ซื้อประกันสุขภาพยังไง ให้ครบทั้ง"คุ้มค่า" และ"คุ้มครอง"

5 เรื่องที่ต้องถามเพื่อเตรียมตัวก่อนทำประกันสุขภาพ และเพื่อให้แน่ใจว่าประกันที่เรากำลังตัดสินใจทำนี้คุ้มครองครบถ้วนครอบคลุมทุกเงื่อนไขหรือไม่

• ก่อนตัดสินใจทำประกันสุขภาพควรถามคำถามกับบริษัทประกันในเรื่องโรคประจำตัว สามารถซื้อความคุ้มครองต่อได้ถึงอายุเท่าไหร่ ดูแบบประกันหลายๆ แบบพื่อเปรียบเทียบ ค่าเบี้ยปรับขึ้นอย่างไร และมีเงื่อนไขอะไรบ้างที่ต้องจ่ายเงินไปก่อน เพื่อเคลียร์ความเข้าใจ และทำให้ได้รับประโยชน์สูงสุดจากการทำประกัน


• ก่อนตัดสินใจทำประกันสุขภาพควรถามคำถามกับบริษัทประกันในเรื่องโรคประจำตัว สามารถซื้อความคุ้มครองต่อได้ถึงอายุเท่าไหร่ ดูแบบประกันหลายๆ แบบพื่อเปรียบเทียบ ค่าเบี้ยปรับขึ้นอย่างไร และมีเงื่อนไขอะไรบ้างที่ต้องจ่ายเงินไปก่อน เพื่อเคลียร์ความเข้าใจ และทำให้ได้รับประโยชน์สูงสุดจากการทำประกัน



โรคภัยต่างๆ ในปัจจุบันยังไม่ลดน้อยลง นอกจากโควิด-19 ที่ยังไม่หายไปแล้ว ยังมีโรคฝีดาษลิงที่เริ่มระบาดในหลายประเทศ ทำให้หลายคนเริ่มมองหาความคุ้มครองสุขภาพที่ครอบคลุมมากยิ่งขึ้น แต่ก่อนตัดสินใจทำประกันสุขภาพสักฉบับ เราควรถามคำถามสำคัญเพื่อเคลียร์ความเข้าใจ และทำให้การทำประกันสุขภาพครั้งนี้ได้ประโยชน์และตอบโจทย์ความต้องการมากที่สุด มีคำถามอะไรบ้างที่ต้องถาม และเรื่องอะไรที่ควรรู้ก่อนตัดสินใจ หาคำตอบได้ในบทความนี้



5 เรื่องที่ต้องถามก่อนทำประกันสุขภาพ

ก่อนทำประกันสุขภาพมี 5 เรื่องที่เราต้องถามเพื่อเคลียร์ความเข้าใจ ดังนี้


1. มีโรคประจำตัว บริษัทจะรับประกันไหม

สาเหตุที่ต้องถามเรื่องนี้เพราะหากมีโรคเกิดขึ้นแล้ว บริษัทประกันจะพิจารณาว่าโรคที่เกิดขึ้นนั้นจะรับประกันหรือไม่ หากรับ จะรับแบบปกติ รับประกันแบบยกเว้นโรค หรือรับแบบเพิ่มเบี้ย ซึ่งขึ้นอยู่กับผลการพิจารณารับประกันและความรุนแรงของโรค ยกตัวอย่าง

- รับแบบปกติ เช่น โรคภูมิแพ้ พาหะธาลัสซีเมีย

- รับประกันแบบยกเว้นโรค เช่น โรคไขมันเกาะตับ โรคไทรอยด์

- รับแบบเพิ่มเบี้ย เช่น โรคความดันโลหิตสูง โรคหอบหืด

- ไม่รับประกัน เช่น โรคหัวใจ โรคมะเร็ง

ดังนั้น จึงควรดูผลการพิจารณารับประกันที่จะเกิดขึ้นว่าตัวเรารับได้ไหม หากรับประกันแบบยกเว้นโรค หรือรับแบบเพิ่มเบี้ย ต้องจ่ายเบี้ยเพิ่มอีกเท่าไหร่ รวมถึงเปรียบเทียบผลการพิจารณารับประกันกับบริษัทประกันอื่นๆ ประกอบการตัดสินใจด้วย


