01/03/2560

การเลือกใช้ UPVC

UPVC ประตู หน้าต่างรูปแบบใหม่ ที่กำลังเป็นที่นิยมอย่างแพร่หลาย เราจะเห็นว่าโครงการบ้านใหม่ โครงการคอนโดใหม่ ล้วนแล้วใช้ UPVC กันทั้งนั้น ซึ่งสำหรับใครที่กำลังจะตกแต่งบ้านใหม่ หรือเปลี่ยน ประตู หน้าต่าง ซึ่ง ประตู หน้าต่าง UPVC ก็ถือเป็นทางเลือกหนึ่งที่น่าสนใจนะครับ งั้นเรามาศึกษารายละเอียดกันครับ ของเจ้า UPVC และวิธีเลือกใช้ กันครับ

UPVC หรือที่นิยมเรียกกันว่าไวนิล (Vinyl) เกิดจากการผสม UPVC (Unplasticized Poly Vinyl Chloride) ซึ่งเป็นสารปิโตรเคมี มีส่วนผสมของ PVC เป็นหลัก 70-85% ที่ไม่ใส่สารเสริมสภาพพลาสติกนั้นจะทำให้มีความความคงตัวสูง ไม่ยืดหยุ่น ไม่ซีดจางและทนทานต่อทุกสภาพทุกภูมิอากาศเหนือกว่า PVC ทั่วไป อีกทั้งมีการใส่สารเพิ่มประสิทธิภาพหลายชนิด เช่น สารเพิ่มความทนทานต่อสภาวะอากาศ (Complex Stabilizer), สารเพิ่มความทนทานต่อแรงกระแทก (Impact Modifier), สารเพิ่มความทนทานต่อแสงแดดหรือรังสี (UV Stabilizer) เข้าไปด้วย

UPVC ในท้องตลาดบ้านเราจะเป็นสีขาวเนื่องจากมีส่วนผสมของไททาเนียมไดออกไซด์ (Titanium Dioxide) เพื่อป้องกันรังสี UV เหมาะกับสภาพเมืองร้อนอย่างบ้านเรา ทั้งยังทนกรด, ด่าง, น้ำมัน, แอลกอฮอล์ และสารเคมีต่างๆ แต่ยกเว้นคลอรีน ทั้งยังเป็นฉนวนไฟฟ้าที่ดีโดยเมื่อติดไฟจะดับได้ด้วยตัวเอง แต่แน่ล่ะค่ะลำพังเมื่อเกิดอัคคีภัยนั้นไฟไม่ได้ทำอันตรายมากเท่ากับควัน เมื่อถูกเผาให้ร้อนจะสลายตัวให้ไอพิษของ Phosgene ออกมา ตอนหนีไฟจึงต้องคลานต่ำเพราะควันจะลอยตัวสูง

UPVC จึงถูกคิดค้นขึ้นเพื่อตอบสนองผลิตภัณฑ์หรือชิ้นส่วนที่มีการใช้งานภายนอก โดยเฉพาะใช้ทำเป็นประตูหน้าต่าง โดยสามารถใช้ทดแทนวัสดุจากธรรมชาติ เพราะระบบประตูหน้าต่าง UPVC จะมีความคงทนและแข็งแรง สามารถทดแทนและกำจัดข้อด้อยของประตูหน้าต่างไม้และอะลูมิเนียมได้ คุณผู้อ่านท่านใดที่กำลังสร้างบ้านและกำลังมองหาประตูหน้าต่างใหม่ หรือเจ้าของบ้านเก่าที่ต้องการเปลี่ยนประตูหน้าต่างให้ดีกว่าเดิมหรือคิดจะเปลี่ยนใหม่อยู่นั้น ขอนำเสนอดาวรุ่งพุ่งแรงที่มีคุณสมบัติติดตัวที่โดดเด่นดังนี้

1.เป็นทางเลือกของวัสดุธรรมชาติได้ดี คือการทนน้ำทนแดดทนรังสี UV การเชื่อมชิ้นส่วนต่างๆ ให้เป็นประตูหน้าต่างเป็นการเชื่อมด้วยความร้อนจนรอยต่อเชื่อมสนิทเป็นเนื้อเดียวกัน (Fusion) ทำให้เหมาะแก่การผลิตเป็นกรอบหน้าต่างและประตู เนื่องจากสามารถขจัดปัญหาการกัดกินของปลวกและแมลงต่างๆ ที่มักเกิดกับไม้ และขจัดปัญหาการรั่วซึมของน้ำฝนบริเวณรอยต่อที่มักเกิดกับประตูหน้าต่างอะลูมิเนียมได้ เนื่องจาก UPVC สามารถดูดซับน้ำได้น้อยมากคือเพียง 0.1% เท่านั้น จึงไม่ผุเปื่อยบิดงอเมื่อเจอฝน

