แหล่งข่าวจากสภาอุตสาหกรรม จ.สุราษฎร์ธานี เปิดเผยว่า ขณะนี้อุตสาหกรรมแปรรูปไม้ยางพาราเป็น
เฟอร์นิเจอร์ กำลังประสบภัญหาขาดแคลนวัตถุดิบป้อนเข้าสู่โรงงานแปรรูปไม้ยางพารา ทำให้ต้องใช้ไม้ประเภท
อื่นทดแทนซึ่งต่างไปจากอุตสาหกรรมอบไม้ยางพารา ที่ส่งออกสินค้าในรูปแบบชิ้นส่วน โดยที่ผ่านมาธุรกิจ
เฟอร์นิเจอร์ไม้ยางพารา ค่อนข้างประสบปัญหาอยู่แล้ว เนื่องจากยางพาราราคาแพง ทำให้เกษตรกรไม่ขายไม้ยาง
ประกอบกับตลาดหลักอย่างสหรัฐอเมริกาก็ประสบปัญหาทำให้ชะลอการนำเข้าสินค้าจากไทย ขณะนี้
ผู้ประกอบการจึงต้องหาตลาดใหม่มาทดแทน

นายสนอง กองกุล ประธานบริษัท วีเอส.พาราวู้ด กรุ๊ป 2005 จำกัด ผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมมอบไม้
ยางพารา จังหวัดสุราษฎร์ธานี กล่าวว่า ที่ผ่านมาผู้ประกอบธุรกิจแปรรูปไม้ยางพาราต้องดิ้นรนหาวัตถุดิบเข้า
โรงงานอย่างต่อเนื่อง แม้ว่าจะขาดแคลนวัตถุดิบก็ตาม โดยในส่วนของบริษัทส่งออกไม้ยางในรูปแบบแปรรูป
อบแห้งทั้ง 100% มีรายได้จากการส่งออกปีละ 400 ล้านบาท

"ตลาดหลักส่วนใหญ่ยังเป็นจีน ที่นำไปแปรรูปเป็นเฟอร์นิเจอร์อีกทีหนึ่ง ทางบริษัทไม่ได้ผลิตเป็น
เฟอร์นิเจอร์เพราะขาดแคลนแรงงานและสู้ค่าแรงงานถูกกว่า อย่างไรก็ตามช่วงน้ำท่วมเรื่องวัตถุดิบไม่มีปัญหา ยัง
มีต้นพาราเข้าโรงงานตลอดและส่วนมากเป็นต้นยางที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมเกือบ 100%" นายสนอง กล่าว
และว่า ก่อนน้ำท่วมยอมรับว่าขาดแคลนวัตถุดิบ เพราะยางแพง ทำให้บางช่วงแทบจะไม่มีวัตถุดิบเข้าโรงงาน และ
มีการแข่งขันกันเรื่องราคาพอสมควร ทำให้บางช่วงแทบจะไม่มีวัตถุดิบเข้าโรงงาน และมีกงานแข่งขันกันเรื่อง
ราคาพอสมควร ทำให้บางโรงงานต้องชะลอการผลิตลง 60% และมีการแข่งขันกันสูงมากในการหาซื้อวัตถุดิบ มี
การตัดหน้าในเรื่องของราคา แต่ภายหลังจากสถานการณ์น้ำท่วมคลี่คลาย โรงงานก็เริ่มประสบปัญหาคล้ายคลึงกับ
การผลิตเป็นเฟอร์นิเจอร์ ในแง่ของวัตถุดิบที่หาได้ยากขึ้นกว่าเดิม เพราะเกษตรกรชะลอที่จะขายต้นยาง