หลังจากที่ได้เซ็นสัญญากู้ยืมเงิน และธนาคารได้โอนเงินหรือตั้งวงเงินให้เรียบร้อยแล้ว มีหลายๆ เรื่องที่ผู้กู้ผ่านระบบออนไลน์มักไม่รู้หรือไม่มีความเข้าใจจนนำไปสู่การตัดสินใจหรือมีวิธีปฏิบัติที่ผิดๆ จนเกิดต้นทุนทางการเงินที่ไม่จำเป็น โดยในบทความนี้ขอเสนอเรื่องเกี่ยวกับ “เงินก้อนหรือเงินกู้” และ “เงินหมุนหรือกู้เบิกเงินเกินบัญชี” ดังนี้
ซึ่งธนาคารส่วนใหญ่จะเป็นไปในลักษณะเดียวกัน สำหรับเงินที่นำมาชำระเพิ่มจะถูกแบ่งไปชำระดอกเบี้ยที่คิดจนถึงวันที่ชำระเพิ่มก่อน และส่วนที่เหลือจะนำไปชำระเงินต้น ไม่ได้เป็นการชำระเงินต้นทั้งหมด ข้อดีของการโปะ จะทำให้เสียดอกเบี้ยน้อยลง และหมดหนี้เร็วขึ้น
จากตัวอย่างรายการเดินบัญชี สมมติว่าธนาคารตั้งวงเงินกู้เบิกเงินเกินบัญชีไว้ 500,000 บาท และผูกวงเงินดังกล่าวไว้กับบัญชีกระแสรายวัน ในวันที่ 1 / 10 บัญชีกระแสรายวันดังกล่าวมียอดคงเหลือ 10,000 บาท และในวันเดียวกันมีเงินโอนเข้ามาอีก 90,000 บาท ทำให้มียอดคงเหลือเป็นบวกหรือตัวดำ 100,000 บาท ซึ่งผู้กู้จะสามารถเบิกถอนเงินจากบัญชีกระแสรายวันดังกล่าวได้ถึง 600,000 บาท (เบิกจากยอดเงินคงเหลือในบัญชี 100,000 บาท ส่วนอีก 500,000 บาท เป็นการเบิกใช้จากวงเงินกู้เบิกเงินเกินบัญชี) ต่อมาในวันที่ 3 / 10 มีการเบิกถอนเงินจากบัญชีดังกล่าวจำนวน 250,000 บาท ซึ่งถือเป็นการถอนเงินฝากที่มีอยู่ในบัญชีจำนวน 100,000 บาท ส่วนอีก 150,000 บาท จะเป็นการเบิกใช้วงเงินกู้เบิกเงินเกินบัญชี ทำให้ในสิ้นวันดังกล่าวผู้กู้มียอดคงเหลือในบัญชีติดลบหรือเป็นตัวแดง 150,000 บาท (ในรายการเดินบัญชีช่องยอดคงเหลือจะแสดง “- 150,000.00”) และคงเหลือวงเงินกู้เบิกเงินเกินบัญชีที่เบิกใช้ได้อีก 350,000 บาท โดยธนาคารจะเริ่มคิดดอกเบี้ยสำหรับจำนวนเงินกู้เบิกเงินเกินบัญชี 150,000 บาท ในอัตราดอกเบี้ยส่วนที่ไม่เกินวงเงินตามที่ตกลงกันไว้ในสัญญากู้เบิกเงินเกินบัญชีตั้งแต่วันที่ 3 / 10 เป็นต้นไป โดยผู้กู้ต้องนำดอกเบี้ยดังกล่าวมาชำระคืนให้แก่ธนาคารภายในวันทำการสุดท้ายของที่มีการเบิกใช้วงเงินต่อไป
แต่ถ้าเป็นบัญชีกระแสรายวันที่ไม่มีวงเงินกู้เบิกเงินเกินบัญชีผูกอยู่ ธนาคารมีสิทธิปฏิเสธไม่ทำรายการเบิกถอนเงินจากบัญชีดังกล่าวเกินกว่ายอดเงินฝากที่มีอยู่ในบัญชี โดยรายการเดินบัญชี หรือ Statement จะมียอดเป็นบวกเท่านั้น จากตัวอย่างรายการเดินบัญชีกระแสรายวันด้านล่างจะพบว่า มียอดคงเหลือเป็นบวกหรือตัวดำทุกรายการ (แต่จะไม่ได้แสดงเครื่องหมายบวกไว้ให้เห็น) ซึ่งยอดคงเหลือที่แสดงไว้จะหมายถึงยอดที่สามารถเบิกถอนได้ ตัวอย่างเช่น ถ้าต้องการเบิกเงิน ในวันที่ 15 / 10 จะสามารถเบิกได้ไม่เกิน 34,000 บาท
อย่างไรก็ดี ในข้อกำหนดและเงื่อนไขการเปิดและใช้บัญชีเงินฝากกระแสรายวันของธนาคารระบุว่า หากธนาคารยินยอมทำรายการเบิกถอนเงินจากบัญชีดังกล่าวให้แก่ลูกค้าเกินกว่ายอดเงินคงเหลือในบัญชี ผู้กู้ตกลงให้ถือว่าเป็นหนี้กู้เบิกเงินเกินบัญชี และยอมใช้เงินส่วนที่ธนาคารจ่ายไปเกินกว่ายอดเงินคงเหลือในบัญชีคืนให้ธนาคารพร้อมดอกเบี้ยในอัตราดอกเบี้ยกู้เบิกเงินเกินบัญชี โดยไม่มีสัญญา ตามที่ธนาคารประกาศไว้ ซึ่งหากธนาคารยินยอมทำรายการดังกล่าวให้แก่ผู้กู้ในรายการเดินบัญชีก็จะแสดงยอดคงเหลือในบัญชีติดลบ
