการทำงานเป็นแบบออกแรงทำงานคนเดียว หรือใช้คนทำงานไม่มาก ไม่มีหน้าร้านไว้ขายของ ไม่มีการจดทะเบียนพาณิชย์หรือจดทะเบียนจัดตั้งนิติบุคคล มักจะมีการรับงานผ่านมือถือ, ไลน์ หรือเฟสบุ๊ค เมสเซนเจอร์ เป็นหลัก สำหรับอาชีพฟรีแลนซ์ สามารถแบ่งออกได้ 2 รูปแบบใหญ่ ได้แก่
รูปแบบแรก - ฟรีแลนซ์แบบดั้งเดิม มีลักษณะงานส่วนใหญ่ต้องออกไปทำงานนอกบ้าน ต้องใช้แรงงานเป็นหลัก เช่น ไรเดอร์ส่งสินค้าหรือส่งอาหาร, ช่างภาพ, นายหน้าประกันชีวิต / ประกันวินาศภัย, นายหน้าอสังหาริมทรัพย์, ไกด์นำเที่ยว, ช่างไฟฟ้า, ช่างแอร์, นักดนตรี, ศิลปินและนักแสดง เป็นต้น
รูปแบบที่สอง - ฟรีแลนซ์แบบทำงานออนไลน์ เน้นการใช้เทคโนโลยีในการทำงาน ส่วนใหญ่ทำงานที่บ้านเป็นหลัก ตั้งแต่เริ่มต้นคุยงานหรือรับงาน การทำงาน และการส่งมอบงาน อาชีพฟรีแลนซ์ที่ทำงานในรูปแบบนี้ เช่น ออกแบบกราฟิก, ออกแบบเว็บไซต์, เขียนโปรแกรม, เขียนเว็บไซต์, ตัดต่อวีดีโอ หรือใส่คำแปลลงใน Youtube และ Facebook, แปลภาษา, เขียนบทความ เป็นต้น
อย่างที่เกริ่นนำไปแล้วในข้างต้น อาชีพอิสระหรือฟรีแลนซ์เป็นอาชีพที่หลายๆ คนให้ความสนใจ จากผลการสำรวจข้อมูลแรงงานนอกระบบปี 25641 พบว่า สาเหตุที่คนต้องการทำอาชีพอิสระ โดยให้ตอบเฉพาะคนที่เคยทำงานประจำมาก่อน โดยเหตุผลที่คนตอบมาเป็นอันดับ 1 คือ “ต้องการอิสระ” ร้อยละ 41.42 ซึ่งเหตุผลข้อนี้คงตรงกับความคิดของคนส่วนใหญ่ที่หันมาทำอาชีพอิสระหรือฟรีแลนซ์ ส่วนเหตุผลต่อมา คือ “ค่าจ้าง / รายได้ไม่คุ้มค่า” ร้อยละ 19.26 และอันดับ 3 คือ “ถูกเลิกจ้าง” ร้อยละ 10.84
คนที่ต้องการเริ่มอาชีพนี้ หากเป็นเด็กจบใหม่ คงตัดสินใจได้ไม่ยากที่จะเริ่มต้นอาชีพด้วยการเป็นฟรีแลนซ์ แต่ถ้าเป็นคนที่มีงานประจำทำอยู่แล้วคงต้องชั่งใจดีๆ ว่าหากจะต้องเลิกจากงานประจำที่ทำอยู่แล้วหันมาเป็นฟรีแลนซ์เต็มตัว สำหรับเรื่องที่ต้องให้ความสำคัญ ประกอบด้วย
คำแนะนำเพิ่มเติม : สำหรับคนที่ทำงานประจำ สามารถทำอาชีพอิสระหรือฟรีแลนซ์เป็นอาชีพเสริมได้ เพื่อเป็นการทดลองดูก่อน อย่าพึ่งรีบร้อนลาออกจากงานเดิม หากทดลองทำไปสักระยะแล้วเห็นว่าดีค่อยตัดสินใจใหม่ได้ แต่ถ้าหากเห็นว่าไม่ค่อยดีหรือได้ไม่คุ้มเหนื่อยก็อาจจะเลิกทำได้ เพราะอย่างน้อยก็ยังมีงานประจำทำอยู่
หากมีการเตรียมความพร้อมตั้งแต่เนิ่นๆ ไม่ว่าจะทำงานในสาขาอาชีพใดการขอสินเชื่อก็ไม่ใช่เรื่องยาก ธนาคารพร้อมที่จะให้สินเชื่อกับผู้ที่แสดงให้ธนาคารเห็นว่า “เมื่อกู้เงินไปแล้วสามารถจ่ายคืนหนี้ได้” สำหรับหลักเกณฑ์ในการให้สินเชื่อของธนาคาร นอกจากจะดูจากวงเงินสินเชื่อที่ขอแล้ว จะดูในเรื่องของประวัติการชำระหนี้ในอดีตที่ผ่านมา ดูในเรื่องของหลักประกัน (ถ้ามี) และประเด็นสำคัญจะดูจากความสามารถในการชำระหนี้ ซึ่งธนาคารจะดูจากเอกสารทางการเงินของผู้ขอสินเชื่อเป็นหลัก
ดังนั้น คนที่ทำอาชีพอิสระหรือฟรีแลนซ์ เมื่อมีการรับงาน แนะนำให้เก็บรวบรวมสัญญาจ้างงานไว้ทุกฉบับ และนำเงินค่าจ้างที่ได้รับทั้งหมดเข้าบัญชี (กรณีรับเป็นเงินสด) ต้องการใช้เมื่อไหร่ค่อยถอนออกมาใช้เท่าที่จำเป็น เพื่อเป็นการแสดงให้เห็นถึงความสม่ำเสมอของรายได้ว่ามีเพียงพอที่ชำระหนี้คืนธนาคารได้ หากมีข้อสงสัยสอบถามได้ที่ LINE @kbanklive หรือ K-Contact Center 02-8888888 กด 8 กด 1 กด 4 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง หรือติดต่อผ่านสาขาของธนาคารที่สะดวกได้เช่นกัน
ขอบคุณข้อมูลจาก
อ่านบทความช่วยเรื่องกู้รู้จริงเพิ่มเติม
คลิกเลย