09/12/2553

SCG ถอดรหัสอนาคตปี 2012 เทรนด์ วัสดุก่อสร้างและการอยู่อาศัย

ปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา "ประชาชาติธุรกิจ" มีนัดสัมภาษณ์ทีมงาน 3 คีย์แมน "อนุวัตร เฉลิมไชย" แบรนด์ไดเร็ก
เตอร์ "ชลางค์ กิจพยัคฆ์" มัณฑนากร และ "ดุริยางค์ กังแฮ" นักวางแผนสำนักงานนวัตกรรมและเทคโนโลยี
บริษัท เอสซีจี ผลิตภัณฑ์ก่อสร้าง จำกัด ในเครือ บมจ.ปูนซิเมนต์ไทย

"พี่ม็อค" อนุวัตร เฉลิมไชย เปิดประเด็นถึงจุดเริ่มต้นว่า โปรเจ็กต์ SCG Crack da Code เป็นการต่อยอดการเซตเท
รนด์ในอนาคต จากเดิมที่เริ่มต้นด้วยสินค้ากระเบื้องปูพื้นบุผนังเมื่อประมาณ ปี 2003 มาสู่ภาพใหญ่คือวัสดุและ
การอยู่อาศัยในปีนี้

โดยกระบวนการเซตเทรนด์ในอนาคต จะต้องรวบรวมข้อมูลต่าง ๆ ขั้นตอนเริ่ม ตั้งแต่ 1) เก็บข้อมูลเหตุการณ์
สำคัญ ๆ ที่เกิดขึ้นทั่วโลก 2) เก็บข้อมูลวิจัย customer inside หรือความต้องการในใจผู้บริโภคในเซ็กเตอร์การอยู่
อาศัยว่าแนวโน้มจะขยับไปทางไหน และ 3) การใช้แรงบันดาลใจของดีไซเนอร์ ผ่านการตระเวนเดินทางเยี่ยมชม
งานเอ็กซิบิชั่นระดับโลก แล้วนำมาถอดรหัสเพื่อหาเทรนด์ความต้องการในอนาคตจะเป็นอย่างไรและผลิต
สินค้าออกมา โดยมีทีมทำงานร่วมกันกว่า 20 ชีวิต

"สิ่งที่ผู้บริโภคจะได้ประโยชน์คือต่อไปเขาจะได้สินค้าที่ตอบโจทย์และตรงความต้องการมากที่สุด ส่วนในฝั่ง
ผู้ผลิตและผู้ขายอย่างเอสซีจีจะสามารถวิเคราะห์ความต้องการผู้บริโภคได้ล่วงหน้า และผลิตสินค้าให้ออกมาใน
ทิศทางเดียวกัน"

"ชลางค์" สาวมัณฑนากร และ "ดุริยางค์" หนุ่มนักวางแผน ในฐานะที่ คลุกวงในการถอดรหัสเทรนด์ช่วยเสริมว่า
จากการเก็บข้อมูลพบสิ่งที่น่าสนใจ อาทิ โครงสร้างประชากรที่เปลี่ยนแปลงไปในอนาคตผู้สูงอายุจะมีจำนวน
เพิ่มขึ้น คำนึงถึงสิ่งแวดล้อมมากขึ้น เทคโนโลยีขั้นสูงที่พัฒนามากขึ้น ทั้งด้านสิ่งแวดล้อม หรือรักษาพยาบาล
ตลอดจนเรื่องมัลติฟังก์ชั่นหรือวัสดุทรานส์ฟอร์มที่เปลี่ยนรูปร่างได้ ฯลฯ

จากนั้นจะเข้าสู่กระบวนการ "ถอดรหัสเทรนด์" ซึ่งมาจากประสบการณ์ผสมผสานกับแรงบันดาลใจของทีมงาน ที่
จะต้องมองให้ออกว่าในอนาคตไลฟ์สไตล์กลุ่มหลัก ๆ ของผู้บริโภคจะมีอะไรบ้าง แต่ละกลุ่มน่าจะต้องการวัสดุ
แบบไหน

"การถอดรหัสเทรนด์จะเป็นแต้มต่อให้เอสซีจีสามารถคาดการณ์ความต้องการใช้วัสดุในอนาคตล่วงหน้า และเริ่ม
ผลิตสินค้าได้รวดเร็วหรือมีนวัตกรรมใหม่ออกมาจำหน่ายได้ก่อนผู้เล่นรายอื่น นี่คือสิ่งที่เอสซีจีจะก้าวไป"

