เจาะลึกการลงทุนหุ้นไต้หวัน โอกาสทำกำไรในมหาอำนาจแห่งเซมิคอนดักเตอร์

ภาพรวมของตลาดหุ้นไต้หวัน มีโอกาสและความเสี่ยงอะไรที่น่าจับตามอง ลงผ่านผลิตภัณฑ์ทางการเงินใดได้บ้าง และกลยุทธ์การลงทุนที่เหมาะสมเป็นอย่างไร

• ตลาดหุ้นไต้หวัน มีผลตอบแทน 10 ปีย้อนหลังเติบโตโดดเด่น เป็นประเทศผู้ผลิตเซมิคอนดักเตอร์ระดับโลก เป็นโอกาสลงทุนในกระแสการเติบโตของ artificial intelligence (AI)


• สามารถลงทุนหุ้นไต้หวันได้ผ่านกองทุนรวมหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีเอเชียอย่าง K-ATECH หรือลงทุนโดยตรงผ่าน iShares MSCI Taiwan ETF ผ่านบัญชีซื้อขายหลักทรัพย์ต่างประเทศของ KSecurities


• แนะนำลงทุนในสัดส่วนที่เป็น satellite portfolio เพื่อหาโอกาสในการทำกำไรเพิ่มเติม และไม่กระจุกตัวในประเทศใดประเทศหนึ่งมากเกินไป





ภาพรวมของตลาดหลักทรัพย์ไต้หวัน

ตลาดหลักทรัพย์ไต้หวัน (Taiwan Stock Exchange - TWSE) ก่อตั้งขึ้นในปี 1961 มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 10 ของโลก โดย มีมูลค่ากว่า 1.85 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ


ดัชนีสำคัญในตลาดหลักทรัพย์ไต้หวัน


1. TAIEX (Taiwan Capitalization Weighted Stock Index)

ดัชนี TAIEX เป็นดัชนีที่ครอบคลุมหุ้นจำนวนมากที่สุดในตลาดหลักทรัพย์ไต้หวันจำนวนกว่า 900 บริษัท คำนวณตามการถ่วงน้ำหนักตามมูลค่าตลาด (Market Capitalization) ทำให้เป็นดัชนีชี้วัดในการติดตามผลการดำเนินงานของตลาดหุ้นไต้หวันโดยรวม


2. Taiwan 50

ดัชนี Taiwan 50 เป็นดัชนีที่คำนวณตามการถ่วงน้ำหนักตามมูลค่าตลาด สูงสุด 50 บริษัทแรกในไต้หวัน เป็นดัชนีที่นิยมสำหรับนักลงทุนที่ต้องการลงทุนในบริษัทขนาดใหญ่ มีความมั่นคง ลักษณะคล้ายกับดัชนี SET 50


3. MSCI Taiwan Index

เป็นดัชนีที่จัดทำโดยบริษัท MSCI ที่คำนวณตามการถ่วงน้ำหนักตามมูลค่าตลาด ประกอบด้วยหุ้นของบริษัทในไต้หวันที่มีมูลค่าตลาดสูงและมีสภาพคล่องดี โดยมีบริษัทอยู่จำนวน 89 บริษัท เป็นดัชนียอดนิยมในการลงทุนในตลาดหุ้นไต้หวันทั้งนักลงทุนสถาบันและนักลงทุนรายย่อย เนื่องจากเข้าถึงได้ง่าย แล้วยังเป็นดัชนีชี้วัด (Benchmark) ในการประเมินผลการดำเนินงานของกองทุนและ ETF ที่ลงทุนในหุ้นไต้หวัน


ภาพรวมอุตสาหกรรมของตลาดหุ้นไต้หวัน จากดัชนี MSCI Taiwan Index

สัดส่วนอุตสาหกรรมหลักของไต้หวันอยู่ในกลุ่มเทคโนโลยีสารสนเทศ (Information Technology) กว่า 77% เนื่องจากไต้หวันเป็นศูนย์กลางของการผลิตชิปและเซมิคอนดักเตอร์ของโลก ลำดับต่อมาเป็นกลุ่มสถาบันการเงิน (Financials) ที่มีสัดส่วนอยู่ที่ 12% ที่เป็นพื้นฐานสำคัญในการพัฒนาเศรษฐกิจและตลาดทุนของไต้หวัน ซึ่งเพียงแค่ 2 อุตสาหกรรมก็มีสัดส่วนไปแล้วถึง 89% ของดัชนี



