26/12/2556 ‘อิเกีย’กว้านซื้อที่1000ไร่ยึดรังสิตแผนลงทุนบิ๊กเบิ้มปั้นอาณาจักรค้าปลีกแห่งใหม่ พลันที่กลุ่มสยามฟิวเจอร์ ดีเวลอปเมนท์ แจ้งประกาศการซื้อที่ดินจำนวน 250 ไร่ มูลค่า 700 ล้านบาท บริเวณถนนรังสิต นครนายก ในช่วงเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา กลายเป็นความคึกคักของตลาดค้าปลีก ขึ้นมาทันใด เพราะนั่นเป็นสัญญาณการ ลงทุนรอบใหม่และสยายปีกปักหมุดกรุงเทพฯตอนเหนืออย่างเต็มรูปแบบของกลุ่ม "อิเกีย" นอกจากนายสมนึก พจน์เกษมสิน กรรมการผู้จัดการ บริษัท สยามฟิวเจอร์ ดีเวลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยถึง การได้มาของที่ดิน 250 ไร่ มูลค่า 700 ล้านบาทแล้วนั้น ยังได้มีการก่อตั้งบริษัทร่วมทุนชื่อบริษัท นอร์ธ บางกอก ดีเวลอป เมนท์ จำกัด ด้วยสัดส่วนการถือหุ้น บริษัท สยามฟิวเจอร์ ดีเวลอปเมนท์ 49% บริษัท อิคาโน่ จำกัด 49% และบริษัท ไทย วนาสิริ จำกัด 2% สำหรับพัฒนาและบริหารศูนย์การค้าแห่งใหม่ โดยเบื้องต้นจะเรียกโปรเจ็กต์นี้ว่า "เมการังสิต" หรือ "อิเกีย รังสิต" อย่างไรก็ตาม ความเคลื่อนไหวของการร่วมทุนรอบใหม่ระหว่างสยามฟิวเจอร์ฯ และอิคาโน่ บนทำเลรังสิต- นครนายก ไม่ได้ หยุดแค่เพียงที่ดินจำนวน 250 ไร่เท่านั้น ล่าสุดได้กว้านซื้อที่ดินบริเวณใกล้เคียงและฝั่งตรงข้าม รวมเป็น ที่ดินแปลงมหึมากว่า 1,000 ไร่ สำหรับการปั้นอาณาจักรค้าปลีกแห่งใหม่รองรับดีมานด์และกำลังซื้อมหาศาลในอนาคต ลงทุนซื้ออนาคต แหล่งข่าวระดับสูงในวงการพัฒนาที่ดินและอสังหาริมทรัพย์กล่าวกับ "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า โปรเจ็กต์เมการังสิต ที่ ประกาศแจ้งตลาดหลักทรัพย์ฯไป 250 ไร่ เป็นเพียงเฟสแรก เพื่อขึ้นโครงการในรูปแบบเดียวกับเมกาบางนา แต่การลงทุน ของสยามฟิวเจอร์ฯ และอิคาโน่มองไปไกลกว่านั้น ตามยุทธศาสตร์การลงทุนที่จะต้องมีโครงการอีกหลายเฟสทยอยเปิดตัว ตามมา เช่นเดียวกับการมีพาร์ตเนอร์ทางธุรกิจกลุ่มอื่น ๆ ที่จะเข้ามาร่วมลงทุนด้วย โดยเป้าหมายเป็นการสร้างเมืองใหม่ สร้างย่านการค้าแห่งใหม่ที่ครบครัน และรองรับ ทุกความต้องการของลูกค้า "ตอนนี้อิคาโน่ทยอยซื้อที่เก็บเอาไว้แล้วกว่า 1,000 ไร่ การรวบรวมที่ดินเป็นเรื่องที่ยากมาก และควรทำเงียบ ๆ ไม่งั้น ราคาจะขึ้นอย่างรวดเร็วและโหดมาก บางแปลงเรียกตารางวาละ 2 แสน เรื่องนี้จึงเป็นหนังยาว ค่อย ๆ ทยอยเก็บกันไป" ทั้งนี้การไล่เก็บที่ดินสำหรับขึ้นโครงการ อิเกีย รังสิต ผู้บริหารระดับสูงรายนี้ระบุว่า จะเดินหน้าไปพร้อม ๆ กับใน ฟากกรุงเทพฯฝั่งตะวันตก คือ อิเกีย บางใหญ่ ซึ่งอยู่ระหว่างการรวบรวมที่ดิน ซึ่งขณะนี้ยังได้ไม่ครบตามเป้าหมาย ซึ่งก็ต้อง ลุยเดินหน้ากันต่อไป ++กวาดกำลังซื้อรอบนอก สอดคล้องกับผู้บริหารระดับสูงสยาม ฟิวเจอร์ ดีเวลอปเมนท์ ฉายภาพการลงทุน บิ๊กโปรเจ็กต์ครั้งนี้กับ "ประชาชาติ ธุรกิจ" ว่า เกมนี้เล่นกันยาวและอาจนานถึง 30 ปี ด้วยขนาดของโครงการ และความครบของสินค้าและบริการจะเป็นตัวตอบ โจทย์ แต่ไม่ว่าการแข่งขันของผู้ประกอบการ เป็นอย่างไร ผู้บริโภคจะเป็นคนเลือก ไม่ว่า จะเป็นบิ๊กมอลล์ขนาด 4-5 ชั้นที่ เห็นทั่วไป หรือสไตล์แนวราบ 2 ชั้นของอิเกีย "เมื่อก่อนเราคิดเหมือนกันว่าค้าปลีกแนวราบจะตรงกับพฤติกรรมคนไทยหรือไม่ กลายเป็นว่าเมกาบางนาเป็น กรณีศึกษาที่ทำให้เห็นรูปแบบใหม่ ๆ ของ ค้าปลีก จากที่ไปดูเมกา มอลล์ ที่รัสเซีย ของอิเกีย เกิดเป็นคำถามว่าค่าก่อสร้าง และที่ดินแพงมาก ทำแบบนี้จะคุ้มเหรอ ตอนแรกเราไม่เห็นด้วย แต่ก็ต้องเสี่ยงดู กลายเป็นว่าเขา (อิคาโน่) ถูก เขาเชื่อในสิ่งที่ ทำมาทั่วโลก" เช่นเดียวกับอิเกีย บางใหญ่ แม้ว่าจะไม่ใช่ที่ดินแปลงขนาดมหึมาเท่ารังสิต แต่ต้องไม่ต่ำกว่า 250 ไร่ ซึ่งการตอบรับ ของ อิเกีย บางนา เป็นสิ่งที่สร้างความมั่นใจในการเดินหน้าลงทุนต่อเนื่อง จากที่ผ่านมากำลังซื้อและทราฟฟิกผู้ใช้บริการ ของเมกาบางนา เป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ คือลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการ 3.5 ล้านคน/ปี หรือเฉลี่ยวันละ 1 แสนคน และ พื้นที่เช่าภายในโครงการที่เต็มแล้ว ขณะเดียวกันร้านค้าใหม่ ๆ ต้องการจะเข้ามาเปิดบริการเพิ่ม ผู้บริหารสยามฟิวเจอร์ฯระบุว่า ยุทธศาสตร์ การเลือกทำเลที่ตั้งของโครงการอิเกีย ทั่วโลกจะเกาะไปกับถนนวงแหวน รอบนอก ไม่ใช่ในเมือง เนื่องจากสอดคล้องกับ ไลฟ์สไตล์ของคนในปัจจุบัน แม้จะทำงานในเมือง แต่ก็มีที่อยู่อาศัยอยู่นอก เมือง วันหยุดพักผ่อนจึงเลือกทำกิจกรรมในย่านชานเมืองหรือออกไปต่างจังหวัด มากกว่าจะวิ่งเข้ามาจับจ่ายใจกลางเมืองที่ จราจรหนาแน่น "เห็นภาพชัดว่าตอนนี้ไม่มีใครอยาก เข้าเมือง ทุกคนมีรถ ต้องการความสะดวกสบาย ไปที่เดียวแล้วครบ ทำให้การ ลงทุนที่เกิดขึ้นต้องใหญ่และตอบทุกความต้องการ" ++วงการตะลึง แหล่งข่าวในวงการค้าปลีกยอมรับว่า ที่ดินจำนวนดังกล่าวมีขนาดใหญ่มาก และเป็นการลงทุนมหาศาลเผื่อไปถึง อนาคต เมื่อมองถึงศักยภาพของโครงการซึ่งมี อิเกียเป็นจุดขายหลัก คาดว่านอกจากจะดึงลูกค้าในส่วนกรุงเทพมหานคร ปทุมธานี และอยุธยาบางส่วน ยังรวมไปถึงนครนายก คล้าย ๆ กับเมกาบางนาที่อิเกียเป็นตัวดึงลูกค้าถึงแปดริ้วและชลบุรี แม้ว่าไม่ห่างออกไป ฟิวเจอร์ พาร์ค รังสิต ซึ่งเป็น เจ้าตลาดในปัจจุบัน จากเดิมที่ดินแปลงนี้ได้รับความสนใจจากกลุ่มทุนต่าง ๆ จำนวนมาก แต่ติดปัญหาแม้เจ้าของจะอยู่ในตระกูลเดียวกัน แต่ถูกแยกย่อยเป็นแปลง ๆ เนื่องจากเป็นที่ดินมรดก และมีถนนวงแหวนผ่ากลาง ขณะเดียวกันโซนนิ่งผังเมืองยังไม่รองรับ การลงทุนเพื่อการพาณิชย์ขนาดใหญ่ "ตอนที่เปิดเมกาบางนาแรก ๆ ผู้เช่า ค่อนข้างมีปัญหากับยอดขายในวันธรรมดา ซึ่งลูกค้าน้อยกว่าวันหยุดเสาร์อาทิตย์ มาก แต่ตอนนี้สถานการณ์เริ่มดีขึ้น" แหล่งข่าวกล่าว สอดคล้องกับแหล่งข่าวในบริษัทพัฒนาที่ดินรายใหญ่เปิดเผยว่า ขณะนี้โครงการศูนย์การค้าของบริษัท เซ็นทรัล พัฒนา จำกัด (มหาชน) หรือซีพีเอ็น หยุดลงชั่วคราว จากเดิมที่มีความคืบหน้าในหลาย ๆ ส่วน โดยเฉพาะการออกแบบ และ การเตรียมความพร้อมการลงทุน