12/05/2557

วัสดุก่อสร้างเขาใหญ่บูม

ร้านวัสดุก่อสร้าง บูมเขาใหญ่มูลค่าตลาดรวมกว่า "หมื่นล้าน" ผุดขึ้นกว่า 30 ราย รับอานิสงส์อสังหาฯแห่ขึ้นโครงการ
เขาใหญ่ ธุรกิจเกี่ยวเนื่องเกิดขึ้น- เปลี่ยนมือทุก 6 เดือน ดันราคาที่ดินริมถนนธนะรัชต์ขยับขึ้น 25 เท่า

การรุกเข้ามาพัฒนาโครงการอสังหา ริมทรัพย์ทั้งโครงการบ้านจัดสรร คอนโด มิเนียม รีสอร์ท บริเวณเขาใหญ่ จำนวนมาก
ในช่วงที่ผ่านมา ทำให้ธุรกิจค้าวัสดุก่อสร้าง และธุรกิจเกี่ยวเนื่องขยายตัว ปักหลักทำเลริมถนนสายธุรกิจ "ธนะรัชต์" กัน
คึกคัก

นางสาวพิไลลักษณ์ แสนปัญญาการุณ กรรมการผู้จัดการ ห้างหุ้นส่วนจำกัด บุญชัยวัสดุก่อสร้าง 1992 หนึ่งใน 4
ตัวแทนจำหน่ายวัสดุก่อสร้าง เอสซีจี ที่เปิดตลาดใน อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา มากว่า 20 ปี ประเมินสภาวะการค้าวัสดุ
ก่อสร้างบริเวณเขาใหญ่ว่า คาดว่าตลาดค้าวัสดุก่อสร้างแถบ อ.ปากช่อง จะมีมูลค่าตลาดรวมไม่ต่ำกว่า"หมื่นล้านบาท" มี
ร้านค้าวัสดุก่อสร้างเกิดขึ้นมากถึง 30 ราย ถือเป็นปริมาณสูงเมื่อเทียบกับจำนวนร้านค้าในระดับจังหวัดด้วยกัน ผลจากตลาด
อสังหาริมทรัพย์ใน อ.ปากช่อง ขยายตัวมาก

"ความต้องการสร้างบ้านใน อ.ปากช่องเริ่มมีมากขึ้นอีกครั้งช่วง 4-5 ปีที่ผ่านมา เมื่อมีกลุ่มทุนเข้ามาขยายโครงการลงทุนช่วง
2-3 ปีที่ผ่านมา (หลังน้ำท่วมใหญ่ปลายปี 2554) ทำให้กลุ่มผู้ค้าวัสดุก่อสร้างขยายกิจการตามไปด้วย เกิดผู้เล่นหน้าใหม่ใน
ตลาดเพิ่มขึ้น มีการลงทุนแบบครบวงจร รองรับตลาดอสังหาฯ กลุ่มลูกค้าโครงการ"

++ร้านวัสดุฯดั้งเดิมสู้ศึกโมเดิร์นเทรด

ปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้น ทำให้ผู้ค้าวัสดุก่อสร้างใน อ.ปากช่อง รายเดิม ต้องปรับตัวรับการแข่งขันที่สูงขึ้น เพื่อให้เข้าถึงลูกค้า
ทุกกลุ่ม ไม่เพียงเปิดหน้าร้าน แต่ต้องเข้าหาลูกค้าตั้งแต่ลูกค้ารายย่อย ไปจนถึงลูกค้าโครงการ รวมถึงรีสอร์ท

"เดิมเน้นลูกค้าที่เป็นเจ้าของบ้านทั่วไป 70% แต่เมื่อตลาดโครงการขยายตัว ก็ต้องแสวงหา โอกาสใหม่ๆ เข้าไปบริการลูกค้า
เช่นกัน ตลาด เริ่มทำสงครามราคากันสูง เมื่อคู่แข่งมากขึ้น บางครั้งลูกค้ารายเก่าก็หายไป ขณะเดียวกันก็มีลูกค้าใหม่ๆ เข้ามา
ทดแทน ตลาดจึงมีการเปลี่ยนแปลงสูงมาก"

