บ้านควรมีขนาดเท่าไหร่ถึงจะพอดีต่อการอยู่อาศัย สำหรับบ้านหลังนี้ แม้จะมีพื้นที่ 43 ตร.ม. ก็เพียงพอแล้ว

โปรเจครีโนเวทจากประเทศจีน ฟังก์ชันก่อนปรับปรุงประกอบด้วย ห้องนอน ห้องนั่งเล่น ห้องครัว และห้องน้ำ โดยมีผนังทึบกั้นส่วนใช้งานในแต่ละห้อง ทำให้เกิดปัญหาตามมาคือภายในห้องน้ำได้รับแสงสว่างน้อย มีขนาดเล็ก และระบายอากาศได้ไม่ดีเท่าที่ควร

ทางเจ้าของต้องการรีโนเวทบ้านให้พื้นที่มีความโปร่ง โล่ง และสามารถปรับเปลี่ยนสเปซได้ตามความต้องการ ผู้ออกแบบจึงนำผนังทึบเดิมออก จากนั้นเปิดพื้นที่แต่ละส่วนเชื่อมถึงกัน (Open Plan) และออกแบบห้องน้ำใหม่ภายใต้แนวคิด ’กล่องรูปทรงสี่เหลี่ยม’

ทางเข้าเชื่อมกับส่วนนั่งเล่นโดยตรง

จากโถงทางเข้าจะเชื่อมต่อไปยังส่วนนั่งเล่น พื้นที่บริเวณนี้มีไว้ ให้เจ้าของตรวจเช็คความเรียบร้อยก่อนออกจากห้อง โดยมีตู้ไม้บิลด์อินโปร่งทำหน้าที่เป็นชั้นวางรองเท้า ที่แขวนกระเป๋า และวางเสื้อผ้าไปในตัว

เมื่อมองผ่านชั้นวางหนังสือแบบโปร่ง จะพบโซฟา เตียงวางอย่างเป็นระเบียบใต้ฝ้าสีขาวที่เชื่อมไปยังโซนนั่งเล่น

ห้องนั่งเล่น...เชื่อมต่อทุกพื้นที่

หลังจากนำเฟอร์นิเจอร์เดิมและผนังทึบออกจะรู้สึกว่าพื้นที่ห้องมีขนาดกว้างขึ้น ผู้ออกแบบใช้ฝ้าเพดานสีขาวพาดผ่านฟังก์ชันหลักหรือก็คือพื้นที่นั่งเล่นและห้องนอนสร้างความต่อเนื่องระหว่างสเปซ จากนั้นใช้ม่านขาวกั้นโซนห้องนั่งเล่น ห้องนอนออกจากโถงต้อนรับเพื่อความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้งาน นอกจากนั้นยังลอกวัสดุปิดผิวผนังเดิมออก และโชว์โครงสร้างปูนเปลือย สร้างความต่างกับฝ้าสีขาวสะอาด ซึ่งนี่เป็นกิมมิคเล็กๆ ที่ทำให้บรรยากาศโดยรวมน่าใช้งานและเกิดความต่อเนื่องมากขึ้น

Home Tips: เลือกใช้ผ้าม่านขาวแทนผนังทึบกั้นโซนห้อง ทำให้ห้องโปร่ง โล่ง และสามารถปรับเปลี่ยนพื้นที่ได้ตามการใช้งาน

โล่ง โปร่ง ตั้งแต่ห้องครัว

มีการติดตั้งเคาน์เตอร์บาร์เล็กๆ รูปตัว L ระหว่างโซนนั่งเล่นและครัว เคาน์เตอร์นี้นอกจากจะใช้เป็นส่วนรับประทานอาหารแล้ว ยังเป็นโต๊ะทำงานด้วย และเนื่องจากพื้นที่ห้องครัวมีหน้าต่างขนาดใหญ่ เมื่อเจ้าของใช้งานก็สามารถมองเห็นทิวทัศน์ต้นไม้ ธรรมชาติสวยงามภายนอกได้

