24/11/2554 กิจจา ปัทมสัตยาสนธิ ชิค รีพับบลิค พลิกวิกฤตเป็นโอกาส ถึงมีอายุก่อตั้งได้เพียง 8 เดือนแต่ "ชิค รีพับบลิค" (CHIC REPUBLIC)ศูนย์จำหน่ายเฟอร์นิเจอร์และของตกแต่ง แนว MODTRADE ที่มาจากคำว่า Modern+Traditional หมายถึงการผสมผสานระหว่างความทันสมัยและความ ดั้งเดิมเข้าด้วยกัน ในย่านเลียบทางด่วนเอกมัยรามอินทรา ก็เป็นน้องใหม่ในวงการนี้ที่ถูกจับตา เพราะมี "กิจจา ปัทมสัตยาสนธิ"อดีตผู้บริหารเฟอร์นิเจอร์"อินเด็กซ์"ที่สะสมประสบการณ์ในวงการเฟอร์นิเจอร์มา 26 ปี นั่งเก้าอี้ ประธานและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ชิค รีพับบลิค จำกัด ขณะที่วิกฤตน้ำท่วมที่เกิดขึ้น ทำให้ชิค รีพับบลิค ต้องเจอกับบททดสอบแรก"ประชาชาติธุรกิจ" สัมภาษณ์ "กิจจา"ถึงการดำเนินธุรกิจเพื่อเปลี่ยนวิกฤตให้เป็นโอกาส "น้ำท่วมครั้งนี้ผมว่าส่วนใหญ่ได้รับผลกระทบกันถ้วนหน้า สำหรับชิคฯเมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมา ก็มีจำนวน ลูกค้าเข้าร้านลดลง 50% ถือว่าได้รับผลกระทบเหมือนกัน"กิจจาเปิดประเด็นเขาเล่าต่อว่า ถ้ามองข้ามไปถึง สถานการณ์หลังน้ำลด เชื่อว่าหลังจากทุกอย่างคลี่คลายประมาณ 2 เดือนเจ้าของบ้านที่ถูกน้ำท่วมน่าจะเริ่มกลับมา ซื้อเฟอร์นิเจอร์เปลี่ยน ภาพรวมสามารถแบ่งลูกค้าได้เป็น 2 กลุ่ม คือกลุ่มที่ไม่ได้มีกำลังซื้อสูง อาจจะมีผลกระทบ ต่อการซื้อเฟอร์นิเจอร์ อีกกลุ่มคือกลุ่มที่ทำงานบริษัท หรือทำธุรกิจ เป็นกลุ่มที่มีรายได้ประจำ ทำประกันภัยบ้านไว้ ซึ่งเป็นกลุ่ม ลูกค้าเป้าหมายของชิคฯ เชื่อว่าจะได้รับผลกระทบน้อย เพราะเป็นกลุ่มที่มีกำลังซื้อระดับบี-บีบวก รักบ้าน ชอบ การแต่งบ้านและพอมีกำลังที่จะซื้อเฟอร์นิเจอร์เปลี่ยน ดังนั้นสิ่งที่ต้องเตรียมตัวหลังจากนี้คือคงจะต้องวางแผนเรื่องโลจิสติกส์หรือการจัดส่งสินค้าให้ดี เพราะนับจากเกิดเหตุน้ำท่วมเฟอร์นิเจอร์ที่ลูกค้าซื้อไว้ถูกให้ชะลอการจัดส่งใหม่ ที่ผ่านมาต้องเคลียร์พื้นที่ คลังสินค้าในย่านพระราม 2 ใหม่ เพื่อเพิ่มพื้นที่ส่วนหนึ่งรองรับการเก็บสินค้า แต่เชื่อว่าหลังจากน้ำลด สิ่งจะ เกิดขึ้นคือ...ลูกค้าทุกรายจะให้เร่งส่งของกันหมด เพื่อเปลี่ยนแทนของเดิมที่เสียหายและลูกค้าใหม่ก็จะเริ่มเข้ามา ตอนนี้บริษัทจึงอยู่ระหว่างการวางแผนจะติดต่อจัดหาบริษัทจัดส่งสินค้าภายนอกเข้ามาช่วยจัดส่งสินค้า ชั่วคราว เพราะนโยบายบริษัทคือ...ภายใน 3 วันของต้องถึงมือลูกค้า ส่วนเงื่อนไขการจัดส่ง ถ้าลูกค้ามียอดซื้อครบ 7,000 บาท จะส่งฟรีในกรุงเทพฯและปริมณฑล ขณะเดียวกันก็เตรียมทำแคมเปญจัดเซตสินค้าขายราคาต่ำกว่า ปกติ 30% ทำแคมเปญผ่อน 6-10 เดือนและหารือพันธมิตรผลิตสินค้ารุ่นพิเศษ คุณภาพดีราคาไม่แพงจำหน่าย เฉพาะกิจ ถึงแม้เชื่อว่ากลุ่มลูกค้าของชิคฯไม่น่าจะได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมมากนักแต่ "กิจจา" ย้ำว่า ยังไม่มีนโยบาย ปรับขึ้นราคาสินค้าหลังน้ำลด และคิดว่าจะยืนราคาไปได้ตลอดทั้งปีหน้า แม้ว่าเรื่องต้นทุนการผลิตจริง