ทั้งนี้ส่วนผสมของ UPVC ต้องถูกนำไปเข้ากระบวนการรีดเส้น (Extrusion) ออกมา ตามการออกแบบหน้าตัดที่เรียกทับศัพท์ว่าโพรไฟล์ (Profile) ต่างๆ กันให้มีความแข็งแรงทนทานต่อสภาพภูมิอากาศต่างๆ แล้วจึงเอาโพรไฟล์เหล่านี้ไปประกอบเชื่อมต่อเข้ากันเป็นกรอบประตูหน้าต่าง ทั้งชุดบานเปิด, บานเลื่อน, บานสวิง, บานเฟี้ยม

ดังนั้นการเลือกประตูหน้าต่าง UPVC จึงสมควรอย่างยิ่งที่ต้องเลือกโพรไฟล์ที่มีคุณภาพดี อันจะส่งผลโดยตรงต่ออายุการใช้งานประตูหน้าต่างนั้นๆ เราควรเลือกโพรไฟล์ที่ผ่านการทดสอบภายใต้มาตรฐานสากล เช่น BS EN 12608 ซึ่งเป็นมาตรฐานโดยเฉพาะของผู้ผลิตประตูหน้าต่าง UPVC ซึ่งกำหนดโดย British Standards Institution (BSI) ซึ่งใช้ในภาคพื้นยุโรปหรือ GBT8814 ของประเทศจีน ภายใต้มาตรฐาน BS EN 12608 เราสามารถหาข้อมูลเกี่ยวกับประตูหน้าต่าง UPVC ที่เราต้องการได้ดังนี้

แบ่ง Class ของโพรไฟล์ตามความหนาเป็น
Class A ผนังด้านนอกสุดทั้งสองด้านหนากว่า 2.8 มม.
Class B ผนังด้านนอกสุดทั้งสองด้านหนา 2.5-2.8 มม.
Class C ผนังด้านนอกสุดทั้งสองด้านบางกว่า 2.5 มม.

2.มาตรฐาน BS EN 12608 ยังได้ทดสอบความสามารถในการรับแรงกดที่จุดเชื่อมต่อ, ความแข็งแรงในการรับแรง, การลามไฟ และอื่นๆ มากมาย อันสามารถอ้างอิงถึงคุณสมบัติที่ดีที่คุณสามารถใช้เป็นเกณฑ์ในการเลือกซื้อประตูหน้าต่าง UPVC สำหรับบ้านของคุณได้อย่างสบายใจ

3.ในด้านการประหยัดพลังงาน เนื่องจากประตูหน้าต่าง UPVC มีค่าการนำความร้อนจากภายนอกเข้าสู่อาคารน้อยกว่าอะลูมิเนียม จึงสามารถช่วยลดภาระของเครื่องปรับอากาศภายในตัวอาคาร อีกทั้งทนทานต่อแสงแดด (UV Protection) ไม่ผุกร่อน ไม่บิดงอ ไม่เป็นเชื้อไฟ ทั้งยังป้องกันเสียงรบกวนจากภายนอก เพราะโพรไฟล์ที่ถูกออกแบบให้สามารถดูดซับเสียงจากภายนอกได้ โดยโครงสร้างโพรไฟล์ที่ซับซ้อนเอง หรือที่รองรับการติดตั้งกระจก 2 ชั้นหรือด้วยซีลยางรวมเข้าด้วยกัน จะสามารถลดความดังของเสียงลงได้ 30 เดซิเบล (คลื่นเสียงการจราจรทั่วไปอยุ่ที่ 75 เดซิเบล)ทำให้ประหยัดทั้งพลังงานไฟฟ้าและประหยัดเงินอีกด้วย

ทั้งนี้เพราะมีค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษาต่ำ คุณจึงสามารถดูแลรักษาและทำความสะอาดประตูหน้าต่าง UPVC ได้เองแบบสบายๆ โดยใช้น้ำยาทำความสะอาด UPVC ที่มีวางขายทั่วไป ซึ่งมีทั้งแบบสเปรย์และแบบครีม หรืออาจใช้น้ำยาล้างจานผสมน้ำสะอาดในอัตราส่วน 1 : 6 ใช้ฟองน้ำเช็ดถูแล้วใช้ผ้าชุบน้ำสะอาดเช็ดตาม จากนั้นจึงเช็ดให้แห้งด้วยผ้าสะอาดอีกครั้ง คราบสกปรกจะหลุดออกจากผิว UPVC โดยง่าย UPVC จึงยังคงมีผิวเรียบมันเงา ขาวนวล สีคงทนตลอดอายุการใช้งานที่ยาวนาน