ข้อมูลหนังสือรับรองภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่าย
สะดวก และไม่จำเป็นต้องมาขอหนังสือรับรองการหักภาษี ณ ที่จ่าย ที่สาขา
ขอข้อมูลการหักภาษี ณ ที่จ่ายได้ข้อมูลทันทีผ่าน e-Withholding Taxของกรมสรรพากร ตลอด 24 ชม.
ไม่ต้องยื่นเอกสาร หรือเก็บหลักฐานเพื่อให้กรมสรรพากรตรวจสอบย้อนหลัง(paperless)
บุคคลธรรมดา
นิติบุคคล
ที่ถูกหักภาษี ณ ที่จ่ายภาษีดอกเบี้ยเงินฝาก และมีเลขประจำตัวผู้เสียภาษีอากร 13 หลักในระบบของธนาคารก่อนที่ธนาคารจะหักภาษี ณ ที่จ่ายนำส่งให้กรมสรรพากร
ลงทะเบียนสมัครรหัสผู้ใช้งานเข้าระบบ e-Filing(สำหรับลูกค้าที่เคยยื่นภาษีออนไลน์ หรือมีรหัสผู้ใช้งานเข้าระบบ e-Filing แล้ว สามารถข้ามไปขั้นตอนที่ 2)
ลงทะเบียนเพื่อเข้าใช้งานระบบ e-Withholding Tax (ลงทะเบียนครั้งแรกเท่านั้น)
เข้าสู่เว็บไซต์กรมสรรพากร Click : https://www.rd.go.th/272.html
เลือกเมนู “e-Withholding Tax”
เลือกเมนู “บริการคัดค้นข้อมูลภาษีและการใช้จ่าย”
เลือกเมนู “เข้าสู่ระบบ e-Filing”
Login ด้วยรหัสผู้ใช้งานและรหัสผ่านในระบบ e-Filing
ขอข้อมูลภาษีหัก ณ ที่จ่ายจากดอกเบี้ยเงินฝากผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ (e-Withholding Tax)
เข้าสู่เว็บไซต์กรมสรรพากร https://epay.rd.go.th/
Login ด้วยรหัสผู้ใช้งานและรหัสผ่านที่เคยลงทะเบียนไว้ในระบบ e-Filing
เลือก “ดูข้อมูล” ภาษีหัก ณ ที่จ่าย
ลูกค้าจะพบข้อมูลการหักภาษี ณ ที่จ่ายทั้งหมด และสามารถเลือกรายการและ download เอกสารได้
ติดต่อสาขาของธนาคารที่สะดวกเพื่อขอเพิ่มเลขประจำตัวผู้เสียภาษี 13 หลักและสามารถขอหนังสือรับรองการหักภาษี ณ ที่จ่ายจากดอกเบี้ยเงินฝากได้
บุคคลธรรมดาสัญชาติไทย
บุคคลธรรมดาชาวต่างชาติ และบุคคลธรรมดาต่างด้าว
เอกสารประกอบการใช้บริการ
ธนาคารมีการนำส่งข้อมูลรายการภาษีหัก ณ ที่จ่ายดอกเบี้ยเงินฝาก ให้กับกรมสรรพากร สำหรับการคัดค้นผ่าน e-Withholding Tax ของกรมสรรพากร ตั้งแต่วันที่ 10 กรกฎาคม 2564 เป็นต้นไป
ลูกค้าสามารถขอข้อมูลรายการภาษีหัก ณ ที่จ่ายจากดอกเบี้ยเงินฝากด้วยตนเองจากวันที่ถูกหักภาษี ณ ที่จ่าย และนับไปอีก 6 วันทำการของกรมสรรพากร
เช่น รอบจ่ายดอกเบี้ยของธนาคารเดือนธันวาคม 2565 เป็นวันที่ 16 ธันวาคม 2565 ดังนั้นจะสามารถคัดค้นรายการผ่าน website ของกรมสรรพากรได้ตั้งแต่วันที่ 26 ธันวาคม 2565 เป็นต้นไป