ๆ จะปรับ ขึ้นไปแล้ว อย่างต้นไม้ยางพาราที่นำมาใช้ทำเฟอร์นิเจอร์ปรับขึ้นราคา 30% เพราะหลายปีที่ผ่านมายางพารามีราคาดี ทำ ให้เกษตรกรตัดต้นยางน้อยลง ประกอบกับปีที่ผ่านมามีน้ำท่วม ต้นยางก็ตายไปจำนวนมาก ทำให้วัตถุดิบน้อยลง ส่วนการรับมือกับน้ำท่วมครั้งนี้"กิจจา" ค่อนข้างมั่นใจว่า ที่ชิคฯสาขาเลียบทางด่วนเอกมัย-รามอินทรา ค่อนข้างปลอดภัย เพราะถมที่ดินสูงกว่าถนนใหญ่ 1 เมตร และสูงกว่าซอยโยธินพัฒนา 2 เมตร ส่วนคลังเก็บสินค้า ในย่านพระราม 2 ปัจจุบันยังไม่มีปัญหาเรื่องน้ำท่วม เพราะมีทางรถไฟกั้นไว้และที่ดินบริเวณนั้นค่อนข้างสูง และถึงแม้จะเจอปัญหาน้ำท่วม แต่แผนการเปิดสาขาใหม่ภายในบริเวณเมกะบางนา เมกะคอมเพล็กซ์ขนาด ยักษ์ที่อิเกียร่วมทุนกับสยามฟิวเจอร์และ ส.ประภาศิลป์ ก็ยังเดินหน้าตามแผนเดิม โดยคาดว่าจะพร้อมเปิดบริการ ได้ภายในเดือนเมษายน-พฤษภาคมปีหน้า มีพื้นที่ขายสินค้าประมาณ 1,500-1,700 ตารางเมตร เขาเล่าว่า หลังจากเปิดตัวชิคฯสาขาเลียบทางด่วนเอกมัย-รามอินทรา ที่เป็นศูนย์ขนาดใหญ่มีพื้นที่ขาย 2 ชั้น รวม10,000 ตารางเมตร ใช้งบฯลงทุน 350 ล้านบาท ถือว่าผลตอบรับดี เฉลี่ยมีลูกค้ามียอดซื้อต่อบิลรายละ 2-3 หมื่นบาท ซึ่งค่าเฉลี่ยสูงกว่าศูนย์จำหน่ายเฟอร์นิเจอร์ที่จับกลุ่มลูกค้าตลาดแมส30-50% รวมทั้งค่าเฉลี่ยใช้เวลามาเลือก 2-3 ครั้ง จึงตัดสินใจซื้อ เนื่องจากเฟอร์นิเจอร์ส่วนใหญ่ ได้แก่ ชุดรับแขก ชุด อาหารเป็นของที่คนในครอบครัวต้องใช้ร่วมกันจึงต้องอาศัยเวลาในการตัดสินใจ "หัวใจการบริการของชิคฯ คือเรามีบริการออกแบบตกแต่งห้องด้วยโปรแกรม 3 มิติฟรี และยังได้เชิญคุณดุ๊ก ภาณุเดช วัฒนสุชาติ ซึ่งเป็นนักออกแบบและนักแสดงมาให้บริการออกแบบตกแต่งภายในแบบส่วนตัวให้ลูกค้า ฟรีโดยไม่คิดค่าใช้จ่าย นี่คือแวลูแอดที่เราให้กับลูกค้า" ถามถึงมุมมองต่อ "อิเกีย" ที่เพิ่งเปิดให้บริการสโตร์สาขาแรกที่บางนาไปแล้วเมื่อวันที่ 3 พฤศจิกายนที่ผ่าน มา "กิจจา"ในฐานะที่เป็นทั้งพันธมิตรและคู่แข่งร่วมวงการวิเคราะห์ว่า ภายใน 3 ปี "อิเกีย"น่าจะกลายเป็นแบรนด์ ที่อยู่ในใจผู้บริโภคที่ชอบเฟอร์นิเจอร์แบบแมส คือมีดีไซน์แบบโมเดิร์นและราคาสมเหตุสมผล ขณะที่ผลกระทบต่อผู้ประกอบการนั้น กลุ่มที่น่าเป็นห่วงคือร้านเฟอร์นิเจอร์ห้องแถว เพราะเน้นสินค้าราคา ถูก ดังนั้นเชื่อว่าในอนาคต แบรนด์เฟอร์นิเจอร์ในตลาดจะมีการโฟกัสกลุ่มลูกค้าแต่ละยี่ห้อจะมีตลาดของ ตัวเอง หรือค่อย ๆ ปรับไปสู่ตลาดของตัวเอง จากเดิมกินตลาดกว้าง อย่างชิคฯ คนที่ชอบของราคาถูกก็จะไม่มา เดิน "ผมต้องการสร้างภาพลักษณ์แบรนด์ให้ชัดเจนว่า ชิค รีพับบลิค คือสเปเชียลิสต์ทางด้านเฟอร์นิเจอร์แนว MODTRADE เจาะกลุ่มกำลังซื้อระดับบี-บีบวกขึ้นไป" เพราะวิเคราะห์ว่า ต่อไปจะไม่มีใครทำเฟอร์นิเจอร์หลายสไตล์ ขายทุกเซ็กเมนต์ ทำสินค้าคร่อมทุกตลาด และที่แน่ ๆ มูลค่าตลาดรวมเฟอร์นิเจอร์ประมาณ 6-7 หมื่นล้านบาท แบ่งเป็นตลาดแมส 60% และกลาง-บน 40% จะแข่งขันกันรุนแรงกว่านี้อีกแน่ !