นายประการ พรสัมพันธ์สุข เจ้าของห้างหุ้นส่วนยิ่งเจริญ สตีล ตัวแทนจำหน่ายวัดดุก่อสร้าง รายใหญ่อ.ปากช่อง บอกว่า การ
เติบโตของอสังหาฯ ใน อ.ปากช่อง ขยายตัวเร็วมาก โครงการอสังหาฯ ส่วนใหญ่มักใช้ซัพพลายเออร์ที่เป็นคู่ค้ากัน อาทิ
แสนสิริ หรือแม้แต่ซีพีแลนด์ ในเครือเจริญโภคภัณฑ์ (ซีพี.) ส่วนกลุ่มผู้ค้าวัสดุก่อสร้างท้องถิ่น จะได้รับอานิสงส์บ้างก็
ต่อเมื่อบางช่วงที่สินค้าขาดตลาด หรือต้องการเร่งด่วน มีอัตราการเติบโตเฉลี่ยปีละ10%

เขายังประเมินว่าในอนาคตการแข่งขันตลาดวัสดุก่อสร้างใน อ.ปากช่อง จะสูงขึ้น เนื่องจากมีกลุ่มโมเดิร์นเทรดวัสดุก่อสร้าง
หลายราย อาทิ ไทวัสดุ ของเครือเซ็นทรัล มีแผนที่จะขยายกิจการเข้ามาในระดับอำเภอ ดังนั้นร้านวัสดุก่อสร้างที่เป็นธุรกิจ
ครอบครัวจะอยู่รอดได้ในอนาคต ต้องวางแผนขยายกิจการ เป็นระบบโมเดิร์นเทรดมากขึ้น

เช่นเดียวกับบริษัทยิ่งเจริญ ที่ตัดสินใจลงทุนขยายร้านวัสดุก่อสร้างปีละ 50 ล้านบาท เพื่อพัฒนาร้านวัสดุก่อสร้างบนเนื้อที่
30 ไร่ บริเวณ ถ.ธนะรัชต์ เส้นที่จะมุ่งหน้าสู่เขาใหญ่ สู่ความเป็นโมเดิร์นเทรดมากขึ้น

"ปากช่องมีกำลังซื้อสูงจากการที่คนใน ท้องถิ่น ขายที่ดินให้กับกลุ่มทุนจากส่วนกลาง ทำให้คนปากช่องเองปลูกบ้าน
เพิ่ม เรามีลูกค้ารายย่อยมากขึ้น แต่การปรับตัวของเราที่ลงทุนขยายธุรกิจในช่วง 5 ปี เพราะต้องการขยายช่องทางสร้าง
โอกาสรองรับความต้องการวัสดุก่อสร้างของโครงการขนาดใหญ่"

++จากเครื่องมือเกษตรสู่อุปกรณ์ก่อสร้าง

นายวิโรจน์ ลีลารุ่งโรจน์ เจ้าของร้านเพื่อนเกษตร กลุ่มผู้จำหน่ายผลิตภัณฑ์ และอุปกรณ์ เครื่องมือทางการเกษตรที่ขยาย
ธุรกิจมาจำหน่ายสินค้าในกลุ่มสินค้าเครื่องมือ อุปกรณ์ก่อสร้าง โดยเน้นไปที่อุปกรณ์ตกแต่งภายในเป็นหลัก ลงทุนมูลค่าไม่
ต่ำกว่า 100 ล้านบาท บนเนื้อที่ 17 ไร่ ติดถนนมิตรภาพ เพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงด้านอสังหาริมทรัพย์ ใน อ.ปากช่อง

เขามองว่า ในอดีต อ.ปากช่อง เป็น ท้องถิ่นที่โดดเด่นด้านการเกษตร แต่เมื่อราคาที่ดินสูงขึ้นมากจึงมีการแปลงที่ดิน
ไปพัฒนาอสังหาริมทรัพย์จำนวนมาก กลุ่มสินค้าอุปกรณ์การเกษตรยังเป็นที่ต้องการอยู่ แต่การเติบโตด้านวัสดุก่อสร้าง
ขยายตัวอย่างรวดเร็ว ทำให้มองเห็นโอกาสในการขยายกิจการร้านวัสดุก่อสร้าง

ขณะเดียวกัน กลุ่มธุรกิจยังปรับตัว ด้วยการพัฒนาเป็นรูปแบบโมเดิร์นมากขึ้น โดยมีการค้าออนไลน์ เพราะเริ่มมีทายาท เข้า
มารับช่วงกิจการ