Home Tips: เคาน์เตอร์บาร์จากหินอ่อนช่วยสร้างบรรยากาศเรียบหรู เบาสบายในห้องพัก

ส่วนครัวจะออกแบบโดยคำนึงถึงแสงธรรมชาติเป็นหลัก เพราะมีหน้าต่างขนาดใหญ่จึงออกแบบสเปซให้เปิดโล่ง ทำให้แสงส่องถึงส่วนอื่นๆ ภายในห้อง ส่วนห้องครัวจะแบ่งเคาน์เตอร์เป็น 2 ฝั่ง ได้แก่เคาน์เตอร์รูปตัว L เป็นพื้นที่ปรุงอาหารหลัก และเคาน์เตอร์บาร์ขนาดเล็กสำหรับเตรียมวัตถุดิบ เก็บเสบียง ขนมและเครื่องดื่ม

ชั้นวางนอกจากจะเป็นที่เก็บของและชั้นวางหนังสือแล้ว ยังเป็นผนังช่วยกั้นโซนห้องนอนและห้องนั่งเล่นด้วย

ห้องนอนที่ปรับเปลี่ยนพื้นที่ได้

โซนห้องนอนออกแบบให้เป็นตั่งขนาดใหญ่ ที่ยกระดับพื้นสูงกว่าส่วนนั่งเล่น การใช้ตั่งแทนเตียงแบบนี้ทำให้มีพื้นที่เหลือสำหรับการใช้งานอื่นๆ เช่น สามารถปรับเปลี่ยนเป็นพื้นที่นั่งเล่น ที่เก็บของ และยังมีพื้นที่แต่งห้องมากขึ้นด้วย

ห้องนอนจะเชื่อมต่อกับพื้นที่นั่งเล่นโดยมีฝ้าสีขาวเป็นเส้นนำสายตา ซึ่งพื้นที่ทั้ง 2 ส่วนนี้มีความเป็นส่วนตัวมากกว่าโซนอื่นๆ ในห้อง เพราะเป็นพื้นที่ใช้งานหลัก ทั้งนี้ฟังก์ชันแต่ละส่วนจะมีความคลุมเครือ ไม่ชัดเจน ระหว่างใช้งานเจ้าของห้องจึงสามารถปรับเปลี่ยนพื้นที่ได้เสมอ

Home Tips: การใช้ไม้เป็นส่วนประกอบในห้อง เช่น พื้น ผนัง โต๊ะ หรือเก้าอี้ ช่วยเพิ่มความรู้สึกอบอุ่นได้เป็นอย่างดี

ห้องน้ำโปร่งแสง แต่ไม่โปร่งใส

ห้องน้ำออกแบบภายใต้แนวคิด ‘กล่องรูปทรงสี่เหลี่ยม’ ทางด้านซ้ายของห้องน้ำเป็นพื้นที่สำหรับวางเครื่องซักและเครื่องอบผ้า ส่วนด้านขวาเป็นพื้นที่อาบน้ำ ผู้ออกแบบเลือกใช้กระจกลอนแก้วแทนผนังห้องน้ำที่ติดกับทางเดิน ทำให้เกิดการระบายอากาศและช่วยให้แสงส่องถึงภายในห้องน้ำ

Home Tips: ข้อดีของกระจะลอนแก้วคือมีความโปร่งแสงแต่ไม่โปร่งใส ผู้ใช้งานจึงไม่ต้องกังวลเรื่องความเป็นส่วนตัวขณะใช้งาน

ผนังห้องน้ำทาสีขาว ให้ความรู้สึกสะอาด น่าใช้งาน

แม้ห้องจะมีขนาดเพียง 43 ตร.ม.แต่หากมีการออกแบบที่ดีและจัดวางพื้นที่อย่างชาญฉลาดก็ทำให้เป็นห้องที่น่าอยู่ ใช้ชีวิตได้อย่างผ่อนคลาย และสามารถอยู่อาศัยในระยะยาวได้ ซึ่งแนวคิดหลักของโปรเจคนี้คือการปรับเปลี่ยนการใช้งานให้ยืดหยุ่นมากขึ้น กั้นห้องน้อยลง และคำนึงถึงพื้นที่ส่วนตัวสำหรับผู้พักอาศัยนี่เอง

ขอบคุณรูปภาพและข้อมูลจาก Archdaily