นายทรงพล บำเพ็ญสันติ ผู้จัด การกองการตลาด บริษัท กระจกไทยอาซาฮี จำกัด (มหาชน) หรือ A G C เปิดเผยว่า
ปัจจุบันตลาดรวมลามิเนตมีมูลค่าทางการตลาดอยู่ที่ 1,200 ล้านบาทต่อปี โดยตลาดกระจกลามิเนตจะมีแนวโน้ม
การเติบโตตามผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ซึ่งปัจจุบันบริษัทมีส่วนแบ่งตลาดอยู่ที่ 20% ของตลาด
รวม คาดว่าในอนาคต 1-2 ปีข้างหน้าแนวโน้มธุรกิจกระจกลามิเนตจะมีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้นอีก 5-6%

นอกจากนี้บริษัทได้วางกลยุทธ์ทาง การตลาดในครึ่งปีหลังโดยเน้นผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมาก
ขึ้น ล่าสุดได้มีการเปิดตัวนวัตกรรมการผลิตกระจกแผ่นเรียบขึ้นภายใต้ชื่อผลิตภัณฑ์ LAMITAG-E ซึ่งเป็นกระจกแผ่นเรียบ
2 แผ่นนำมายึดติด กันด้วยฟิล์ม PVB ที่มีความเหนียว ทนทาน มีคุณสมบัติการให้แสงสว่างผ่านได้ดี
ยิ่งขึ้น และมีประสิทธิภาพการส่งผ่านความร้อนจากรังสีพระอาทิตย์ และเป็นการช่วยประหยัดพลังงาน ลด
ค่าใช้จ่าย และอนุรักษ์ สิ่งแวดล้อม โดยเน้นจำหน่ายผ่านตัวแทนจำหน่ายกว่า 70 รายทั่วประเทศ

สำหรับกลุ่มเป้าหมายในตัวผลิตภัณฑ์ดังกล่าว เป็นการเจาะกลุ่มประเภทอาคารสำนักงาน อาคารขนาดใหญ่
คอนโดมิเนียม บ้านพักอาศัย และอาคารสาธารณะต่างๆ โดยในปี 2554 บริษัทได้ตั้งเป้าเมื่อต้นปีคาดว่า ยอดขาย
จะเติบโตไม่ต่ำกว่า 7% และในช่วงไตรมาส 3/2554 ได้มีการปรับลดการเติบโตลง เนื่องจากปัจจัยภายในประเทศ
และภาย นอกภาพรวมเศรษฐกิจโลกที่เกิดขึ้นทำให้ต้องปรับลดอัตราการเติบโตลงเหลือ 5%

"ปัจจัยเสี่ยงในครึ่งปีหลังนั้นมองว่า นอกจากปัญหาเศรษฐกิจโลกที่เกิดขึ้น และคาดว่าจะส่งผลกระทบในวง
กว้าง โดยผู้ประกอบการของไทยที่เน้นการส่งออกเป็นหลัก ต้องมีการวางแผนเพื่อรองรับกับสถานการณ์ที่จะ
เกิดขึ้นไว้ด้วย รวมถึงปัญหาจากภัยธรรมชาติที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน ซึ่งต้องมีการเฝ้าระวังกันอย่างใกล้ชิด" นายทรง
พลกล่าว

สำหรับในปี 2555 บริษัทได้มีการเพิ่มงบทางการตลาดกว่า 30% เพื่อใช้ในการสื่อสารทางการตลาดผ่าน
ช่องทางต่างๆ เช่น การโฆษณา และประชาสัมพันธ์ผ่านนิตยสารต่างๆ และมีการจัดสัมมนาให้กับกลุ่มเป้าหมาย
อย่างต่อเนื่อง