ที่มา MSCI (ข้อมูล ณ 31 พ.ค. 67)



ผลการดำเนินงานของตลาดหุ้นไต้หวัน

ตลาดหุ้นไต้หวันมีผลตอบแทนเฉลี่ยต่อปี (Annualized Return) ทั้งระยะสั้น กลาง ยาว ที่โดดเด่นเมื่อเทียบกับหุ้นสหรัฐฯ หุ้นโลกและหุ้นตลาดเกิดใหม่ เนื่องมาจากกระแสการเติบโตของหุ้นเทคโนโลยีและ AI หนุนตลาดหุ้นไต้หวันให้เติบโตต่อเนื่องในช่วง 10 ปี ที่ผ่านมา


ดัชนี / Index

ประเทศ/ภูมิภาค
ผลการดำเนินงานย้อนหลังเฉลี่ยต่อปี (สกุลเงินต่างประเทศ)
YTD
1-yr
3-yr
5-yr
10-yr
MSCI Taiwan Index
หุ้นไต้หวัน
15.77%
28.82%
4.99%
20.66%
13.27%
S&P 500
หุ้นสหรัฐฯ
11.30%
28.19%
9.57%
15.80%
12.69%
MSCI All Country
World Equity
หุ้นโลก
9.11%
24.13%
5.62%
12.21%
8.95%
MSCI Emerging Market
หุ้นตลาดเกิดใหม่
3.53%
12.85%
-5.85%
3.94%
3.05%

ที่มา investing (ข้อมูล ณ 21 มิ.ย. 67)


รู้จักหุ้นขนาดใหญ่ของตลาดหุ้นไต้หวัน

TSMC

Taiwan Semiconductor หรือ TSMC ก่อตั้งในปี 1987 และในปี 1997 ได้จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์ก (New York Stock Exchange) เป็นบริษัทไต้หวันบริษัทแรกในตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์ก ในปัจจุบันเป็นหนึ่งในบริษัทที่นักลงทุนทั่วโลกให้ความสนใจมากที่สุดในตลาดหุ้นไต้หวัน มีบทบาทสำคัญในอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ระดับโลก โดยผลิตชิปให้กับบริษัทยักษ์ใหญ่หลายแห่ง เช่น AMD, Apple, Broadcom และ Sony ด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัย


Hon Hai Precision Industry (Foxconn)

Foxconn ก่อตั้งในปี 1974 เป็นผู้ผลิตและประกอบอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่ใหญ่ที่สุดหนึ่งในโลก เป็นบริษัทมีชื่อเสียงในด้านการผลิตและประกอบอุปกรณ์เทคโนโลยีขั้นสูงอย่าง iPhone, iPad, PlayStation และ Xbox มีฐานการผลิตอยู่ทั่วโลก ทำให้บริษัทสามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าทั่วโลกได้อย่างรวดเร็ว มีจุดเด่นในด้านกระบวนการผลิตที่มีประสิทธิภาพและคุณภาพที่ดี


MediaTek

MediaTek ก่อตั้งในปี 1997 เป็นหนึ่งในผู้ผลิตเซมิคอนดักเตอร์รายใหญ่ และเป็นผู้นำในด้านการออกแบบชิปสำหรับสมาร์ทโฟนและอุปกรณ์เคลื่อนที่ มีความโดดเด่นในด้านการผลิต chip ในราคาประหยัด ในกลุ่มสมาร์ทโฟนระดับกลางและล่าง อีกทั้งยังมีผลิตภัณฑ์ที่หลากหลาย ทั้งเทคโนโลยีการเชื่อมต่อไร้สาย (Wi-Fi, 5G) และ อุปกรณ์ IOT (Internet of things)



