23/09/2554 ตราเพชรสนองนโยบายรัฐฯลดราคากระเบื้องแผ่นละ5บาท นายสาทิต สุดบรรทัด รองกรรมการผู้จัดการสายงานการขายและการตลาดบริษัท ผลิตภัณฑ์ตราเพชร จำกัด (มหาชน)เปิดเผยว่า บริษัทได้ลดราคาขายสินค้ากระเบื้องมุงหลังคาตราเพชรลงประมาณ3-5% หรือประมาณแผ่น ละ 5 บาท ตามนโยบายรัฐบาลที่ต้องการให้ตรึงราคาสินค้า ซึ่งการลดราคา ดังกล่าวจะทำได้นานแค่ไหนนั้นขึ้นอยู่ กับวัตถุดิบหลักคือปูนซีเมนต์ว่าจะสามารถลดราคาได้นานเพียงใด และยาวนานแค่ไหน สำหรับในช่วงไตรมาส 3 ของปีนี้ยอดขายสินค้าชะลอตัวลงจากภาวะน้ำท่วมและฝนตกหนัก แต่เชื่อว่าหาก น้ำลดในเดือนตุลาคมก็จะทำให้ตลาดกระเบื้องปรับตัวดีขึ้น เนื่องจากจะมีตลาดปรับปรุงซ่อมแซมเข้ามา แต่หาก ปัญหาน้ำท่วมยืดเยื้อยาวนานออกไปอีก ก็เชื่อว่าจะส่งผลกระทบต่อภาพรวมของตลาดได้อย่างไรก็ตาม บริษัทยัง เชื่อว่าจะสามารถสร้างรายได้ตามเป้าหมายที่ตั้งเอาไว้ 3,600 ล้านบาทหรือมีอัตราการเติบโต 10% ล่าสุดบริษัทได้ร่วมกับบริษัท แฮดเลย์ ผู้ผลิตสินค้าเหล็กรีดเย็นจากประเทศอังกฤษ ในการพัฒนาระบบผนัง สำเร็จรูปภายใต้แบรนด์"ไดมอนด์ วอลล์" ซึ่งเป็นนวัตกรรมก่อสร้าง ที่นำเอาผลิตภัณฑ์ไฟเบอร์ซีเมนต์บอร์ด มา ประกอบกับอุปกรณ์ติดตั้งโครงผนังที่ได้รับการออกแบบจากแฮดเลย์ โดยสามารถวางท่อสายไฟฟ้า หรือท่อ ประปาไว้ในพนัง หลังจากนั้นประกบติดไฟเบอร์ซีเมนต์บอร์ดทับทั้งสองด้าน และเจาะรูเพื่อเทหรือฉีดปูน สำเร็จรูปมอร์ต้าจนเต็มใช้เวลา 2-3 ชั่วโมงก็จะแห้ง สำหรับคุณสมบัติของระบบผนังดังกล่าวในด้านของความคงทนแล้วเทียบเท่ากับการก่อผนังด้วยอิฐมวลเบา ทนน้ำ ไฟเบอร์ซีเมนต์บอร์ดกันไฟ 1 ชั่วโมง ส่วนผนังด้านในกันไฟได้4 ชั่วโมง แต่ไดมอนด์ วอลล์ แม้ว่าจะมี ราคาขายที่สูงกว่าประมาณ 700-1,000 บาท/ตารางเมตร ในขณะที่การก่ออิฐฉาบปูนราคาประมาณ600 บาท/ตร.ม. แต่สามารถติดตั้งได้เร็วกว่า 6 เท่า ลดการใช้แรงงาน 50% ซึ่งโดยรวมแล้วจะมีต้นทุนที่ถูกกว่าผนังทั่วไป 30% "ระบบดังกล่าวได้รับความนิยมใน ต่างประเทศมานานแล้ว แต่ในไทยยังไม่ได้รับความนิยมเท่าที่ควร เนื่องจากผู้บริโภคยังยึดติดกับระบบก่ออิฐฉาบปูนแบบเดิม โดยเฉพาะในช่วงที่ค่าแรงไม่ได้ปรับขึ้น แต่เชื่อว่า หลังจากค่าแรงปรับขึ้น ประกอบกับแรงงานขาดแคลนจะทำให้ผู้รับเหมาหรือเจ้าของโครงการหันมาใช้ระบบ พนังสำเร็จรูปเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องเพื่อลดต้นทุน" นายสาทิต กล่าว นายสาทิต กล่าวต่อว่า ก่อนหน้านี้บริษัทได้ทำการตลาดกับโครงการก่อสร้างอาคารคอนโดมิเนียมหลาย แห่ง เช่น โครงการเดอะริเวอร์ คอนโดฯ ที่วงศ์อมาตย์ พัทยา โครงการบ้านเอื้ออาทรคลอง 10 โครงการ เป็นต้น และล่าสุดเตรียมเข้าติดตั้งในโครงการคอนโดแอร์ลิ้งค์ 8 ชั้น 8 อาคาร ทั้งนี้คาดว่าในอนาคตระบบดังกล่าวจะเข้า มาทดแทนระบบผนังทั่วไปได้ไม่ต่ำกว่า 10-15% ในปี 2555 จากมูลค่าตลาดรวม 30,000 ล้านบาท ส่วนการทำ ตลาดของบริษัทจะเน้นเจาะกลุ่มผู้ประกอบการผู้รับเหมา และสถาปนิก โดยในส่วนของบริษัทนั้นตั้งเป้าสร้าง ยอดขายผลิตภัณฑ์ดังกล่าวไว้ไม่ต่ำกว่า 300 ล้านบาท ในปีหน้า หรือประมาณ10-15%" นายสาธิตกล่าว สำหรับนอนาคต 3-5 ปี บริษัทตั้งเป้ายอดรายได้จากส่วนผลิตภัณฑ์หลังคาไม่ต่ำกว่า60% และระบบอื่นอีก 40% จากปัจจุบันมีรายได้จากสินค้าหลังคาประมาณ 80% ทั้งนี้ปัจจุบันบริษัทมีกำลังการผลิตโดยรวมประมาณ6.8 แสนตันต่อปี และภายในไตรมาส 2 ปีหน้าโรงงานที่ 10 จะสามารถเดินกำลังการผลิตได้ 72,000 ตัน ส่งผลให้กำลังผลิตรวมของบริษัทอยู่ที่ระดับ 7.52 แสนตันต่อปี