คำตอบสุดท้ายของบทบาทเทรนด์ เซตเตอร์ "เอสซีจี" ได้เซตไลฟ์สไตล์ในอนาคตเป็น 4 กลุ่ม เปิดตัวที่บูทเอสซีจี
ในงาน "บางกอก ดีไซน์ เฟสติวัล 2010" เรียบร้อยแล้วเมื่อวันที่ 20-30 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ได้แก่

1) "กลุ่ม CO" คือคนที่มีไลฟ์สไตล์ชอบสังคม บุคลิกคนกลุ่มนี้อยู่เป็นครอบครัวใหญ่หลายเจเนอเรชั่น (ปูย่า ตายาย
พ่อแม่ ลูก) มีชีวิตเรียบง่าย เทรนด์วัสดุในอนาคตสำหรับคนกลุ่มนี้คือผลิตภัณฑ์ที่ออกแบบมาให้ใช้ได้ทุกเพศทุก
วัย เป็นสินค้าเฮลท์แคร์ ชอบโทนสีขาว อาทิ สุขภัณฑ์สีขาวที่มีคุณสมบัติยับยั้งเชื้อแบคทีเรีย ฯ
2) "กลุ่ม Geo" คือคนที่ส่วนผสมระหว่างความเรียบง่าย (simple) และมีโลกส่วนตัว (private) ไลฟ์สไตล์คนกลุ่มนี้
ชมชอบความเป็นส่วนตัวสูงมาก ชอบใช้ชีวิตอยู่กับบ้าน และมีมุมส่วนตัว เทรนด์วัสดุในอนาคตที่คนกลุ่มนี้น่าจะ
ต้องการคือวัสดุ แนวธรรมชาติเพราะชอบใช้ชีวิตอยู่กับบ้าน เช่น กระเบื้องลายไม้ธรรมชาติ กระเบื้องเลียนแบบ
หินธรรมชาติ ฯลฯ
3) "กลุ่ม Trans" คือเป็นคนที่มีบุคลิก "เวิร์กฮาร์ด" และ "เพลย์ฮาร์ด" คือถึงเวลาทำงานก็เต็มที่ ถึงเวลาเที่ยวก็เต็มที่
ไลฟ์สไตล์คนกลุ่มนี้อาจจะถึงกับคลั่งเทคโนโลยี อยู่อาศัยในคอนโดมิเนียม เทรนด์วัสดุในอนาคตที่น่าจะตอบ
โจทย์คือวัสดุที่เป็นเทรนดี้ (เป็นที่นิยม) หรือสินค้าที่เป็นมัลติฟังก์ชั่น เช่น กระเบื้องเรืองแสง ครัวที่มีฟังก์ชั่นใช้
สอยได้หลากหลาย ฯลฯ
สุดท้าย 4) "กลุ่ม Apo" คือคนที่มีส่วนผสมระหว่าง "beyond" และ "private" คือมีความคิดล้ำจากคนอื่น
ขณะเดียวกันก็ชอบความเป็นส่วนตัวสุด ๆ เทรนด์วัสดุในอนาคตคือสินค้าที่ไม่เหมือนใคร หรือ ผลิตจำนวนจำกัด
ชอบโทนสีหม่น ๆ เทา ๆ เช่น แผ่นบอร์ดที่ดัดโค้งได้ตามความต้องการ วัสดุพิเศษที่ผลิตจำนวนจำกัด ฯลฯ

กว่าจะสรุปเป็นไลฟ์สไตล์ของกลุ่มเป้าหมาย 4 กลุ่มหลักดังกล่าว ทางทีมงานต้องใช้เวลาทำงานร่วมกันทั้งวันทั้ง
คืน เป็นเวลากว่า 3 เดือนเต็ม แต่ยังไม่ใช่ บทสรุปสุดท้าย "อนุวัตร" ในฐานะพี่ใหญ่ระบุว่า สิ่งที่ต้องทำต่อ
คือการถอดรหัสเทรนด์ที่เหลือบางส่วนให้เสร็จสมบูรณ์ จากนั้นจะนำข้อมูลกับบริษัทวัสดุในเครือเพื่อเริ่มวิจัย
และพัฒนาสินค้าในปีหน้าและนำออกขายในปี 2012 (2554)".ในอนาคตการนำเสนอสินค้าจะเปลี่ยนไป ไม่ใช่ถาม
ว่าผู้บริโภคอยากได้อะไร แต่เป็นการถามว่าผู้บริโภคมีไลฟ์สไตล์แบบไหน จากนั้นก็นำเสนอวัสดุที่ตรงกับไลฟ์
สไตล์ของเขามากที่สุด"