นายสันต์ชัย ศิลาถาวรวงษ์ รองผู้อำนวยการบริหารธุรกิจสี ในเครือกลุ่มบริษัท มหพันธ์ไฟเบอร์ซีเมนต์ เปิดเผยว่าปีนี้
ผลิตภัณฑ์ภายใต้แบรนด์เฌอร่าทุกกลุ่มมีแผนที่จะบุกหนักตลาดต่าง

ประเทศ โดยเฉพาะประเทศเพื่อนบ้านเช่น ลาว พม่า กัมพูชา มาเลเซีย และเวียดนาม รวมถึงการขยายตลาดไปยังบาง
ประเทศในเอเชียและยุโรป

ทั้งนี้ ส่วนหนึ่งเป็นเพราะภาพรวมตลาดวัสดุก่อสร้างภายในประเทศ มีสัญญาณที่จะไม่เติบโตมากจากปัจจัยทาง
การเมืองและเศรษฐกิจ แม้ว่าที่ผ่านมา

งานก่อสร้างโครงการของภาคเอกชนจะมีจำนวนมาก แต่หากมองการเติบโตของปีนี้เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมาแล้วถือว่า
ไม่ได้เติบโตมาก ในขณะที่ตลาดประเทศเพื่อนบ้านกลับมีความต้องการที่สูงขึ้น

นอกจากนี้ เฌอร่ายังมีเป้าหมายที่จะเร่งทำตลาดให้กับผลิตภัณฑ์สีทาไฟเบอร์ซีเมนต์ ภายใต้แบรนด์ "เฌอร่า เพ้นท์"
ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ที่เฌอร่าเพิ่งแตกไลน์มาทำตลาดเมื่อปลายปีที่ผ่านมาโดยที่ผ่านมาตลาดสีทาไฟเบอร์ซีเมนต์จะอยู่รวม
กับตลาดสีทาอาคารทั่วไป ยังไม่มียักษ์ใหญ่สีทาอาคารรายใดให้ความสำคัญกับการทำตลาดดังกล่าวจริงจัง

ในขณะที่งานก่อสร้างปัจจุบันได้หันมาใช้ไฟเบอร์ซีเมนต์แทนที่การใช้ไม้จริงมากขึ้น จึงเป็นตลาดที่เติบโตต่อเนื่อง
ซึ่งปัจจัยดังกล่าวจะผลักดันให้สีทาไฟเบอร์ซีเมนต์เติบโตตามไปด้วย โดยเฌอร่าเตรียมงบการทำตลาดให้กับเฌอร่า เพ้นท์
ประมาณ 15-20 ล้านบาท เน้นการจัดอีเวนต์ตามร้านค้าตัวแทนจำหน่ายต่างๆ2-3 ครั้งต่อเดือน

นายสันต์ชัย กล่าวอีกว่า จะเน้นจำหน่ายเฌอร่า เพ้นท์ ผ่านเครือข่ายตัวแทนจำหน่ายหรือดีลเลอร์ที่มีกว่า 600 รายทั่ว
ประเทศเป็นหลัก และจะทยอยนำวางจำหน่ายในร้านค้าแบบโมเดิร์นเทรดในช่วงปลายปี ตั้งเป้าภายใน 3 ปีจะต้องมีส่วน
แบ่งตลาด 30-40% ในตลาดสีทาไฟเบอร์ซีเมนต์หรือมีมูลค่ายอดขายประมาณ 400-500 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วนยอดขาย
ประมาณ 10%ของทั้งกลุ่มเฌอร่า

ทั้งนี้ ภาพรวมตลาดสีทาอาคารมีมูลค่าประมาณ 1.5 หมื่นล้านบาทเป็นส่วนของสีไฟเบอร์ซีเมนต์ประมาณ1,500-2,000 ล้าน
บาท โดยเฌอร่า เพ้นท์ที่เพิ่งเปิดตัวมีด้วยกัน 16 เฉดสี มีให้เลือก2 ขนาด คือ 4 ลิตร และ 20 ลิตร ราคาประมาณ 700-800
บาทต่อแกลลอน

สำหรับเป้าหมายยอดขายสีทาไฟเบอร์ซีเมนต์ เฌอร่า เพ้นท์ ปีนี้อยู่ที่100 ล้านบาท ส่วนใหญ่เป็นลูกค้าที่เป็นช่างทั่วไป
สัดส่วน 60-70% งานโครงการอสังหาริมทรัพย์แนวราบสัดส่วน 10-15%และงานบ้านทั่วไป 10-15% โดยตลาดหลักยังอยู่
ใน กทม.และจังหวัดทางภาคเหนือ ส่วนภาคใต้เฌอร่าเพิ่งเริ่มเจาะตลาด ขณะที่ภาคอีสานจะเติบโตน้อยกว่า เพราะนิยมใช้
สินค้าที่ผลิตจากสีสำเร็จรูปและก่อสร้างได้เลย