22/12/2552

เฟอร์นิเจอร์ปรับกลยุทธ์ลุ้นฟื้นปี’53

นายวงกต ตั้งสืบกุล ประธานกลุ่มอุตสาหกรรมเฟอร์นิเจอร์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผย ภายหลังการสัมมนา “สานคลัสเตอร์...เพิ่มศักยภาพเฟอร์นิเจอร์ไทยให้ยั่งยืน” ว่า การส่งออกสินค้าเฟอร์นิเจอร์ ของไทยปีนี้คาดว่าจะติดลบ 20% มูลค่า 1,000 ล้านเหรียญสหรัฐ ขณะที่ในปีหน้าตั้งเป้าส่งออกเพิ่มขึ้น 10% เน้น ตลาดใหม่ในเอเชีย เช่น สิงคโปร์ อินโดนีเซีย เวียดนาม เป็นต้น ทดแทนตลาดหลัก อย่าง สหรัฐและญี่ปุ่น ทั้งนี้ ตลาดหลักของไทยในปีหน้า คาดว่าจะมีอัตราการขยายตัวลดลง และจะลดลงต่อไปอีก 3-5 ปี เพราะอัตรา การจ้างงานและตัวเลขการขยายตัวทางเศรษฐกิจ (จีดีพี) ยังขยายตัวไม่สูงมากนัก ดูได้จากการนำเข้า สินค้าเฟอร์นิเจอร์ของสหรัฐช่วง 9 เดือน (ม.ค.-ก.ย.) ลดลง 23.4% ซึ่งไทยส่งออกสินค้าไปยังสหรัฐ ลดลง 15.6% ไทยจึงต้องพึ่งพาตลาดภายในอาเซียนและในประเทศมากยิ่งขึ้น จากเดิมที่ไม่เคยสนใจมาก่อนเลย นายวงกต กล่าวว่า ยุทธศาสตร์ ปีหน้ากลุ่มผู้ประกอบการจะรวมตัวกันเป็น คลัสเตอร์ เพื่อพัฒนา อุตสาหกรรมตั้งแต่ต้นน้ำจนถึงปลายน้ำ ยกระดับขีดความสามารถให้สูงขึ้น เนื่องจากมองว่าขณะนี้ไทยขาดความ ได้เปรียบในเชิงการแข่งขันในตลาดการค้าโลก เพราะจากเดิมที่เคยเป็นผู้ส่งออกอันดับ 1 ของอาเซียน แต่ ตอนนี้ ไทยตกลงมาเป็นอันดับ 6 โดนเวียดนามแซงขึ้นมาเป็นอันดับ 1 และมาเลเซียตามขึ้นมาเป็นอันดับ 2 เนื่องจากไทย ขาดการพัฒนา อยู่นิ่งเฉย จึงโดน คู่แข่งแซง สำหรับยุทธศาสตร์ดังกล่าว ผู้ประกอบการมองว่าปัจจัยภายนอกที่จะส่งผลกระทบกับอุตสาหกรรม เฟอร์นิเจอร์ไทย ประกอบด้วยคู่แข่งขันรายใหญ่ เช่น เวียดนาม จีน และมาเลเซีย ที่มีขีด ความสามารถสูงทั้งใน ด้านต้นทุน แรงงาน ภาวะเศรษฐกิจ ราคาน้ำมัน และอัตราการแลกเปลี่ยนที่มีความผันผวนค่อนข้างมาก ด้านปัจจัยภายในได้แก่ ต้นทุนแรงงานสูง เทคโนโลยีการผลิตต่ำ มาตรฐาน ผลผลิตต่ำ และขาดการทำ การตลาดเชิงรุก เป็นต้น จึงได้พัฒนาแผนแม่บทสนับสนุนห่วงโซ่อุปทานของอุตสาหกรรมนี้ เพื่อ แก้ปัญหาจุด ด้อยต่างๆ “ขณะนี้อุปสรรคใหญ่ของผู้ผลิต ได้แก่ การขาดแคลนแรงงาน เนื่องจากต้องการแรงงานฝีมือเป็นจำนวน มาก ซึ่งในช่วงวิกฤตเศรษฐกิจได้ปลดคนงานออกไป แรงงานฝีมือจึงย้ายไปอยู่ในอุตสาหกรรม อื่นๆ ส่งผลให้ ประสิทธิภาพในการผลิต ลดลง” นายวงกต กล่าว นายวงกต กล่าวต่อว่า ยุทธศาสตร์ ที่กำหนดไว้จะสามารถผลักดันให้กลุ่มอุตสาหกรรมเฟอร์นิเจอร์ไทย มีอัตรา การเติบโตแต่ละปีไม่น้อยกว่า 5-10% ขณะเดียวกันจะต้องปรับลดต้นทุนด้านต่างๆ ไม่ว่าการบริหาร การ จัดการ โลจิสติกส์ และวางเป้าหมายลดต้นทุนการผลิต ให้ได้ไม่ต่ำกว่า 20% หากทำได้เชื่อว่าเฟอร์นิเจอร์ไทยจะ เป็นอุตสาหกรรมที่ได้รับความสนใจจากต่างชาติ>