2. ถ้าอยากได้ความคุ้มครองนานที่สุด จะซื้อได้ถึงอายุเท่าไหร่

เมื่อคิดจะทำประกันสุขภาพ หลายคนคงอยากได้ความคุ้มครองยาวๆ ไปจนถึงวันที่แก่ตัวลง แต่สิ่งที่ควรทำความเข้าใจก่อนคือ อายุรับประกัน กับ ระยะเวลาเอาประกัน ซึ่งสองคำนี้ความหมายต่างกัน โดยอายุรับประกัน หมายถึง คนที่จะทำประกันฉบับนี้ได้ต้องมีอายุตั้งแต่เท่าไหร่ถึงเท่าไหร่ เช่น อายุ 11-80 ปี ส่วนระยะเวลาเอาประกัน หมายถึง ให้ความคุ้มครองจนถึงอายุเท่าไหร่ เช่น คุ้มครองถึงอายุ 99 ปี ซึ่งสองคำนี้จะช่วยตอบคำถามได้ว่า ประกันสุขภาพที่กำลังเลือกอยู่นั้นจะสามารถซื้อต่อได้จนถึงอายุเท่าไหร่


ประกันสุขภาพบางแบบให้ความคุ้มครองเท่ากับอายุรับประกันของประกันสุขภาพนั้น เช่น รับประกันถึงอายุ 70 ปี ก็ให้ความคุ้มครองถึงอายุ 70 ปีเท่านั้น แต่บางแบบสามารถต่ออายุความคุ้มครองออกไปได้อีกจนถึงอายุที่กำหนดไว้ เช่น รับประกันถึงอายุ 80 ปี แต่สามารถต่ออายุความคุ้มครองไปได้ถึงอายุ 99 ปีเลย ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขการต่ออายุรับประกันของบริษัทประกันด้วย จึงความสอบถามให้เข้าใจเพื่อให้ได้ความคุ้มครองยาวๆ ตามที่ต้องการ


3. ขอดูประกันสุขภาพหลายๆ แบบ เพื่อเปรียบเทียบความคุ้มครองและงบประมาณ

ก่อนทำประกันสุขภาพ หลายคนก็อยากรู้ว่ามีประกันสุขภาพแบบไหนให้เลือกบ้าง จึงอยากให้บริษัทประกันเสนอแบบประกันสุขภาพหลายๆ แบบ และอธิบายความแตกต่างของแต่ละแบบประกันให้เข้าใจ ทั้งความคุ้มครอง เงื่อนไข และค่าเบี้ย เนื่องจากแต่ละแบบจะไม่เหมือนกัน เพื่อเปรียบเทียบความคุ้มครองและงบประมาณที่มี ซึ่งในส่วนของค่าเบี้ยประกันสุขภาพรายปีก็มีให้เลือกตั้งแต่หลักพันไปจนถึงหลักแสน ขึ้นอยู่กับแบบประกัน รวมถึงเพศ อายุ และอาชีพของผู้ทำประกัน จึงควรเลือกให้เหมาะกับความต้องการ ทั้งวงเงินความคุ้มครอง ค่าห้อง ค่ารักษา และความสามารถในการจ่ายเบี้ยของแต่ละคน


ทางเลือกของประกันสุขภาพสำหรับคนที่มีงบแตกต่างกัน ขอยกตัวอย่างค่าเบี้ยรายปี สำหรับเพศชาย อายุ 30 ปี ดังนี้

• สัญญาเพิ่มเติมการประกันภัยสุขภาพแบบ อีลิท เฮลท์ พลัส แผน 20 ล้าน คุ้มครองเฉพาะประเทศไทย ค่าเบี้ยประมาณ 26,500 บาท*

