18/06/2555

สยามลวดเหล็กฯทุ่มกว่าพันล้านบาทใน5ปีนี้

นายโย ชุน กวี กรรมการผู้จัดการบริษัท สยามลวดเหล็กอุตสาหกรรมจำกัด ซึ่งเป็นบริษัทผลิตลวดเหล็กแรงดึงสูง
รายใหญ่สุดในอาเซียนในเครือทาทาสตีล โกลบอลไวร์บิสซิเนสเปิดเผยว่า งบการลงทุนของบริษัท 5 ปีนี้ (2555-
2559) จะใช้เงินลงทุนมากกว่า 1,000 ล้านบาท เพื่อเพิ่มกำลังการผลิตลวดเหล็กแรงดึงสูงอีก 1 แสนตันจากปัจจุบัน
ที่ผลิตอยู่ 2 แสนตันต่อปีโดยจะปรับปรุงเครื่องจักรเดิมเพื่อเพิ่มกำลังการผลิตอีก 5 หมื่นตันต่อปีและโครงการร่วม
ทุนผลิตลวดเหล็กเคลือบสังกะสีอีก 3.6 หมื่นตัน/ปีเงินลงทุน700 ล้านบาทคาดจะดำเนินการผลิตเชิงพาณิชย์ได้
ก.ค.56 หลังจากนั้นจะขยายกำลังการผลิตเพิ่มเป็น 5 หมื่นตัน/ปีแหล่งเงินเพื่อใช้การลงทุนนั้นส่วนหนึ่งมาจากการ
ใส่เงินทุนของผู้ถือหุ้น และการกู้ยืมสถาบันการเงิน ซึ่งบริษัทฯไม่มีแผนจะนำสยามลวดเหล็กฯเข้าระดมทุนใน
ตลาดหลักทรัพย์ฯแต่อย่างใด

นายโย กล่าวต่อไปว่าปัญหาการเงินในยุโรปและการชะลอตัวทางเศรษฐกิจในจีนส่งผลกระทบต่อการ
ส่งออกของไทย เนื่องจากความต้องการใช้ลดลง และเมื่อเศรษฐกิจจีนลดความร้อนแรงลง ก็จะมีซัปพลายส่วนเกิน
จากจีนส่งออกมาทุ่มตลาดในภูมิภาคนี้บริษัทฯจำเป็นต้องติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด จากปัจจัยเศรษฐกิจโลก
ดังกล่าวข้างต้น ทำให้โอกาสที่ราคาลวดเหล็กแรงดึงสูงจะปรับตัวสูงขึ้นเป็นไปได้ยากในระยะสั้นแต่จะมีความผัน
ผวนสูง โดยล่าสุดราคาลวดเหล็กแรงดึงสูงอยู่ที่ 33 บาทต่อกิโลกรัม หรือคิดเป็น1,100 เหรียญสหรัฐต่อตัน ซึ่งเป็น
ระดับราคาที่ทรงตัวมาตั้งแต่ปีก่อนแล้ว

สำหรับผลการดำเนินงานงวดปี 2555 (เม.ย.-มี.ค.) บริษัทฯตั้งเป้ารายได้ปีนี้อยู่ที่6,000 ล้านบาท เติบโตจากปี
ก่อน 8-10% ที่มีรายได้ประมาณ 5.5 พันล้านบาท และกำไรสุทธิกว่า 300 ล้านบาท โดยช่วง 2 เดือนแรกของ
ปีงบประมาณ บริษัทฯมีผลการดำเนินงานเติบโตดีกว่าการขยายตัวของภาคอุตสาหกรรมเหล็ก ซึ่งการเป็น
ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน(เออีซี)จะทำให้ตลาดเหล็กในภูมิภาคนี้ขยายตัวมากขึ้นโดยปัจจุบันบริษัทฯมีส่วนแบ่ง
ตลาดในอาเซียนอยู่ 20-30%

ในปีนี้คาดการณ์อุตสาหกรรมก่อสร้างในไทยจะเติบโตต่อเนื่อง5-10% สอดคล้องกับนโยบายการลงทุน
โครงการก่อสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ เช่น โครงการรถไฟฟ้าสายต่างๆ โครงการสร้างเขื่อนรอบนิคมฯทำให้ความ
ต้องการใช้เหล็กในประเทศเพิ่มสูงขึ้นโดยแต่ละปีไทยมีความต้องการใช้เหล็กลวดเหล็กแรงดึงสูงประมาณ 2 แสน
ตัน/ปี โดยบริษัทฯมีส่วนแบ่งการตลาดสูงสุดอยู่ที่ 40%ซึ่งกำลังการผลิตลวดเหล็กฯจะขายในประเทศ60% ที่เหลือ
ส่งออกไปต่างประเทศ

นายไชโย เหนียนเฉลย ผู้จัดการส่วนขายและบริการระหว่างประเทศ บริษัท สยามลวดเหล็กอุตสาหกรรม
จำกัด กล่าวว่า การขยายการลงทุนสู่การผลิตลวดเหล็กเคลือบสังกะสีนั้น นับเป็นการแตกไลน์ธุรกิจเพิ่มขึ้นจาก
เดิมอยู่ในกลุ่มอุตสาหกรรมก่อสร้างไปสู่อุตสาหกรรมยานยนต์และสายไฟฟ้าเนื่องจากลวดเหล็กเคลือบสังกะสี
เป็นวัตถุดิบส่วนหนึ่งในการผลิตโดยโครงการนี้บริษัทฯได้ร่วมทุนกับบริษัท นิเชียสตีล เวิร์ค จำกัดในเครือ
นิปปอนสตีลประเทศญี่ปุ่นเพื่อรองรับความต้องการใช้ทั้งในและต่างประเทศ

ส่วนปัญหาวิกฤตการเงินยุโรปนั้นขณะนี้ได้ส่งผลกระทบต่อการส่งออกลวดเหล็กฯในช่วง 2-3 เดือนแรก
ของงวดปี 2555 พบว่ายอดออเดอร์ในตลาดยุโรปลดลง 50%แต่ได้ตลาดออสเตรเลียและไต้หวันเพิ่มทดแทนตลาด
ที่หายในยุโรป ทำให้มั่นใจว่าปีนี้ยังรักษาระดับอัตราการส่งออกอยู่ที่ 40%ของกำลังการผลิต

นอกจากนี้ การเติบโตทางเศรษฐกิจของจีนที่ชะลอตัวลง เชื่อว่าจะมีกำลังการผลิตเหล็กจากจีนออกมาทุ่ม
ตลาดมากขึ้นทำให้บริษัทฯต้องมองหาตลาดส่งออกเพิ่มเติมโดยจะเน้นไปยังตลาดแถบแอฟริกาและอเมริกาใต้ที่
ยังมีความต้องการลวดเหล็กแรงดึงสูงอยู่ ขณะเดียวกันก็จะรักษาฐานลูกค้าส่งออกเอาไว้ ทั้งนี้สยามลวดเหล็กฯมี
การผลิตลวดเหล็กสำหรับคอนกรีตอัดแรง ลวดเหล็กตีเกลียวสำหรับคอนกรีตอัดแรง ลวดเหล็กตีเกลียวเคลือบโพ
ลิเอทิลีน ตะแกรงเหล็กกล้า ฯลฯ โดยผลิตภัณฑ์ดังกล่าวนี้ใช้ทำเสาเข็มอัดแรง เสาไฟฟ้า คานขนาดใหญ่รวมทั้งถัง
เก็บแอลเอ็นจี เป็นต้น