สำหรับ เรื่องที่คนยืมเงินออนไลน์มักไม่รู้เกี่ยวกับการยืมเงินก้อน (เงินกู้) และเงินหมุน (กู้เบิกเงินเกินบัญชี) ส่วนใหญ่เป็นเรื่องของการชำระคืนหนี้ที่หลายๆ คนมักจะไม่รู้หรือเข้าใจผิด ถึงแม้จะดูเป็นเรื่องเล็กๆ แต่ก็จะมีผลทำให้การจ่ายคืนหนี้หรือการหมุนเวียนบัญชีไม่สม่ำเสมอ อาจจะกลายเป็นหนี้ค้างชำระ ซึ่งจะทำให้มีประวัติการชำระหนี้ที่ไม่ค่อยดี และจะทำให้เครดิตไม่ดีไปด้วย หากมีข้อสงสัยสามารถสอบถามได้ที่ LINE @kbanklive หรือสอบถามได้จากสาขาธนาคารที่สะดวก
เมื่อได้ยืมไปแล้วมีการหมุนเวียนบัญชีที่ดี (รับ - จ่ายผ่านบัญชีเป็นหลัก) ไม่ใช้วงเงินเต็มตลอดเวลา (ไม่ควรใช้เกิน 80%) ส่วนเงินก้อน สามารถผ่อนชำระได้ตามเงื่อนไข หากในอนาคตต้องการยืมเงินเพิ่มไม่ว่าจะเป็นการยืมเงินประเภทใด ก็สามารถทำได้โดยง่าย เพราะอย่างน้อยที่ผ่านมามีประวัติการผ่อนชำระที่ดี และยังมีผลโดยตรงที่ทำให้มีเครดิตที่ดีไปในตัว โดยเพียงแค่ปฏิบัติได้ตามเงื่อนไขที่กำหนดเท่านั้น
* ใช้อัตราดอกเบี้ย 25% ในการคำนวณเงินหมุนเวียนและเงินก้อน ทั้งนี้ โปรดตรวจสอบอัตราดอกเบี้ยอีกครั้งก่อนการกู้ยืม
อ่านบทความช่วยเรื่องกู้รู้จริงเพิ่มเติม
คลิกเลยเงินก้อนหรือเงินกู้ | เงินหมุนหรือกู้เบิกเงินเกินบัญชี |
---|---|
หลังจากเซ็นสัญญากู้เงิน และธนาคารได้โอนเงินก้อนทั้งจำนวนเข้าบัญชีออมทรัพย์ที่ผู้กู้แจ้งไว้เรียบร้อยแล้ว เท่ากับว่าผู้กู้ได้เริ่มเป็นหนี้ธนาคารแล้วและธนาคารจะเริ่มคิดดอกเบี้ยจากเงินกู้ทั้งจำนวนทันทีตั้งแต่วันที่โอนเงินกู้เข้าบัญชีออมทรัพย์เป็นต้นไป ถึงแม้ผู้กู้จะยังไม่เบิกออกมาใช้เลย หรือเบิกออกมาใช้เพียงบางส่วนก็ตาม เช่น เมื่อวันที่ 1/10/2022 ธนาคารโอนเงินกู้เข้าบัญชีออมทรัพย์ จำนวน 500,000 บาท แม้ผู้กู้พึ่งเบิกใช้ไปเพียง 100,000 บาท ธนาคารจะเริ่มคิดดอกเบี้ยจากต้นเงินกู้ 500,000 บาท ตั้งแต่วันที่ 1/10/2022 เป็นต้นไป | หลังจากเซ็นสัญญากู้เบิกเงินเกินบัญชีแล้ว ธนาคารจะทำการตั้งวงเงินกู้เบิกเงินเกินบัญชีในบัญชีกระแสรายวันที่ผู้กู้แจ้งไว้ แต่ผู้กู้ยังไม่เริ่มเป็นหนี้ธนาคารจนกว่าผู้กู้จะมีการเบิกเงินออกจากบัญชีกระแสรายวัน และธนาคารจะเริ่มคิดดอกเบี้ยจากยอดที่เบิกใช้ตั้งแต่วันที่ผู้กู้เบิกใช้เป็นต้นไป โดยไม่ได้คิดจากวงเงินกู้เบิกเงินเกินบัญชีที่ตั้งวงเงินไว้ให้ เช่น เมื่อวันที่ 1/10/2022 ธนาคารตั้งวงเงินให้ผู้กู้ 500,000 บาท ผู้กู้เริ่มเบิกใช้เมื่อวันที่ 15/10/2022 จำนวน 100,000 บาท ธนาคารจะเริ่มคิดดอกเบี้ยจากจำนวนเงินกู้ที่ผู้กู้เบิกใช้ 100,000 บาท ตั้งแต่วันที่ 15/10/2022 เป็นต้นไป และหากต่อมาในวันที่ 18/10/2022 ผู้กู้นำเงินมาชำระยอดเงินกู้ที่เบิกใช้เต็มจำนวน ธนาคารจะคิดดอกเบี้ยจากจำนวนเงินกู้ที่เบิกใช้ 100,000 บาท จำนวน 3 วันเท่านั้น |