"กลุ่มการเกษตรยังเป็นสินค้าหลัก แต่เราเห็นช่องทางในการค่อยขยายไปสู่อุปกรณ์เครื่องมือก่อสร้าง และตกแต่งภายใน ทำ
ให้เห็นโอกาสขยายไลน์ด้านอื่นๆ ที่ใกล้เคียงกันเพื่อให้ธุรกิจอยู่รอดถึงรุ่นลูก" เขากล่าว

++ธุรกิจเกิดใหม่ผุดทุก 6 เดือน

นายสมพงษ์ กันทรสุรพล เจ้าของร้านอาหารและผับ "ผิงดาว" เปิดดำเนินการมาตั้งแต่ปี 2538 กล่าวถึงสภาพเศรษฐกิจ
ริมเส้นทาง ถ.ธนะรัชต์ ว่า ธุรกิจริมเส้นทางไปเขาใหญ่เปลี่ยนแปลงเร็วมาก ทุกๆ 6 เดือน ธุรกิจจะเปลี่ยนมือ มีผู้เล่นรายใหม่
เข้ามามาก รายเก่าน่าจะเหลือเพียง 10% ส่วนใหญ่เป็นธุรกิจที่เน้นบริหารแบบครอบครัว หรือไม่ก็ได้รับมรดกที่ดินของ
ครอบครัวจึงทำให้มีต้นทุนแข่งขันได้

"เขาใหญ่ที่ดินและธุรกิจเปลี่ยนมือกันมาก แต่จะหนาแน่นช่วงไฮซีซัน คือฤดูหนาว (พ.ย.-ก.พ.) ประมาณ 3-4 เดือน เท่ากับ
ว่า ภายใน 1 ปีต้องบริหารนำรายได้จาก 3-4 เดือนมาอุ้มรายได้ทั้งปี ทำให้ผู้ที่เข้ามาใหม่ต้องบริหารงานในเชิงธุรกิจมากขึ้น
ลงทุน สูงขึ้น"

เขายังกล่าวว่า ธุรกิจเขาใหญ่ขยายตัวจนกระทั่งปัจจุบันพร้อมทุกด้าน ตั้งแต่ ร้านอาหารมีหลากหลายแนว พลาซ่า
ชอปปิงราคาพรีเมียม เอาท์เล็ท ห้างโลตัส โฮมโปร ทั้งที่เป็นท้องถิ่นระดับอำเภอกลับมีศูนย์การค้าจำนวนมาก มาเปิด
สะท้อน ให้เห็นว่ากำลังซื้อมีสูง โดยเฉพาะในช่วงไฮท์ซีซัน โดยเฉพาะเมื่อมีคอนโดมิเนียม เกิดขึ้นก็เป็นการเพิ่มจำนวน
นักท่องเที่ยวให้เข้ามามากขึ้น

++ราคาที่ดินริม ถ.ธนะรัชต์ พุ่ง 25 เท่า

นายสมพร ทวีศรี เจ้าของร้านอาหาร "วังตะโขง" ร้านอาหาร ไก่หมุน หมูหมุน และอาหารตามสั่ง ตั้งอยู่ กม.ที่ 4 ริม
ถ.ธนะรัชต์ มองว่า ร้านอาหารริมเขาใหญ่หากเป็นคนดั้งเดิมจึงอยู่ได้ เพราะต้นทุนต่ำ ขณะเดียวกันจะต้องมี 3 ส่วนมา
ประกอบ คือ ทำเล และคุณภาพอาหาร รวมถึงบริการ

"ต้องยอมรับว่าทำเลที่ดินริม ถ.ธนะรัชต์ เป็นทำเลธุรกิจที่ดีมาก ช่วงหน้าหนาว เดือน พ.ย. ถึง ก.พ. ของทุกปีคน เยอะ
มาก ส่วนช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ คนก็เข้ามาท่องเที่ยวเต็มเกือบทุกสัปดาห์ แต่ก็มีผู้ประกอบการบางรายที่ต้นทุนสูง และอยู่
ไม่ได้ ส่วนร้านเราพออยู่ได้ เพราะ เราซื้อที่ดินมานาน ตั้งแต่ราคาไร่ละ 1 ล้านบาทจนปัจจุบันมีคนมาขอซื้อที่ 1 ไร่ในราคา
25 ล้านบาท ซึ่งมากกว่าเดิมที่ซื้อมาถึง 25 เท่า"