27/09/2553 ภักดีภูมิร่วมทุนกลุ่มอังกฤษ ผลิตวัสดุทดแทนยางรีไซเคิล นายเลิศพล ภักดีภูมิ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ดีน่า เทคโนโลยี (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า ได้เซ็นสัญญาร่วมทุนกับบริษัท ดีน่า เทคโนโลยี จัดตั้งบริษัทใหม่ขึ้นภายใต้ชื่อ "ดีน่า เทคโน โลยี (ประเทศไทย)" ทุนจดทะเบียน 100 ล้านบาท เพื่อรุกธุรกิจวัสดุทดแทนไม้รูปแบบใหม่ซึ่งเกิดจากการนำยางรถยนต์รีไซเคิลมาใช้เป็นวัตถุดิบ ปัจจุบันอยู่ระหว่างเตรียมการก่อสร้างโรงงานภายในนิคมอุตฯ อมตะซิตี้ ระยอง ใช้งบฯลงทุน 200 ล้านบาท คาดว่าจะแล้วเสร็จในช่วงเดือนเมษายน 2554 มีกำลังผลิตสูงสุดประมาณปีละ 1 หมื่นตัน "ที่ผ่านมาทางครอบครัวคือคุณพ่อ พล.ต.อ.โกวิท ภักดีภูมิ ทำธุรกิจเหมืองแร่ยิปซัมและฟลูออไรด์อยู่ ส่วนตัวผมเป็นรุ่นลูกก็อยากมองหาธุรกิจใหม่ที่เกี่ยวข้องกับการรีไซเคิลผลิตภัณฑ์ หลังจากค้นคว้าข้อมูลระยะหนึ่งก็ได้พบกับคุณไบรอัน สุไลมาน ประธานกลุ่มดีน่าเทคโนโลยีก็เกิดความสนใจ"จากการศึกษาข้อมูลเบื้องต้นประมาณการว่า แต่ละปีประเทศไทยมียางรถยนต์ใช้แล้วเฉพาะยางรถบรรทุกที่ใช้ในการขนส่งที่รอการกำจัดประมาณ 3 แสนตัน หรือคิดเป็นจำนวน 5-6 ล้านเส้น มีบางส่วนถูกกำจัดโดยวิธีเผาทำลายซึ่งไม่ส่งผลดีต่อ สิ่งแวดล้อม จึงมองว่าหากสามารถนำมารีไซเคิลผลิตเป็นวัสดุทดแทนไม้ได้น่าจะเป็นธุรกิจที่มีอนาคต เพราะนอกจากช่วยลดมลพิษแล้วยังเป็นประโยชน์ต่อวงการก่อสร้างอีกด้วย กระบวนการผลิตมีวัตถุดิบหลัก 3 อย่าง ได้แก่ ยางรถยนต์ใช้แล้วนำมาบดละเอียดเป็นผง สี และสารเคมี จากนั้นนำมาผ่านกระบวนการอัดขึ้นรูปเป็นแผ่น สามารถทำสีหรือรูปทรงได้หลากหลายและมีความหนาตั้งแต่ 0.1-4.5 เซนติเมตร เหมาะจะนำไปใช้ในงานตกแต่งหรือผลิตเป็นชิ้นงานต่าง ๆ อาทิ วัสดุปิดผิว เฟอร์นิเจอร์เอาต์ดอร์ ฯลฯ มีคุณสมบัติแข็งแรงทนทาน ไม่ดูดซับความชื้น แข็งแรงทนทาน ตอกตะปูได้ ปีแรกตั้งเป้าขายในและนอกประเทศ สัดส่วน 50 : 50 โดยต่างประเทศจะอาศัยฐานลูกค้าของพาร์ตเนอร์เป็นช่องทางทำตลาด ซึ่งวัสดุประเภทนใช้งานแพร่หลาย อาทิ โครงการเดอะปาล์มไอร์แลนด์ในยูเออี ที่นำไปใช้ก่อสร้างเป็นกำแพงกันคลื่นบริเวณท่าจอดเรือมารีน่า ตลาดในประเทศถือเป็นวัสดุทางเลือกใหม่จึงทำการตลาดผ่านสถาปนิกเพื่อเจาะงานโครงการต่าง ๆ เบื้องต้นกำหนดราคาขายอย่างไม่เป็นทางการประมาณตันละ 6-9 หมื่นบาท หรือประมาณกิโลกรัมละ 60-90 บาท>