ทำไมต้องลงทุนในตลาดหุ้นไต้หวัน

จุดแข็งของเศรษฐกิจไต้หวัน

ภาพรวมตัวเลขเศรษฐกิจในปี 2024 โดยรวมยังคงเติบโตได้ดี มีการปรับเพิ่มกระประมาณการการเติบโต GDP ของปี 2024 จาก 3.35% เป็น 3.43% และตัวเลขการส่งออก ปี 2024 กลับมาเป็นบวก +6.14% เทียบกับปีก่อนหน้าที่ -9.8% ส่วนตัวเลขเงินเฟ้อก็เริ่มกลับเข้าสู่เป้าหมายที่ 2% ทำให้อัตราดอกเบี้ยนโยบายของไต้หวันยังมีโอกาสจะคงอยู่ที่ระดับ 2% ต่อไป


ในส่วนของเสถียรภาพทางการเมืองและเศรษฐกิจ ไต้หวันมีระบบการเมืองที่มั่นคง ทำให้มีเสถียรภาพในการบริหารจัดการเศรษฐกิจ นโยบายการส่งเสริมการลงทุนจากต่างประเทศและการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานช่วยเสริมสร้างความมั่นใจให้นักลงทุน


รวมถึงเกาะไต้หวันตั้งอยู่ในภูมิภาคเอเชียตะวันออก ซึ่งเป็นตำแหน่งที่มีความสำคัญในทางภูมิรัฐศาสตร์ โดยอยู่ใกล้กับประเทศญี่ปุ่นและประเทศจีน สองมหาอำนาจในทวีปเอเชีย ทำให้ไต้หวันมีข้อได้เปรียบในการค้าระหว่างประเทศ เช่น การนำเข้าและส่งออก การเข้าถึงแหล่งวัตถุดิบสำคัญและการเชื่อมโยงกับตลาดโลกได้ง่าย


ศักยภาพการเติบโต

ไต้หวันเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ โดยเป็นฐานการผลิตเซมิคอนดักเตอร์ที่ใหญ่ที่สุดของโลก คิดเป็นสัดส่วนกว่า 50% ของการผลิตชิปทั่วโลก โดยมีบริษัท Taiwan Semiconductor Manufacturing Company (TSMC) เป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีในการผลิตที่ล้ำสมัย เช่น การผลิตชิปขนาด 3 นาโนเมตร เป็นรายแรกของโลก ในปัจุบันมีการลงทุนใน R&D อย่างต่อเนื่อง ช่วยเสริมสร้างความแข็งแกร่งและการเติบโตของอุตสาหกรรม


รวมถึงไต้หวันมีห่วงโซ่อุปทานที่ครบวงจรสำหรับอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ ที่ครอบคลุมตั้งแต่ต้นน้ำไปยังปลายน้ำ รวมถึงไต้หวันยังเป็นผู้เล่นหลักในอุตสาหกรรมเทคโนโลยีและ AI ไต้หวันเป็นศูนย์กลางของการพัฒนาและผลิตอุปกรณ์เทคโนโลยีหลายประเภท เช่น สมาร์ทโฟน คอมพิวเตอร์ การ์ดจอและอุปกรณ์ประมวลผล AI บริษัทเทคโนโลยีชั้นนำอย่าง Foxconn Gigabyte Acer และ ASUS ก็มีฐานการผลิตและการพัฒนาในไต้หวันเช่นเดียวกัน


ความเสี่ยงและข้อควรพิจารณา

ความเสี่ยงหลักของไต้หวัน น่าจะมาจากประเด็นความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ระหว่างไต้หวันและจีน ที่มีความตึงเครียดมาอย่างยาวนาน ผ่านนโยบายจีนเดียวของจีน และทางฝั่งรัฐบาลสหรัฐฯ ยังคงย้ำว่าจะสนับสนุนสันติภาพบริเวณช่องแคบไต้หวันต่อไป ซึ่งทำให้จีนมีการปฏิบัติการซ้อมรบบริเวณใกล้เกาะไต้หวันอย่างต่อเนื่อง ถ้ามีการเกิดข้อพิพาทขึ้นจะส่งผลต่อห่วงโซ่อุปทานเซมิคอนดักเตอร์โดยตรง ซึ่งจะกระทบต่อเศรษฐกิจไต้หวันและเศรษฐกิจโลก


