09/06/2553 Easy Truss รุก After Service ยกระดับโครงสร้างหลังคาเหล็ก สรพล คงรอด กรรมการผู้จัดการ บริษัท เฮาส์ เฟรนด์ลี่ โปรดักส์ จำกัด กล่าวว่า ปัจจุบันตลาดรวมของหลังคาโครงสร้างเหล็ก (รูปพรรณ) มีมูลค่านับ 10,000 ล้านบาท แต่โครงหลังคาเหล็กกึ่งสำเร็จรูปมีแบ่งตลาดในส่วนนี้ไม่ถึง 5 % ซึ่งถือว่ายังน้อยมาก จึงเป็นโอกาสที่จะเข้ามากินส่วนแบ่งตลาดเพิ่มมากขึ้นเนื่องจากปัจจุบันตลาดเริ่มเป็นที่ยอมรับและมีแนวโน้มการใช้มากขึ้นเรื่อยๆนวัตกรรมโครงหลังคาเหล็กกึ่งสำเร็จรูปเข้ามาประมาณ 7-8 ปีที่แล้วเป็นเทคโนโลยีที่ใช้เหล็กรับแรงดึงสูงหรือเรียกว่า “เหล็กกล้า” คือมีน้ำหนักเบา รับแรงดึงสูงกว่าเหล็กทั่วไปมากกว่าเท่าตัว ทนสนิมกว่า เพราะผ่านการชุบ ฮอตดิ๊บการ์วาไนต์ ซึ่งทนทานต่อการเป็นสนิมกว่าเหล็กรูปพรรณทาสีนอกจากนี้ การประกอบยังสะดวก ติดตั้งง่าย และรวดเร็ว ไม่ต้องเชื่อม เพราะใช้การขันน็อตสกรู ฝังพุก ซึ่งมีช่างชำนาญการผ่านการอบรมจากทางโรงงานโดย Easy Truss จะมีใบรับรองสามารถติดตั้งโครงสร้างหลังคาประเภทนี้ได้ เมื่อติดตั้งเสร็จ ลูกค้าหรือเจ้าของบ้านสามารถตรวจสอบได้โดยง่าย ไม่ว่าจะเป็นจุดต่อรอยต่อต่างๆจำนวนยิงสกรูขันน็อตครบหรือไม่ ยึดเป็นอย่างไรถูกต้องตามแบบต่างๆ หรือเปล่า“ซึ่งถ้าเปรียบเทียบการตรวจสอบแบบเดิมซึ่งเป็นการเชื่อม ถ้าเป็นช่างที่มีคุณภาพก็โอเค ถ้าเอาช่างปูนมาเป็นช่างเชื่อม หรือใช้ช่างไม้เป็นช่างเชื่อมคุณภาพก็อาจจะไม่ได้ และการตรวจสอบของลูกค้าก็สามารถตรวจสอบได้ยากมาก แต่โครงสร้างหลังคากึ่งสำเร็จรูปเป็นแบบน็อกดาวน์ลูกค้าสามารถมองเห็นได้ชัดเจนเลย”สรพลกล่าวว่า ที่ผ่านมา Easy Truss สามารถลดระยะเวลาการก่อสร้าง ทำให้งวดงาน และระยะเวลาการเก็บงานของช่างเร็วขึ้น เพราะทำการตัดสำเร็จมาจากโรงงาน ไม่ต้องเก็บสี เมื่อถึงหน้างานก็สามารถประกอบติดตั้งได้ทันทีทำให้ลดระยะเวลาเรียกได้ว่า “เกินครึ่ง” ซึ่งเมื่อเปรียบเทียบกับโครงหลังคาแบบเดิม เช่นถ้าใช้เวลา 7 วัน แต่ Easy Truss ใช้เวลาติดตั้งเพียง 3 วันเท่านั้นสำหรับผลงานที่ผ่านมา Easy Truss มียอดขายเติบโตประมาณ 3 เท่าตัวของแต่ละปี มูลค่ากว่า 120 ล้านบาท ซึ่งเมื่อเทียบกับปี 2552 ผ่านมาเติบโตขึ้นประมาณ 10-20% ส่วนผู้ผลิตรายอื่นหลักๆ ในตลาดจะมี 3 รายด้วย ซีแพค ทัช ของค่าย SCG, สมาร์ททัช และอีซี่ทัช ก็ถือว่าเป็นแบรนด์ที่ลูกค้าเริ่มรู้จักซึ่งลูกค้าเราส่วนใหญ่จะเป็นบริษัทรับสร้างบ้านเกือบ 100% ถือว่าเราเป็นเบอร์หนึ่งในตลาดนี้ ส่วนทาง SCG และสมาร์ททัช จะเน้นกลุ่มลูกค้าเป็นโครงการบ้านจัดสรรเป็นหลัก“ยอมรับว่าวิกฤตทางการเมืองที่ผ่านมา ส่งผลกระทบค่อนข้างมากตัวเลขการสร้างบ้านโดยรวมลดน้อยลงอย่างเห็นได้ชัด ทั้งในเขตกรุงเทพฯและปริมณฑล โดยเริ่มตั้งแต่ช่วงเดือนเมษายน 2552 ที่ผ่านมา