30/09/2556 คีย์แมนรุ่นทายาทกลุ่มเซ็นทรัล ‘สุทธิสาร จิราธิวัฒน์’ ทางลัด...ซื้อโฮมโปรได้เราขึ้นที่ 1 ทันที กลุ่มเซ็นทรัล หนึ่งในบิ๊กเพลเยอร์วงการธุรกิจวัสดุก่อสร้างและตกแต่ง สร้างแรงกระเพื่อมให้กับภาพรวมธุรกิจอีกครั้ง ล่าสุด "สุทธิสาร จิราธิวัฒน์" ประธานกรรมการบริหารกลุ่มบริษัทซีอาร์ซี ไทวัสดุ ผู้บริหารโมเดิร์นเทรดวัสดุในเครือ เซ็นทรัล นำทีมประกาศแผนธุรกิจแตกแบรนด์ใหม่ "บ้าน แอนด์ บียอนด์ : baan & BEYOND" ต่อจาก 2 แบรนด์หลักที่มีใน มือคือ "โฮมเวิร์ค-ไทวัสดุ" โดยบ้าน แอนด์ บียอนด์จะเป็นศูนย์จำหน่ายสินค้าตกแต่งบ้านที่ชูคอนเซ็ปต์...โฮมดีพาร์ตเมนต์สโตร์เป็นรายแรกใน ประเทศไทย เจาะกลุ่มลูกค้าที่ต้องการปรับปรุงตกแต่งบ้านโดยตรง ++คอนเซ็ปต์แบรนด์ใหม่ "บ้าน แอนด์ บียอนด์" สโลแกนคือ...บ้านใหม่มีได้ทุกวัน เราขายสินค้าตกแต่งบ้านเป็นหลัก เช่น สินค้าเกี่ยวกับ ห้องน้ำ ห้องนอน ตกแต่ง ไฟฟ้า แสงสว่าง ฮาร์ดแวร์ สินค้าเกี่ยวกับเด็ก ฯลฯ ส่วนเฟอร์นิเจอร์จะมีเฉพาะออฟฟิศ เฟอร์นิเจอร์ รูปแบบการจัดร้านเป็นรูปแบบใหม่ ใช้เลย์เอาต์แบบเดียวกับดีพาร์ตเมนต์สโตร์ ความรู้สึกจะเหมือนเดินเข้าห้าง แล้ว เจอช็อปร้านเสื้อผ้า กระเป๋า รองเท้าใน ห้าง จะไม่มีการเรียงสินค้าบนเชลฟ์ เยอะ ๆ ยกเว้นสินค้าดี.ไอ.วาย.ที่ยังต้องเรียงบน เชลฟ์ เราจำลองเลย์เอาต์เป็นช็อปร้านค้าย่อย มีทั้งหมดประมาณ 50 ช็อป แต่ละช็อปมีพื้นที่ประมาณ 100-300 ตารางเมตร ตัวศูนย์มี 2 ชั้น ชั้นล่างเป็นพื้นที่ขายสินค้าเกี่ยวกับการตกแต่งซ่อมแซมบ้าน รวมทั้งมีพื้นที่เช่า อาทิ ร้านอาหาร ธนาคาร ฯลฯ ชั้นบนเป็นพื้นที่ขาย มีสินค้าประมาณ 2.6 หมื่นรายการ สัดส่วนสินค้านำเข้ามีประมาณ 10% ในเรื่องราคายืนยันว่าจับต้องได้ ไม่ต้องรอโบนัสออกแล้วค่อยมาซื้อ และจะมีสินค้าภายใต้แบรนด์ที่เป็นของบ้าน แอนด์ บียอนด์เอง ยูนิค ไม่ซ้ำใคร ++กลยุทธ์ที่นำเสนอ ตอนนี้เรามี 3 แบรนด์ "โฮมเวิร์ค" เน้นกลุ่มลูกค้าที่ซื้อบ้านใหม่กำลังเตรียมตัวย้ายเข้าอยู่จะต้องซื้อของแต่งบ้านเพิ่ม หรือเปลี่ยนของเดิมที่ให้มาให้ถูกใจ มีดีไซน์เซ็นเตอร์ให้บริการออกแบบ แล้วเราก็มี "ไทวัสดุ" เป็นร้านแบบไม่ติดแอร์ เน้น กลุ่มลูกค้าผู้รับเหมา-ช่าง ขายสินค้าไม่เน้นบริการออกแบบมากนัก ส่วน "บ้าน แอนด์ บียอนด์" เน้นกลุ่มลูกค้าที่ต้องการปรับปรุงซ่อมแซมบ้าน การบริการจะขยับขึ้นไปอีกสเต็ปจาก โฮมเวิร์ค ไม่ใช่แค่นำสินค้ามามิกซ์ แอนด์แมตช์ แล้วก็จัดวางลงบนโปรแกรม 3 มิติให้ลูกค้าดู แต่เราจะมีสไตลิสต์ ผู้เชี่ยวชาญนั่งคุยกับลูกค้าสอบถามข้อมูล ต่าง ๆ เช่น เป็นคนสไตล์ไหน ชอบสินค้า แบบไหน ฯลฯ พาลูกค้าเดินดูสินค้าและ ให้คำปรึกษาได้ คุณมีไลฟ์สไตล์แบบนี้ ควรจะเลือกสินค้าอะไรบ้าง เลือกแม้กระทั่ง สีทาห้อง ที่นี่จะมี "สลีปปิ้ง เทอราปี" ที่ปรึกษาเรื่องการเลือกที่นอน ตั้งแต่การชั่ง น้ำหนัก ท่าที่นอนประจำ ตรวจเช็ก สุขภาพ การนอน ให้คำแนะนำเตียง ที่เหมาะสมกับลูกค้าแต่ละราย มีบริการจัดแจกันให้ลูกค้า มีบริการส่งสินค้าฟรี รัศมี 30 กิโลเมตรจากสาขา สำหรับ ลูกค้าที่ยอดซื้อตั้งแต่ 5 พันบาทขึ้นไป รับประกันบริการภายใน 24 ชั่วโมงต้องส่งถึงมือลูกค้า ++เป็นเพราะโฮมเวิร์ค...