22/06/2554

โอฬาร บนเส้นทางต่อสู้ ใยหินและเยื่อกระดาษ

เป็นกระแสที่กล่าวถึงกันมาพักใหญ่ สำหรับกรณี “แร่ใยหิน” และสุขภาพของผู้บริโภค ด้วยสมมติฐานที่ว่าแร่นี้อาจเป็น
สารก่อมะเร็งชนิดหนึ่ง ถึงขั้นภาครัฐพยายามห้ามไม่ให้มีการใช้แร่ใยหินเป็นส่วนประกอบในการผลิตกระเบื้องมุงหลังคา
และสินค้าต่างๆ ถึงขั้นจะสั่งห้ามการนำเข้าใยหินจากต่างประเทศ โดยสถานการณ์ล่าสุด สินค้าซึ่งมีส่วนผสมจากใยหิน
ต้องติดฉลากเตือนเรื่องความปลอดภัยของผลิตภัณฑ์ ให้เห็นกันชัดเจนคล้ายกับป้ายเตือนอันตรายข้างซองบุหรี่

ถึงกระนั้นก็ยังไม่อาจสกัดกั้นการใช้สินค้าที่มีส่วนผสมของใยหินลงได้ เพราะยอดขายสินค้าที่ใช้ใยหินเป็นส่วนประกอบ
ชัดเจนอย่าง “กระเบื้องโอฬาร” ก็ยังคงเติบโตต่อเนื่องตามคำยืนยันของ อุฬาร เกรียวสกุล ผู้จัดการฝ่ายการตลาด บริษัท
กระเบื้องโอฬาร จำกัด ผู้ผลิตกระเบื้องมุงหลังคาตรา “โอฬาร” (ORANIT) ที่ย้ำว่าถึงอย่างไรโอฬารก็ยังคงเดินหน้าผลิต
สินค้ากระเบื้องหลังคาป้อนตลาด ด้วยสูตรที่มีใยหินเช่นเดิม เพราะใช้มาตลอด นับแต่ขายสินค้านี้มายังไม่มีผลสำรวจใดๆ
ที่ยืนยันว่าผู้ใช้กระเบื้องนี้ได้รับผลกระทบถึงขั้นเป็นมะเร็งอย่างที่มีการหยิบยกมากล่าวอ้างกัน

ผู้บริหารกระเบื้องโอฬารยังคงเดินหน้าสร้างการรับรู้ตลาดด้วยความพยายามนำเสนอข้อมูลเชิงวิชาการ เพื่ออธิบาย
คุณสมบัติของใยหิน ไครโซไทล์ (chrysotile) ซึ่งเป็นส่วนประกอบในเนื้อกระเบื้องที่โอฬารผลิตออกมาจำหน่ายว่าแร่ชนิดนี้
ไม่มีผลสำรวจใดยืนยันว่าเป็นแร่อันตราย และไม่ได้ถูกแบนจากนานประเทศ ซึ่งปัจจุบันประเทศในทวีปอเมริกาเหนือ
อเมริกาใต้ และในเอเชีย รวม 130 ประเทศ อนุญาตให้ใช้เป็นส่วนประกอบในการผลิตได้ เพราะไครโซไทล์ (chrysotile)
ต่างจาก แอสเบสตอส (Asbestos) ชนิดอื่นๆ ซึ่งมีลักษณะเป็นเส้นใย และถูกห้ามใช้ในหลายประเทศมาหลายสิบปีแล้ว
รวมทั้งประเทศไทยด้วย

แร่ใยหินไครโซไทล์ที่กระเบื้องโอฬารใช้อยู่ปัจจุบันเป็นคนละชนิดกัน ลักษณะเส้นใยต่างกัน แต่ที่มีปัญหาเพราะถูกเหมา
รวมว่าเป็นแร่ใยหินเหมือนกัน ทั้งที่มีคุณสมบัติต่างกัน และไม่มีผลการศึกษาทางวิทยาศาสตร์ออกมาระบุว่าเป็นอันตราย
แต่อย่างใด

“อุฬาร” ย้ำว่าเมื่อองค์กรภาครัฐพยายามให้ผู้ผลิตเลิกใช้แร่ใยหิน โดยหันไปใช้สารทดแทนซึ่งทำมาจากเยื่อกระดาษ PVA
(Poly Vinyl Alcohol) + Cellulose ซึ่งต้องนำเข้า มีราคาแพงและคุณสมบัติการคงทนต่างกันมาก เยื่อกระดาษมีภาวะ
อุ้มน้ำ ทำให้เนื้อกระเบื้องเปราะและหักง่าย ทำให้ความทนทานลดลง ต้องเปลี่ยนใหม่ทุก 2-3 ปี นอกจากนี้ราคาจำหน่าย
ก็สูงกว่ากระเบื้องที่ผลิตจากใยหินถึงกว่าเท่าตัว จากตันละ 3,000 บาท เป็น 6,000 กว่าบาท หรือหากเป็นแผ่นกระเบื้อง
ขายปลีก สำหรับกระเบื้องใยหินลอนคู่หนา 4 มม. ราคาแผ่นละ 25-30 บาท กระเบื้องหลังคาที่ใช้วัสดุทดแทน PVA, เยื่อ
กระดาษราคาแผ่นละ 60 บาท

ด้วยเหตุนี้ “อุฬาร” จึงย้ำว่าจะเดินหน้าผลักดันและต่อสู้กับมาตรการต่อต้านการใช้ใยหินไครโซไทล์เป็นวัตถุดิบในการผลิต
หลังคากระเบื้องอย่างหนักแน่ต่อไป เพราะเชื่อมั่นว่าไม่ได้ก่ออันตรายกับผู้ใช้ และที่สำคัญไม่ต้องเพิ่มราคาขาย เพิ่มต้นทุน
การผลิต ที่จะส่งผลกระทบโดยตรงถึงผู้บริโภคด้วย