ลูกค้าบุคคลธรรมดา หรือ ลูกค้านิติบุคคลที่ได้รับดอกเบี้ยเงินฝาก และถูกหักภาษี ณ ที่จ่ายจากดอกเบี้ยเงินฝาก ทั้งนี้ต้องเป็นลูกค้าที่มีเลขประจำตัวผู้เสียภาษีอากร 13 หลัก ในระบบของธนาคารก่อนที่ธนาคารจะหักภาษี ณ ที่จ่ายนำส่งให้กรมสรรพากร
ติดต่อสาขาของธนาคารกสิกรไทยเพื่อตรวจสอบ และอัพเดทข้อมูลเลขประจำตัวผู้เสียภาษีอากร 13 หลัก เพื่อสามารถขอข้อมูลรายการภาษีหัก ณ ที่จ่ายได้ในครั้งถัดไป
ลูกค้าต้องมีรหัสผู้ใช้งานและรหัสผ่านที่ระบบ e-Filing หากยังไม่มีรหัสผู้ใช้งานจะต้องลงทะเบียนก่อน (ลงทะเบียนครั้งแรกเท่านั้น)
ไม่สามารถขอข้อมูลรายการหักภาษี ณ ที่จ่ายผ่าน e-Withholding Tax ของกรมสรรพากรได้ ให้ลูกค้าติดต่อสาขาของธนาคารกสิกรไทยที่ท่านสะดวก
ลูกค้าบุคคลธรรมดา
ลูกค้านิติบุคคล
กรณีผู้มีอำนาจกระทำแทนนิติบุคคล ที่ไม่ใช่ผู้ลงนามสั่งจ่าย / ถอนเงิน
กรณีผู้มีอำนาจลงนามสั่งจ่าย / ถอนเงิน
ผู้รับมอบฉันทะ
ข้อมูลที่ขอผ่าน K-Contact center หรือ K-BIZ Conter ต้องเป็นรายการที่ถูกหักภาษีตั้งแต่วันที่ 10 ก.ค. 64 เป็นต้นไป และลูกค้าเคยแจ้งอีเมลไว้กับธนาคารแล้วเท่านั้น
โทร. 02-272-8845 หรือ 02-272-8770 วันจันทร์ ถึง ศุกร์ 8:00 ถึง 16:30น. หรือ ผู้ใช้งานมีข้อสงสัย / คำถาม สามารถส่งข้อความพร้อมรายละเอียดไปที่อีเมล : efilinghelpdesk@rd.go.th เพื่อสอบถามกรมสรรพากรได้โดยตรง
สามารถทำได้ตามพระราชบัญญัติให้ใช้บทบัญญัติแห่งประมวลรัษฎากรพุทธศักราช 2481 มาตรา 48(3)(ก) ระบุให้ผู้มีเงินได้ สามารถเลือกไม่นำรายได้ดอกเบี้ย ไปรวมคำนวณภาษีรายได้ประจำปี เนื่องจากธนาคารได้นำส่งภาษีหัก ณ ที่จ่ายแล้ว
การขอผ่านทางเว็บไซต์ของกรมสรรพากร เป็นแบบออนไลน์ สามารถขอได้ตลอด 24 ชม.ไม่ต้องไปสาขา
ซึ่งธนาคารมีการนำส่งข้อมูลรายการภาษีหัก ณ ที่จ่ายดอกเบี้ยเงินฝาก ให้กับกรมสรรพากร ตั้งแต่ 10 ก.ค. 64 เป็นต้นไป
ลูกค้าสามารถขอผ่าน ระบบออนไลน์ e-Withholding Tax เว็บไซต์ของกรมสรรพากรได้
ตั้งแต่ 26 ธันวาคม 2565 เป็นต้นไป
หมายเหตุ : ลูกค้าสามารถขอข้อมูลภาษีหัก ณ ที่จ่ายดอกบี้ยเงินฝากเงินตราต่างประเทศ (FCD) ผ่านระบบออนไลน์ e-Withholding Tax เว็บไซต์ของกรมสรรพากร ได้ตั้งแต่ 4 มกราคม 2566 เป็นต้นไป