31/10/2552

ศึกไม้ฝาเฌอร่า-ตราช้าง-คอนวูด งัดกลยุทธ์ปรับช่องทางจำหน่ายชิงความได้เปรียบ

แหล่งข่าวจากวงการวัสดุก่อสร้าง เปิดเผย "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า นับตั้งแต่ช่วงปลายไตรมาส 2 ที่ ผ่านมาสถานการณ์การแข่งขันในตลาดไม้สังเคราะห์จำพวกไม้ฝา เชิงชาย ระแนง บัว พื้น ซึ่งมีมูลค่า ตลาดรวมประมาณ 4,000-5,000 ล้านบาทต่อปี ได้ทวีความรุนแรงมากขึ้น โดยเป็นการแข่งขันกัน สร้างความได้เปรียบด้านช่องทางจัดจำหน่ายกับร้านผู้แทนจำหน่ายทั่วประเทศ โดยเฉพาะตลาดต่าง จังหวัดที่ทุกรายต่างคาดหวังสร้างยอดขายเพิ่มขึ้นเพื่อชดเชยตลาดในกรุงเทพฯที่ชะลอตัว โดยรอบนี้เป็นการแข่งขันด้านช่องทางจำหน่ายของ 3 แบรนด์ชั้นนำ ได้แก่ 1) แบรนด์เฌอร่าของ กลุ่มมหพันธ์ 2) แบรนด์ สมาร์ทวูด ตราช้าง ของเครือซิเมนต์ไทย และ 3) แบรนด์คอนวูด ของปูน ซีเมนต์นครหลวง เพื่อขยายฐานร้านผู้แทนจำหน่ายในรูปแบบเอ็กซ์คลูซีฟช็อปที่เลือกขายเฉพาะสิน ค้าแบรนด์ใดแบรนด์หนึ่ง ทั้งนี้ หลังจากเครือซิเมนต์ไทยได้ รีแบรนด์สินค้าเป็นสมาร์ทวูด ตราช้าง พร้อมขยายกำลังผลิตแล้ว เสร็จเมื่อเร็วๆ นี้ ทำให้ผลิตสินค้าได้หลากหลายขึ้นและมีกำลังผลิตเพิ่มขึ้นอีก 20% จาก 60 เป็น 75 ล้านตารางเมตรต่อปี เมื่อเร็วๆ นี้ร้าน โฮมมาร์ทผู้แทนจำหน่ายของเครือซิเมนต์ไทย จึงได้ทยอยปรับ มาขยายสินค้าใน กลุ่มไม้สังเคราะห์สมาร์ทวูด ตราช้างเพียง แบรนด์เดียว จากที่มีสินค้าแบรนด์อื่นๆ ซึ่งตราช้างไม่ได้ผลิตเข้ามาเสริม ส่วนกลุ่มมหพันธ์ซึ่งมีผลิตภัณฑ์ 2 กลุ่ม คือ ไม้สังเคราะห์เฌอร่าและหลังคาห้าห่วง นับตั้งแต่เดือน กรกฎาคมที่ผ่านมาได้เริ่มเข้าไปพัฒนาร้านเครือข่ายผู้แทนจำหน่ายที่มีอยู่เดิม จากร้านแบบเทรดิ ชั่นนอลเทรดเป็นโมเดิร์นเทรดที่มีความสวยงามมากขึ้น ภายใต้ชื่อ "มหพันธ์ ครีเอทีฟ ลิฟวิ่ง" แต่เพิ่ง อยู่ในช่วงเริ่มต้น ส่วนค่ายคอนวูดซึ่งมีความแข็งแกร่งด้านช่องทางจำหน่ายผ่านบริษัทแม่อย่างปูน ซีเมนต์นครหลวง ได้ขยายตลาดผ่านโฮมโปรและโฮมเวิร์คเพิ่มขึ้นอีกทางหนึ่ง แหล่งข่าวกล่าวอีกว่า ปัจจัยที่ทำให้ผู้ผลิตสินค้าทั้ง 3 แบรนด์หันมาทำเรื่องช่องทางจำหน่ายในช่วง เวลาไล่เลี่ยกัน