• ประกันชีวิตและสุขภาพ Delight Health แผน Max กรณีคุ้มครองตั้งแต่บาทแรก ค่าเบี้ยประมาณ 17,300 บาท กรณีคุ้มครองส่วนเกินจาก 30,000 บาทแรก ค่าเบี้ยประมาณ 10,600 บาท**

• ประกันสุขภาพ Health Protection แผน 1 ค่าเบี้ยประมาณ 4,100 บาท


4. เบี้ยประกันสุขภาพไม่ได้จ่ายเท่าเดิมไปตลอด ต้องดูว่ามีการปรับขึ้นอย่างไร

ปกติค่าเบี้ยประกันสุขภาพจะมีการปรับขึ้น 2 แบบด้วยกันคือ ปรับเพิ่มขึ้นทุกปี กับปรับเพิ่มขึ้นทุกๆ 5 ปีตามช่วงอายุที่เพิ่มขึ้น ดังนั้น ก่อนตัดสินใจจึงควรขอตารางค่าเบี้ยทั้งหมดมาดู เพื่อประเมินว่าเราสามารถจ่ายเบี้ยที่จะเกิดในอนาคตไหวหรือไม่ และนำไปเปรียบเทียบกับแบบประกันอื่นเพื่อตัดสินใจ จะได้วางแผนเตรียมเงินไว้รองรับค่าเบี้ยที่จะเพิ่มสูงขึ้นในอนาคต


ตัวอย่างตารางค่าเบี้ยประกันสำหรับประกันชีวิตและสุขภาพ Delight Health


อายุ
(ปี)
เบี้ยประกันภัยรายเดือน
เบี้ยประกันภัยรายปี
Plus1
Plus2
Max
Plus1
Plus2
Max
ชาย
หญิง
ชาย
หญิง
ชาย
หญิง
ชาย
หญิง
ชาย
หญิง
ชาย
หญิง
11
212
207
793
884
1,530
1,645
2,351
2,325
8,811
9,842
17,003
18,301
21
325
324
864
945
1,480
1,576
3,625
3,621
9,620
10,520
16,465
17,535
25
330
329
869
950
1,485
1,581
3,655
3,681
9,650
10,580
16,495
17,595
30
360
365
957
1,060
1,557
1,708
3,992
4,048
10,619
11,762
17,288
18,967
35
415
427
1,017
1,109
1,755
1,860
4,594
4,730
11,282
12,306
19,482
20,652
40
474
488
1,139
1,232
1,934
2,050
5,260
5,418
12,647
13,691
21,480
22,770
45
518
534
1,251
1,388
2,292
2,459
5,776
5,950
13,915
15,435
25,480
27,343
50
614
632
1,387
1,594
2,510
2,689
6,818
7,025
15,410
17,709
27,89029,878
55
956
976
1,845
1,980
3,152
3,391
10,615
10,844
20,495
22,001
35,023
37,687
60
2,003
2,037
2,987
3,122
4,422
4,655
22,284
22,608
33,216
34,662
49,160
51,700
65
2,911
2,959
4,104
4,393
6,187
6,489
32,366
32,873
45,624
45,799
68,771
72,095
70
4,284
4,362
5,680
5,942
8,530
8,949
47,610
48,460
63,118
66,007
94,789
99,420
75
6,429
6,559
8,014
8,301
11,555
12,124
71,456
72,873
89,063
92,223
128,413
134,700
80
7,700
7,843
9,570
10,146
14,576
15,150
85,55487,145
105,621
106,331
161,950
168,342

ที่มา: https://www.kasikornbank.com/th/personal/Insure/life/Pages/delighthealth.aspx