ไม่เวิร์ค ไม่ใช่ครับ ! (รีบปฏิเสธ) กลยุทธ์ของเราคือต้องการฟูลฟิลหรือเติมเต็มกลุ่มลูกค้าที่เรายังไม่ได้เข้าไป ตอนนี้มี 3 แบ รนด์รองรับความต้องการลูกค้า 3 กลุ่ม การเปิดแบรนด์ "บ้าน แอนด์ บียอนด์" ถือว่าเป็นการ...ลองของใหม่ เราจะเริ่มทดลองเปิดก่อน 2 สาขา สาขาแรกจังหวัดเชียงใหม่ สาขา 2 ที่จังหวัดขอนแก่น มีพื้นที่สาขาละ 1.2 หมื่นล้าน ตารางเมตร เงินลงทุนต่อ สาขาประมาณ 700 ล้านบาทเศษ จะเปิดพร้อมกันในเดือนพฤศจิกายนนี้ ตั้งเป้ายอดขายปีแรกสาขา ละ 600 ล้านบาท หรือเดือนละ 50 ล้านบาท รวม 2 สาขายอดขายประมาณ 1.2 พันล้านบาท คงจะรอดูผลอีก 6 เดือน ถ้าไปได้ดีปี'57 จะเร่งขยายสาขาทันทีอีก 5-6 สาขา ทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด จุดสำคัญที่จะต้องดูละเอียดคือ กลุ่มลูกค้าเป้าหมายของโฮมเวิร์คและ บ้าน แอนด์ บียอนด์ซ้ำซ้อนกันหรือไม่ ถ้า ซ้ำซ้อนกันก็อาจจะปรับโฉมสาขาของ โฮมเวิร์คมาเป็นบ้าน แอนด์ บียอนด์ ถ้าไม่ซ้ำซ้อนก็จะขยายทั้ง 3 แบรนด์ไปพร้อม กัน ++ระยะเวลาคืนทุน บ้าน แอนด์ บียอนด์เราตั้งเป้าไว้ 5-7 ปี ส่วนไทวัสดุ 3-5 ปี เพราะลงทุนน้อยกว่า สาขาละประมาณ 600 ล้านบาท ++ไทวัสดุขยายเร็ว 8-10 สาขา ปัจจุบันเรามีไทวัสดุ 31 สาขา เฉพาะปีนี้จะเปิด 13 สาขา เกินเป้าหมาย ที่ตั้งไว้ โดยช่วงที่เหลือของปีนี้จะเปิด เพิ่ม 5 แห่ง ส่วนปี'57 อาจจะไม่ได้ ขยายเร็วเท่านี้เพราะมีผู้เล่นรายใหม่ เข้ามา ที่ดินที่มีราคาเหมาะสมก็หา ยากขึ้น ถามว่า พีกสุดของไทวัสดุจะมีกี่สาขา...คิดว่าได้เกินกว่า 100 สาขา หลังจากนั้นค่อยคิดเรื่องลงทุนต่างประเทศ ++คู่แข่งจะเปิดเมกาโฮม การแข่งขันคงรุนแรง ใครเป็น ผู้ตามจะเหนื่อย ถ้าอยู่ในธุรกิจนี้ต้องมี แคแร็กเตอร์ที่ชัดเจน ตอนที่เปิดตัว ไทวัสดุเมื่อ 3 ปีก่อน ตอนนั้นก็ไม่ได้คิดว่าวันนี้โฮมโปรจะมาเปิดเมกาโฮมเป็นคู่แข่ง ++เป้าหมายยอดขาย ปีนี้ 14,000 ล้านบาท เติบโตจากปีก่อน 30-40% เกือบ ๆ 9 เดือนแรกเรามีอัตราเติบโตเกือบ 50% ++นิยามตัวเองเป็นอะไร เราเป็นรีเทลเลอร์-ค้าปลีก การมาทำไทวัสดุซึ่งเป็นห้างไม่ติดแอร์จับกลุ่มลูกค้ากำลังซื้อไม่สูง ไม่ได้หมายความว่า ภาพลักษณ์ของเซ็นทรัลจะต้องทำห้างที่มีระดับและติดแอร์เท่านั้น หรือจับกลุ่มลูกค้าระดับกลาง-บน สมัยปี'40 เราเคยจะทำบิ๊กซีซึ่งจับกลุ่มลูกค้าระดับล่าง ตอนนั้นแบงก์อนุมัติ เงินกู้แล้วแต่เกิดวิกฤตเลยไม่เบิกจ่าย วงเงินให้ ++เป้าหมายในธุรกิจค้าวัสดุ ต้องเป็นเบอร์ 1 ตอนนี้เรามีร้าน 3 แบรนด์ ช่วยให้ขยายสาขาเติบโตได้รวดเร็ว ++สนใจซื้อโฮมโปร ...เรื่องการเข้าซื้อกิจการโฮมโปรเป็นเรื่องการวางกลยุทธ์ของบอร์ด (คณะกรรมการ) ...ผมไม่ทราบ แต่เฉพาะส่วนตัว ผมไม่ได้ปิดกั้นเรื่องการซื้อกิจการ เพราะถ้าซื้อได้วันรุ่งขึ้นเราก็เป็นที่ 1 เลย