19/06/2555 เลิกแร่ใยหินหนุนกระเบื้องแพง นายอุฬาร เกรียวสกุล กรรม- การผู้จัดการ บริษัท กระเบื้องโอฬาร จำกัด กล่าวว่า ภาพรวมมูลค่าตลาดกระเบื้องมุง หลังคาในไทยประมาณ 10,000 ล้านบาท โดยบริษัทผลิตสินค้าออกสู่ตลาดวัสดุก่อสร้างรวม 9 ประเภท เช่น กลุ่ม กระเบื้องมุงหลังคา กระเบื้องคอนกรีต ไม้ฝา กระเบื้องแผ่นเรียบ และอิฐบล็อกปูพื้นถนน โดยกระเบื้องโอฬาร ครองส่วนแบ่งตลาดในประ-เทศ 40% ซึ่งบริษัทเน้นการผลิตวัสดุก่อสร้างที่มีวัตถุดิบหลักเป็นปูนซีเมนต์พอร์ต แลนด์ มีผลิตภัณฑ์หลักคือกระเบื้องมุงหลังคา และกระเบื้องแผ่นเรียบที่มีส่วนผสมของแร่ใยหินไครโซไทล์ ซึ่ง ประเทศไทยมีการใช้มานานกว่า 30 ปี แต่ละปีมีการนำเข้าแร่ไครโซไทล์กว่า 32,000 ตัน โดย 90% นำไปเป็น ส่วนผสมในการทำกระเบื้องมุงหลังคา และอีก 10% ใช้เป็นส่วนผสมในการทำผ้าเบรกและท่อซีเมนต์ "แร่ใยหินไครโซไทล์จะช่วยเพิ่มความแข็งแรงทนทาน ทนแดด ทนฝน จึงเหมาะเป็นส่วนประกอบในการ ผลิตผลิตภัณฑ์ต่างๆ ซึ่งแร่ ใยหินขาวไครโซไทล์ที่นำมาผลิตมีความแตกต่างจากแร่ใยหินกลุ่มแอมฟิโบล 100-500 เท่า ซึ่งเป็นคนละชนิดกับที่องค์การอนามัยโลกระบุว่าเป็นอันตราย ที่สำคัญคือยังไม่เคยมีหลักฐานใดปรากฏว่าแร่ ไครโซไทล์เป็นสาเหตุให้เกิดโรคร้ายแรง จึงขอความเป็นธรรมจากภาครัฐให้ทำการศึกษาข้อเท็จจริงเกี่ยวกับแร่ ใยหินอย่างชัดเจนก่อนห้ามใช้ เพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบต่อภาคเศรษฐกิจ ผู้ประกอบการ และประชาชนผู้ใช้ที่ได้รับ ความเดือดร้อนในการแบกรับภาระราคาของผลิตภัณฑ์ที่ทำจากวัสดุทดแทน ซึ่งทำให้กระเบื้องมี ราคาสูงขึ้นไม่ต่ำ กว่า 2-3 เท่า" นายพรกิจ เกรียวสกุล รองกรรมการผู้จัดการฝ่ายโรงงาน ประจำสาขาบางพลี กล่าวว่า บริษัทมีโรงงานผลิต กระเบื้องมุงหลังคาที่สาขาบางพลีเป็นโรงงานแห่งแรกเน้นผลิตกระเบื้องมุงหลังคาเฉพาะลอนคู่ ลอนเล็ก และ แผ่นเรียบ และมีการควบคุมดูแลด้านมาตรฐานความปลอดภัยอย่างเข้มงวด