5. มีเงื่อนไขอะไรบ้างที่เราจำเป็นต้องจ่ายเงินไปก่อนเมื่อเข้ารับการรักษา

เมื่อเจ็บป่วยขึ้นมา ปกติแล้วการเข้ารักษาตัวเป็นผู้ป่วยใน หากเข้ารักษาในโรงพยาบาลคู่สัญญาจะไม่ต้องจ่ายเงินไปก่อน แต่มีบางกรณี เช่น กรณีผู้ป่วยนอก อย่างค่ากายภาพบำบัด หรือกรณีเข้ารักษาแบบฉุกเฉิน อย่างค่าบริการช่วยเหลือฉุกเฉินทางการแพทย์ อาจต้องจ่ายเองไปก่อน แล้วค่อยนำใบเสร็จรับเงินไปเบิกกับบริษัทประกัน จึงควรสอบถามให้มั่นใจ และวางแผนรับมือกับค่าใช้จ่ายส่วนนี้ไว้



เรื่องที่ต้องรู้ก่อนทำประกันสุขภาพ

นอกจากเรื่องที่ต้องถามให้เคลียร์แล้ว ก่อนทำประกันสุขภาพมีเรื่องที่ต้องรู้ ดังนี้


1. ทำประกันสุขภาพแล้วยังไม่ได้รับความคุ้มครองทันที ต้องรออย่างน้อย 30 วัน

เพราะมีระยะเวลารอคอยซึ่งเป็นระยะเวลาที่ไม่คุ้มครอง โดยโรคทั่วไปต้องรอ 30 วัน ส่วนโรคพิเศษ เช่น เนื้องอก ถุงน้ำ หรือมะเร็งทุกชนิด อาจต้องรอถึง 120 วัน จึงควรทำประกันสุขภาพไว้ตั้งแต่เนิ่นๆ เพราะไม่มีใครรู้ล่วงหน้าว่าเราจะป่วยเมื่อไหร่


2. ถ้าอยากได้ความคุ้มครองค่ารักษาพยาบาลไปยาวๆ ต้องเลือกแบบประกันชีวิตยาวๆ ด้วย

ปกติประกันสุขภาพจะให้ความคุ้มครองยาวขึ้นอยู่กับแบบประกัน แต่หากเป็นสัญญาเพิ่มเติมประกันสุขภาพที่ต้องซื้อคู่กับประกันชีวิตหลัก นอกจากจะดูระยะเวลาคุ้มครองของแบบประกันนั้นๆ แล้ว ความคุ้มครองจะต้องไม่เกินระยะเวลาเอาประกันของประกันชีวิตหลักด้วย เพราะเมื่อประกันชีวิตหลักครบสัญญา สัญญาเพิ่มเติมประกันสุขภาพก็จะสิ้นสุดลง จึงควรทำประกันสุขภาพคู่กับกับประกันชีวิตหลักที่มีความคุ้มครองยาว อย่างประกันตลอดชีพ


ก่อนตัดสินใจทำประกันสุขภาพ นอกจากการค้นหาข้อมูลแบบประกันสุขภาพด้วยตัวเองแล้ว การสอบถามข้อมูลจากตัวแทนหรือนายหน้าประกันในเรื่องที่สงสัยหรือยังไม่เข้าใจเป็นสิ่งที่ควรทำ เพื่อความเข้าใจที่ถูกต้อง ครบถ้วน และเป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจเลือกแบบประกันสุขภาพที่ตอบโจทย์ความต้องการ คุ้มค่ากับค่าเบี้ยประกันที่จ่ายเพื่อให้ได้รับความคุ้มครอง


*เป็นเบี้ยประกันเฉพาะสัญญาเพิ่มเติมการประกันภัยสุขภาพ แบบ อีลิท เฮลท์ พลัส ไม่รวมกรมธรรม์หลัก

**เป็นเบี้ยประกันรวมทั้งโครงการ (ประกันชีวิตเพื่อคุ้มครองตลอดชีพ 99/99 + สัญญาเพิ่มเติมการประกันภัยสุขภาพ แบบ ดี เฮลท์)


คำเตือน : โปรดศึกษารายละเอียดความคุ้มครอง เงื่อนไข และข้อยกเว้นก่อนตัดสินใจทำประกันภัยทุกครั้ง


ขอขอบคุณข้อมูลจาก :

• เมืองไทยประกันชีวิต และเมืองไทยประกันภัย