ถือเป็นอีกหนึ่งประเด็นฮอตข้ามปีของวงการวัสดุ หลังจากเมื่อ เร็ว ๆ นี้ภาครัฐโดยกรมการค้าต่างประเทศ
กระทรวงพาณิชย์ตัดสินใจออกประกาศเปิดไต่สวนการทุ่มตลาดกระเบื้องเซรามิกที่มีแหล่งผลิตจากประเทศจีน
ตามคำขอของผู้ผลิตกระเบื้องปูพื้น และบุผนังในประเทศ 2 ราย ผ่านทางกลุ่มอุตสาหกรรมเซรามิก สภา
อุตสาหกรรม
เพื่อพิจารณาออกมาตรการตอบโต้ การทุ่มตลาด หรือ "แอนตี้ดัมปิ้ง" (เอดี) ด้วยการประกาศขึ้นอัตราภาษีนำเข้า
หลังจากพิจารณาแล้วว่าคำขอมีมูล เพียงพอที่แสดงให้เห็นว่า การส่งกระเบื้องเซรามิกที่มีแหล่งผลิตจากประเทศ
จีนเข้ามาในประเทศไทย มีการทุ่มตลาดในอัตราร้อยละ 97.7 เมื่อเทียบกับราคาในจีน
ว่ากันว่าสภาอุตสาหกรรมฯพยายาม ส่งเสียงเรื่องนี้ไปถึงภาครัฐมาระยะหนึ่งแล้ว แต่เพิ่งประสบความสำเร็จ
ในช่วงเดือนธันวาคมปีที่ผ่านมา
งานนี้จึงมีการตั้งข้อสังเกตว่า เป็นช่วงเดียวกับที่อัตราภาษีนำเข้ากระเบื้องที่แกรนิตโต้จากประเทศจีนในปีนี้ได้
ปรับลดลงเหลือ 0% ตามเงื่อนไขข้อตกลงการเปิดเขตการค้าเสรีพอดี
อย่างไรก็ตาม หากย้อนหลังกลับไปในช่วงปี 2551 ก็เคยเกิดกรณีการออกมาตรการเอดีสินค้าบล็อกแก้วนำเข้า
จากโรงงานในประเทศสาธารณรัฐเช็กมาแล้ว
จึงต้องติดตามว่า เคสการไต่สวนเพื่อพิจารณาออกมาตรการเอดีสินค้ากระเบื้องเซรามิกจากประเทศจีนในครั้งนี้
จะเป็นกรณีศึกษาที่นำมาสู่การออกมาตรการตอบโต้การทุ่มตลาดกับผลิตภัณฑ์วัสดุก่อสร้างและตกแต่งตัวอื่น ๆ
ตามมาด้วยหรือไม่
เพราะต้องยอมรับว่า ปัจจุบันประเทศจีนคือฐานการผลิตวัสดุขนาดใหญ่ของโลก และมีต้นทุนค่าแรงต่ำ อย่าง
ผลิตภัณฑ์ในกลุ่มไม้ปูพื้นลามิเนต สุขภัณฑ์ อ่างอาบน้ำ ก็มีการนำเข้ามาจำหน่ายในเมืองไทยระยะหนึ่งแล้ว
สำหรับกรณีกระเบื้องเซรามิกจากจีน กรมศุลกากรได้จัดเก็บสถิตินำเข้าพบว่า นับแต่ปี 2544-2552 มีปริมาณ
การนำเข้าเพิ่มขึ้นต่อเนื่องเกือบทุกปี
ยกเว้นปี 2548 และปี 2550 ที่การนำเข้ามีอัตราลดลง 9% และ 31% ตามลำดับ
อย่างไรก็ตาม จากสถิติต้องยอมรับว่าปริมาณการนำเข้ากระเบื้องจากเมืองจีนเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว สวนทางกับ
ราคาขายที่ปรับลดลงอย่างต่อเนื่อง
แม้สาเหตุที่ราคาขายกระเบื้องนำเข้าจากเมืองจีนที่ปรับลดลงอย่างต่อเนื่อง เป็นผลมาจากอัตราภาษีนำเข้าที่ทยอยปรับลดลงตามเงื่อนไขเปิดเขตการค้าเสรีในช่วงหลายปีที่ผ่านมา
แต่ด้วยราคากระเบื้องแกรนิตโต้บางรุ่นที่ขายในปัจจุบัน เพียง 150-160 บาทต่อตารางเมตร ลดลงจากช่วงแรกที่
เคยขายกันเฉลี่ย 500 บาทต่อตารางเมตรขึ้นไป
จึงเป็นที่มาของคำถามว่ากระเบื้อง จากเมืองจีนมีการดัมพ์ราคาหรือไม่ ! และได้คุณภาพมาตรฐานมากน้อยแค่ไหน
ทุกครั้งที่มีเรื่องราวเกิดขึ้น ย่อมมีข้อมูลปรากฏขึ้น 2 ด้านเสมอ ในฟากของผู้นำเข้ากระเบื้องเมืองจีนมาจำหน่าย
อาทิ บุญถาวร แกรนด์โฮมมาร์ท ต่างก็ระบุสอดคล้องกันว่า ไม่น่าจะเป็นไปได้ ที่กระเบื้องเมืองจีนจะดัมพ์ถึงร้อย
ละ 97.7
โดย "แกรนด์โฮมมาร์ท" ซึ่งมีตลาดหลักเป็นงานโครงการคิดเป็นสัดส่วน 70% ของยอดขายแต่ละปี ระบุว่ามี
การควบคุมคุณภาพกระเบื้องจีนอย่างรัดกุม
เนื่องจากก่อนส่งมอบสินค้าให้กับโครงการ จะต้องนำกระเบื้องส่งตรวจสอบในแล็บกับสถาบันที่น่าเชื่อถือ ได้แก่
คณะวิศวกรรมศาสตร์ ม.ธรรมศาสตร์ อาทิ การตรวจสอบอัตราการซึมน้ำ, การทนกรด-ด่าง, ค่าการรับแรงกดดัน
ฯลฯ เพื่อเป็นหลักฐานยืนยันกับลูกค้า งานนี้จึงต้องรอบทสรุปว่าที่สุดหลังจากกรมการค้าต่างประเทศดำเนินการ
เปิดไต่สวนแล้วเสร็จ จะมีการพิจารณาออกมาตรการเอดีหรือไม่
โดยเฉพาะการออกมาตรการ (เอดี) ชั่วคราว 200 วัน โดยปรับขึ้นอัตราภาษี นำเข้ากระเบื้องเซรามิกเป็นการ
ชั่วคราว 200 วัน ในระหว่างรอการพิจารณาออกมาตรการ (เอดี) ถาวร 5 ปี
ซึ่งเคยเกิดขึ้นมาแล้วกับกรณีสินค้าบล็อกแก้วช่วงก่อนหน้านี้ ที่จบลงด้วยการที่ภาครัฐออกมาตรการขึ้นภาษี
แอนตี้ดัมปิ้งถาวร 5 ปี>