แต่เมื่อเทียบธุรกิจรับสร้างบ้านกับโครงการบ้านจัดสรรแล้วธุรกิจรับสร้างบ้านนับว่าได้รับผลกระทบน้อยกว่า”อย่างไรก็ดี สรพล มองว่ากำลังซื้ออีกส่วนหนึ่งที่จะเข้ามาทดแทนและสามารถขยายตลาดได้ ก็คือ กำลังซื้อในต่างจังหวัด ซึ่งปัจจุบันยังมีความต้องการอยู่เป็นจำนวนมาก Easy Truss จึงได้จับมือกับบริษัทรับสร้างบ้านชั้นนำอย่าง PD House ที่ปัจจุบันมีแผนขยายสาขายังต่างจังหวัดทั่วประเทศ โดยได้เซ็นสัญญาตกลงติดตั้งโครงหลังคาถึง 20,000 ตร.ม.ในส่วนของธุรกิจบ้านจัดสรร “สรพล” บอกว่า Easy Truss ได้เริ่มรุกตั้งแต่กลางปี 2552 แล้ว โดยมีการจัดตั้งทีมงาน ฝ่ายการตลาด ฝ่ายขาย เข้ามาดูแลทั้งรับสร้างบ้านละบ้านจัดสรรด้วย เพื่อที่จะให้บริการหลังการขายและในกรณีที่บริษัทรับสร้างบ้านต้องการติดตั้งเอง บริษัทก็จะมีทีมงานเข้าไปให้คำแนะนำและตรวจสอบ โดยเน้นเรื่องบริการและคุณภาพเป็นอันดับหนึ่ง เพื่อให้ลูกค้ามีความเชื่อมั่นไว้วางใจในตัวสินค้าและมีความประทับใจ“โครงหลังคากึ่งสำเร็จรูปเป็นนวัตกรรมใหม่ที่ต้องให้ข้อมูลอย่างละเอียดแก่ลูกค้า เราจึงมีทีมการตลาดเพื่อรับทราบปัญหาและอุปสรรคต่างๆ ตรงนี้ก็เป็นส่วนหนึ่งที่เราให้ความสำคัญ” “สรพล” เน้นสร้างความแข็งแกร่งด้วยการสร้างแบรนด์ โดยสื่อในเรื่องของคุณภาพและบริการมาก่อนราคา ซึ่งต้องเหมาะสมกับการแข่งขันในตลาด ซึ่งราคากับ แบรนด์ ถือว่า Easy Truss ได้รับการตอบรับจากลูกค้าเป็นที่น่าพอใจ อีกทั้งใช้ซอฟแวร์จากทางอเมริกา ในการกำหนดดีไซน์จุดต่อ โหลดน้ำหนักของรูปปบบดีไซน์ที่แตกต่างกันได้นอกจากนี้ “สรพล” บอกว่า Easy Truss ได้ต่อยอดพัฒนานวัตกรรมใหม่ๆ ในวงการโครงสร้างหลังคาเหล็ก จนสามารถแก้โจทย์ปัญหาของการสร้างบ้านได้อย่างแม่นยำ ด้วยการเพิ่มคุณสมบัติของเหล็กให้เหมาะสมกับบ้าน และจุดต่อข้อต่อต่างๆเรื่องที่สำคัญที่สุดก็คือ 1.ขนาดเหล็กที่จะใช้ในการรับแรง 2.บริเวณจุดต่อต่างๆ ได้ออกแบบอย่างเหมาะสมและสามารถติดตั้งได้ง่าย รวมไปถึงการรับแรง,ความแข็งแรงคงทนของโครงหลังคาและถูกต้องตามหลักวิศวกรรม โดย Easy Truss ยังมีการพัฒนาเรื่องการรับน้ำหนักของโครงหลังคาและอุปกรณ์ต่างๆในการประกอบให้เลือกค่อนข้างมาก“5 ปีที่ผ่านมา ทางบริษัทได้ทำการออกแบบและติดตั้งโครงหลังคา Easy Truss ให้กับลูกค้าหลายแบบจำนวนหลายหลัง ได้รับทราบปัญหาต่างๆและนำมาพัฒนาปรับปรุงแก้ไข เพื่อที่จะทำให้โครงหลังคาสมบูรณ์เพิ่มมากขึ้นไปเรื่อยๆ”สำหรับแผนการดำเนินงานช่วงครึ่งปีหลัง “สรพล” กล่าวว่าปัจจุบันมียอดสั่งซื้อสินค้าเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ นั่นหมายถึงจำนวนลูกค้าย่อมเพิ่มมากขึ้นเช่นกัน เฉลี่ยตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมามียอดสั่งซื้อเพิ่มขึ้นถึง 10% และมั่นใจว่าในอนาคตโครงหลังคาเหล็กกึ่งสำเร็จรูปจะเป็นที่ยอมรับและมีปริมาณการใช้เพิ่มมากขึ้น>