K WEALTH / บทความ / Market Update / เช็กมาตรการออกใหม่จากรัฐบาลเพื่อกระตุ้นใช้จ่ายรับปีใหม่
27 ธันวาคม 2564
3 นาที

เช็กมาตรการออกใหม่จากรัฐบาลเพื่อกระตุ้นใช้จ่ายรับปีใหม่


          

​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​“ ​

• 4 มาตรการรัฐ (โครงการ “เราเที่ยวด้วยกัน” โครงการ “ทัวร์เที่ยวไทย” มาตรการ “ช้อปดีมีคืน ปี 2565” โครงการ “คนละครึ่ง เฟส 4”) ได้รับความเห็นชอบจากรัฐบาลเพื่อมอบของขวัญปีใหม่ 2565 ให้กับประชาชน และเพื่อเป็นการกระตุ้นและฟื้นฟูเศรษฐกิจในปี 2565

• บล.กสิกรไทย มองว่า ธุรกิจค้าปลีกจะได้รับประโยชน์ในระดับปานกลางจากมาตรการ “ช้อปดีมีคืน ปี 2565” และคาดว่า ธุรกิจกลุ่มโรงแรมในประเทศจะได้ประโยชน์ระยะสั้นและทำให้มีผลต่ออัตราการเข้าพัก (Occupancy Rate) ในไตรมาส 1/2565 จากโครงการ “เราเที่ยวด้วยกัน เฟส 4” 

• นักลงทุนสามารถเข้าลงทุนในหุ้นกลุ่มธุรกิจค้าปลีกและโรงแรม โดยติดตามความคืบหน้าและผลลัพธ์ของแต่ละมาตรการ รวมถึงติดตามสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิดสายพันธุ์โอมิครอนที่อาจส่งผลกระทบต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ การท่องเที่ยว และการบริโภคภายในประเทศ

​“


มาตรการของขวัญปีใหม่ 2565 ชุดใหญ่จากรัฐบาล​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​
          
          การประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 21 ธ.ค. 64 มีมติเห็นชอบมอบของขวัญปีใหม่ 2565 ให้กับประชาชน ซึ่งขอรวบรวมมาตรการและโครงการต่างๆ ที่เกี่ยวกับการท่องเที่ยว และการชอปปิงมาฝากกัน ได้แก่​​​​​

โครงการ “เราเที่ยวด้วยกัน”​​​​

         เพิ่มจำนวนห้องพักโครงการ “เราเที่ยวด้วยกัน” จำนวน 2 ล้านห้อง ซึ่งจะสิ้นสุดโครงการวันที่ 30 เม.ย. 65 โดยรัฐบาลสนับสนุนส่วนลดค่าโรงแรมที่พัก 40% ของราคาที่พักต่อห้องต่อคืน ไม่เกิน 3,000 บาท ต่อห้องต่อคืน และจำกัดสิทธิคนละไม่เกิน 15 ห้อง หรือ 15 คืน สนันสนุนส่วนลดค่าอาหารและค่าเข้าสถานที่ท่องเที่ยวมูลค่า 600 บาทต่อห้องต่อคืน รวมถึงสนับสนุนค่าเดินทางโดยเครื่องบิน เพื่อกระตุ้นการใช้จ่ายภาคประชาชนผ่านการท่องเที่ยวภายในประเทศ ช่วยเพิ่มสภาพคล่องให้ผู้ประกอบการธุรกิจโรงแรมและธุรกิจที่เกี่ยวเนื่อง สนับสนุนการสร้างงานและฟื้นฟูเศรษฐกิจของประเทศในองค์รวม ​​​​​​