อาจเป็นเพราะสถานการณ์ตลาดไม้สังเคราะห์ในช่วงไตรมาส 2 ที่ผ่านมาชะลอตัวลง ค่อนข้างมากจากปัญหาต่างๆ ได้แก่ การเมือง ราคาน้ำมัน และอัตราเงินเฟ้อที่พุ่งสูงขึ้นมากในขณะ นั้น ส่งผลให้การลงทุนเปิดตัวโครงการที่อยู่อาศัยใหม่ๆ ซึ่งเป็นตลาดหลักของสินค้ากลุ่มนี้ชะลอตัว ลงอย่างเห็นได้ชัด ทุกรายจึงมุ่งมาที่การขยายและผูกความสัมพันธ์กับร้านค้าเพื่อเพิ่มโอกาสในการ ขาย นายสุทธิพันธ์ วัชโรภาส ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท คอนวูด จำกัด ผู้ผลิตวัสดุทดแทนไม้ "คอน วูด" เปิดเผยว่า นับ ตั้งแต่ช่วงไตรมาส 2 ที่ผ่านมา ภาวะการแข่งขันในตลาดรุนแรงขึ้นกว่าเดิม ซึ่ง เป็นผลพวงจากภาวะเศรษฐกิจที่ได้รับผลกระทบจากปัจจัยต่างๆ สำหรับบริษัทนอกจากการขยาย ตลาดผ่านช่องทางโฮมโปรและโฮมเวิร์ค จะเน้นการส่งออกเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง โดยช่วง 6 เดือนแรกมียอดขายรวมประมาณ 400 ล้านบาท จากเป้าทั้งปี 835 ล้านบาท ในจำนวนนี้ เป็นยอดส่งออก 15 ล้านบาท จากเป้ารวม 30 ล้านบาท ตลาดหลักคือประเทศเวียดนาม คิดเป็นสัด ส่วน 80% จากยอดส่งออกทั้งหมด ซึ่งปัจจุบันยังมีการสั่งสินค้าเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ส่วนในปีหน้าได้ วางเป้ายอดส่งออกเพิ่มขึ้นอีกเท่าตัวเป็น 50-60 ล้านบาท แหล่งข่าวจากบริษัท โอลิมปิคกระเบื้องไทย จำกัด ในกลุ่มมหพันธ์ ผู้ผลิตไม้สังเคราะห์ "เฌอร่า" และหลังคา "ห้าห่วง" เปิดเผยว่า ได้เตรียมงบประมาณจำนวน 50 ล้านบาท เพื่อรองรับการปรับโฉม ร้านเอเย่นต์จำนวน 100 ราย จากทั้งหมด 700 ราย ให้เป็นร้านในรูปแบบมหพันธ์ ครีเอทีฟ ลิฟวิ่ง ซึ่ง จะได้สิทธิพิเศษด้านการบริการที่เหนือกว่าเอเย่นต์แบบปกติ ส่วนกรณีที่ร้านค้าจะขายสินค้าในไลน์ ของไม้สังเคราะห์ หลังคาคอนกรีต และหลังคาไฟเบอร์ซีเมนต์ ของกลุ่มมหพันธ์เพียงแบรนด์เดียว หรือไม่ จะยึดความสมัครใจเป็นหลัก สำหรับเอเย่นต์ที่สมัครใจเป็นมหพันธ์ ครีเอทีฟ ลิฟวิ่ง บริษัทจะสนับสนุนงบประมาณการปรับปรุงร้าน ในส่วนของป้ายโฆษณาและพื้นที่ขายสินค้ากลุ่มมหพันธ์ทั้งหมด อย่างไรก็ตามหากยินดีเป็นเอเย่นต์ แบบเอ็กซ์คลูซีฟด้วยจะได้รับยกเว้นค่าใช้จ่ายการออกแบบปรับปรุงร้าน 2 แสนบาท>