วิรัตน์ พนมชัย กรรมการผู้จัดการบริษัท ไทยผลิตภัณฑ์ยิบซั่ม จำกัด (มหาชน)ให้สัมภาษณ์ว่า ความโดดเด่นที่เรา
นำเสนอแก่ลูกค้าคือ เรามีโรงงานผลิตแผ่นยิปซัมที่ทันสมัยที่สุดในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก เน้นการพัฒนาวิจัยด้าน
เทคโนโลยีการผลิตและความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม โดยโรงงานยิปรอคเป็นโรงงานยิปซัมรายแรกที่ได้รับการ
คัดเลือกให้เข้าร่วมโครงการคาร์บอนฟุตพริ้นท์ของประเทศไทยซึ่งมีแนวทางหลักในการลดก๊าซเรือนกระจก ตอก
ย้ำถึงการมุ่งพัฒนาอย่างยั่งยืนของทั้งองค์กร

นอกจากนี้ เรายังคิดค้นระบบก่อสร้างที่มีน้ำหนักเบา ประหยัดค่าก่อสร้าง เวลาและพลังงาน โดยที่ยังคงมีการ
พัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ออกสู่ตลาดอย่างสม่ำเสมอ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในปีนี้จะมีผลิตภัณฑ์ใหม่ทยอยออกสู่ตลาด
อย่างต่อเนื่อง เพื่อช่วยพัฒนาคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นของผู้บริโภค ในปีที่ผ่านมาเรายังคงรักษาระดับยอดขายได้ดี
ถึงแม้ในช่วงครึ่งปีหลังจะประสบกับภัยน้ำท่วมในบางพื้นที่ซึ่งกระทบต่อยอดขายบ้าง

ผู้บริหารมากความสามารถย้ำว่า ในปี2554 เรามองว่าสถานการณ์ธุรกิจวัสดุก่อสร้างโดยรวม ทิศทางการขยายตัวดี
ตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก ประกอบกับแนวโน้มที่ดีขึ้นของโครงการลงทุนใหม่จากภาครัฐและเอกชน
รวมถึงความต้องการวัสดุก่อสร้างหรือระบบประหยัดพลังงานมากขึ้นล้วนเป็นปัจจัยหนุนให้กับเรา โดยประมาณ
การยอดขายในปีนี้โตไม่น้อยกว่า 5% ทั้งนี้ ปริมาณการใช้ยิปซัมเฉลี่ยต่อประชากรของไทยแล้วยังอยู่เพียง 1 ตร.ม.
ต่อคนต่อปี ซึ่งยังถือเป็นปริมาณที่น้อยเมื่อเทียบกับอเมริกา หรือยุโรปที่ตกอยู่ประมาณ 10 ตร.ม.ต่อคนต่อปี ดังนั้น
จึงยังมีโอกาสอย่างมากในการขยายตลาดยิปซัมในเมืองไทย ซึ่งปัจจุบันมีขนาดตลาดอยู่ประมาณ 60 ล้านตร.ม.
หรือประมาณมูลค่าตลาด6,000 ล้านบาท

โดยในปีนี้บริษัทยังคงมีนโยบายที่เน้นชัดเจนในเรื่อง กรีน มาร์เก็ตติ้ง (Green Mar keting) ทั้งด้านผลิตภัณฑ์
กระบวนการผลิตการจัดส่ง จัดจำหน่าย ที่ล้วนเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ประหยัดพลังงาน ซึ่งจะช่วยส่งเสริมให้เกิด
ความน่าเชื่อถือและสร้างมูลค่าเพิ่มให้องค์กรและผลิตภัณฑ์ โดยในปีที่ผ่านมาเราได้รับการรับรองฉลากเขียวจาก
สิงคโปร์ รวมถึงเข้าร่วมโครงการส่งเสริมการจัดทำคาร์บอนฟุตพริ้นท์ขององค์กร และโครงการนำร่องใช้
ประโยชน์จากยิปซัมสังเคราะห์ เป็นความภาคภูมิใจที่ชี้ให้เห็นอย่างชัดเจนถึงนโยบายด้าน Green Marketing ระดับองค์กรที่เราจะเดินหน้าต่อไป

"ยิปรอคเน้นการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ที่ตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคและระบบการก่อสร้างที่
เปลี่ยนไป ทั้งยังให้ความสำคัญกับการพัฒนาเทคโนโลยีการผลิตให้มีความก้าวหน้าอย่างไม่หยุดยั้ง ทำให้กล้าพูด
ได้ว่า ยิปรอคเป็นผู้นำนวัตกรรมระบบผนังและฝ้าเพดานอย่างแท้จริง ดังจะเห็นได้จากสินค้าไฮไลต์ภายใต้แบรนด์
ยิปรอคในปีที่ผ่านมาที่เราได้พัฒนาอย่างต่อเนื่อง อาทิแผ่นยิปซัมกันร้อนพิเศษ ยิปรอค เทอร์มัลไลน์ (Gyproc
ThermaLine), แผ่นฝ้าเพดานที-บาร์กันร้อนพิเศษ ยิปรอค เทอร์มัลไทล์(Gyproc ThermaTile), ระบบผนังยิปซัม
ทนทานสูง ยิปวอลล์ โรบัสต์ (GypWall Robust),เบดรูม คอมฟอร์ท โซลูชั่น (Bedroom Comfort Solutions), คิ
ทเช่น แอนด์ บาธรูมโซลูชั่น (Kitchen & Bathroom Solution),แผ่นยิปซัมฉลากเขียว (Green Label Product)" และ
การพัฒนาช่องทางการจัดจำหน่าย ยิปรอค เซ็นเตอร์ (Gyproc Center)"

กลยุทธ์การขายและการตลาด ปี2554 จะเน้นความต่อเนื่องในการสร้างการรับรู้ในแบรนด์ยิปรอคผ่านสื่อโฆษณา
ตอกย้ำความเป็นผู้นำนวัตกรรมระบบผนังและฝ้าเพดานครบวงจร สร้างจุดเด่นในเรื่องกรีนมาร์เก็ตติ้ง (Green
Marketing) เน้นบุกตลาดบ้านพักอาศัยมากยิ่งขึ้น สร้างความแตกต่างผ่านช่องทางการจัดจำหน่าย เช่นยิปรอค เซ็น
เตอร์, ยิปรอค คอร์เนอร์ และเน้นการประชาสัมพันธ์และกิจกรรมส่งเสริมการตลาดอย่างต่อเนื่องเพื่อขับเคลื่อน
ไปสู่เป้าหมายที่วางไว้.