โครงการ “ทัวร์เที่ยวไทย” ​​​​

          ขยายเวลาการใช้สิทธิ์โครงการทัวร์เที่ยวไทยจากเดิมสิ้นสุดวันที่ 31 ม.ค. 65 เป็นวันที่ 30 เม.ย. 65 โดยรัฐบาลจะสนับสนุนเงินค่าเดินทางตามรายการนำเที่ยวที่เดินทางจริงจำนวน 40% ของราคารายการนำเที่ยว ไม่เกิน 5,000 บาทต่อคน (1 คนต่อ 1 สิทธิ์) และประชาชนจ่าย 60% เมื่อใช้บริการผ่านผู้ประกอบธุรกิจนำเที่ยวที่มีการจดทะเบียนถูกต้องตามกฎหมาย เพื่อเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวในประเทศ เพิ่มประสบการณ์ของนักท่องเที่ยว ตลอดจนเพิ่มช่องทางการเข้าถึงผู้ประกอบการท่องเที่ยวได้มากขึ้น ​​​​​​

มาตรการ “ช้อปดีมีคืน ปี 2565”

          ผู้มีเงินได้สามารถหักลดหย่อนค่าซื้อสินค้าหรือค่าบริการเท่าที่ได้จ่ายเป็นค่าซื้อสินค้าหรือค่าบริการสำหรับการซื้อสินค้าหรือการรับบริการในราชอาณาจักร ตามจำนวนที่จ่ายจริงแต่ไม่เกิน 30,000 บาท ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. 65 ถึงวันที่ 15 ก.พ. 65 ทั้งการซื้อสินค้า บริการ และสินค้า OTOP แต่ไม่รวมถึง 

          - ค่าสุรา เบียร์ ไวน์ ค่ายาสูบ ค่าน้ำมันและก๊าซสำหรับเติมยานพาหนะ ค่ารถยนต์ รถจักรยานยนต์ และเรือ 
          - ค่าหนังสือพิมพ์และนิตยสาร และค่าบริการหนังสือพิมพ์และนิตยสารที่อยู่ในรูปของข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ผ่านระบบอินเทอร์เน็ต 
          - ค่าบริการจัดนำเที่ยวที่จ่ายให้แก่ผู้ประกอบธุรกิจนำเที่ยว และมัคคุเทศก์ ค่าที่พักในโรงแรมที่จ่ายให้แก่ผู้ประกอบธุรกิจโรงแรม 
          - ค่าสาธารณูปโภค ค่าน้ำประปา ค่าไฟฟ้า ค่าบริการสัญญาณโทรศัพท์ ค่าบริการสัญญาณอินเทอร์เน็ต และค่าบริการสำหรับบริการที่มีข้อตกลง การให้บริการระยะยาวซึ่งเริ่มต้นก่อนวันที่ 1 ม.ค. 65 หรือสิ้นสุดหลังวันที่ 15 ก.พ. 65 แม้ว่าจะจ่ายค่าบริการระหว่างวันที่ 1 ม.ค. 65 ถึงวันที่ 15 ก.พ. 65 
          - ค่าเบี้ยประกันวินาศภัย ทั้งนี้ เพื่อกระตุ้นการบริโภคภายในประเทศ และสนับสนุนผู้ประกอบการที่อยู่ในระบบภาษี และผู้ประกอบกิจการการผลิตสินค้าท้องถิ่น (OTOP)
​​​​​

โครงการ “คนละครึ่ง เฟส 4”

           คาดว่าจะเริ่มดำเนินการได้ในช่วงเดือน มี.ค. - เม.ย. 65 โดยจะใช้วงเงินคงเหลือจากโครงการ “คนละครึ่ง เฟส 3” ประมาณ 1 หมื่นล้านบาทไปใช้ดำเนินการในโครงการ “คนละครึ่ง เฟส 4” ซึ่งรัฐช่วยจ่าย 50% ผู้ได้รับสิทธิจ่ายเอง 50% โดยใช้สิทธิผ่านแอปฯ เป๋าตัง และจำกัดสิทธิไม่เกิน 150 บาทต่อวัน เพื่อกระตุ้นการจับจ่ายใช้สอยภายในประเทศ บรรเทาภาระค่าใช้จ่ายให้ประชาชน และช่วยเพิ่มสภาพคล่องให้ร้านค้ารายย่อย เป็นการสนับสนุนเศรษฐกิจฐานรากและฟื้นฟูเศรษฐกิจของประเทศในองค์รวม​​​​


ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับ ​​​

         มาตรการของขวัญปีใหม่ 2565 จะเป็นการกระตุ้นและฟื้นฟูเศรษฐกิจในปี 2565 โดยมาตรการ “ช้อปดีมีคืน ปี 2565” จะทำให้เกิดเม็ดเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจเพิ่มขึ้นมูลค่าประมาณ 42,000 ล้านบาท และผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (Gross Domestic Product: GDP) เพิ่มขึ้นประมาณ 0.12% ด้านบล.กสิกรไทย มองว่า ธุรกิจค้าปลีกจะได้รับประโยชน์ในระดับปานกลาง โดยการฟื้นตัวของกลุ่มธุรกิจค้าปลีกจะเป็นแบบค่อยเป็นค่อยไป

          สำหรับโครงการ “เราเที่ยวด้วยกัน เฟส 4” ทางบล.กสิกรไทย คาดว่า จะเป็นปัจจัยหนุนในระยะสั้นให้กับกลุ่มโรงแรมในประเทศ และเป็นตัวขับเคลื่อนหลักต่ออัตราการเข้าพัก (Occupancy Rate) ในประเทศในไตรมาส 1/2565 ซึ่งจะทำให้โรงแรมในประเทศสามารถรักษาโมเมนตัมที่แข็งแกร่งจากไตรมาส 4/2564 ไว้ได้ 


นักลงทุนควรทำอย่างไร ​​​​​​​​​​​​​​​​​

          หากมาตรการได้รับผลตอบรับดี มีระยะเวลามาตรการนาน สามารถลดค่าใช้จ่ายและภาษีได้มาก ราคาหุ้นมักจะตอบรับในเชิงบวกก่อนที่มาตรการจะเริ่มประมาณ 1 เดือน 

           นักลงทุนสามารถเข้าลงทุนในหุ้นกลุ่มธุรกิจค้าปลีกและโรงแรม โดยดูรายชื่อบริษัทที่จะได้รับประโยชน์ได้ที่

            นอกจากนี้ แนะนำให้นักลงทุนติดตามความคืบหน้าและผลลัพธ์ของแต่ละมาตรการที่ออกมา รวมถึงติดตามสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิดสายพันธุ์โอมิครอนที่อาจส่งผลกระทบต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ การท่องเที่ยว และการบริโภคภายในประเทศ ทั้งนี้ สามารถดูรายละเอียดข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ : 
            KS PODCAST EP.543 : รัฐเคาะมาตรการของขวัญปีใหม่หุ้นไหนยิ้ม..มองค้าปลีกได้ประโยชน์ระดับกลาง..ยอดจอง PO หุ้น MAKRO ต่ำเป้าอาจเป็น Sentiment ลบ 

           บทวิเคราะห์ Sector: เตรียมขยายโครงการ “เราเที่ยวด้วยกัน เฟส 4”

           บทวิเคราะห์ Commerce Sector : มุมมองเชิงบวกมากขึ้นจากการฟื้นตัวอย่างช้าๆ

ขอขอบคุณข้อมูลจาก : KSecurities, รัฐบาลไทย, ประชาชาติธุรกิจ ​​

บทความโดย K WEALTH TRAINER สุวิมล ยิ่งเจริญรุ่งโรจน์ CFP®
KBank LIVE
 

ติดตามข่าวสารการเงินจาก
K WEALTH ฟรี!

ผลิตภัณฑ์ที่แนะนำ

​เปิดบัญชีลงทุนกับ K PLUS​

ดูเพิ่มเติม