ส่วนอีกด้านหนึ่งที่ยังต้องพิจารณาคือ ไต้หวันเน้นพึ่งพาการส่งออกเป็นหลัก โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์เทคโนโลยีและเซมิคอนดักเตอร์ ซึ่งถ้ามีการเปลี่ยนแปลงในนโยบายการค้าของประเทศหลักๆ โดยเฉพาะ US-China Trade war รวมถึงอุตสาหกรรมเทคโนโลยีเป็นอุตสาหกรรมที่มีการแข่งขันสูงและมีการเปลี่ยนแปลงเทคโนโลยีอย่างรวดเร็ว หากบริษัทในไต้หวันไม่สามารถรักษาความสามารถในการแข่งขันได้ ก็อาจจะส่งผลกระทบไปยังตลาดหุ้นไต้หวัน



วิธีลงทุนในหุ้นไต้หวัน

ทางเลือการลงทุนที่ง่ายที่สุด และข้อจำกัดน้อยที่สุด ณ ปัจจุบันคือลงทุนในกองเทคโนโลยีเอเชียของ บลจ.ประเทศไทย เนื่องจากปัจจุบันยังไม่มีกองทุนที่ลงทุนในตลาดหุ้นไต้หวันโดยตรง ตัวอย่างเช่น K-ATECH หรือกองทุนเปิดเค เอเชีย เทคโนโลยี หุ้นทุนของ บลจ.กสิกรไทย


• ลงทุนในกองทุน JPMorgan Pacific Technology - Class C (acc) - USD (กองทุนหลัก) กองทุนหลัก (Active Fund)มุ่งหวังให้ผลประกอบการเคลื่อนไหวสูงกว่าดัชนี MSCI AC Asia Pacific Tech 100 Equal Weighted (Benchmark)


• นโยบายลงทุน ลงทุนในหุ้นเทคโนโลยี คุณภาพดี เติบโตสูงในภูมิภาคเอเชียครอบคลุมทั้ง จีน ญี่ปุ่น ไต้หวัน เกาหลีใต้ อาเซียน และอินเดีย เป็นต้น ผ่าน 3 ธีมหลักได้แก่ ผู้นำอุตสาหกรรมการผลิต การบริโภคผ่านช่องทางดิจิตอล และการเปลี่ยนแปลงภาคองค์กร




ที่มา JP Morgan Asset management (ข้อมูล ณ 31 มี.ค. 67)


• กองทุนมีระดับความเสี่ยงที่ 6 (จากสูงสุด 8 ระดับ)

• มีนโยบายป้องกันความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยนตามดุลยพินิจของผู้จัดการกองทุน

• ขายคืนได้ทุกวันทำการ โดยจะได้รับเงินค่าขายคืน 4 วันทำการถัดจากวันที่ทำรายการ (T+4) เช่น ขายคืนวันพุธ จะได้รับเงินค่าขายคืนวันอังคาร (กรณีไม่มีวันหยุดอื่น นอกจากเสาร์-อาทิตย์)


กองทุน
ผลการดำเนินงานย้อนหลังเฉลี่ยต่อปี (สกุลเงินบาท)
YTD
3-Month
1-Year
3-Year
Since Inception
กองทุน
2.30%
4.53%
9.18%
-17.06
-16.72
ดัชนีชี้วัด Benchmark*
1.81%
10.27%
-2.79
n/a
n/a


ที่มา fact sheet, Kasset (ข้อมูล ณ 30 เม.ย. 67) สามารถติดตามผลการดำเนินงานย้อนหลังของกองทุน และตัวชี้วัดกองทุน ได้จาก website ของ บลจ.กสิกรไทย https://www.kasikornasset.com/TH/mutual-fund/fund-template/Pages/K-ATECH.aspx

*ดัชนี MSCI AC Asia Pacific Tech 100 Equal Weighted ปรับด้วยต้นทุนการป้องกันความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยนเพื่อเทียบกับค่าสกุลเงินบาท


อีกทางเลือกหนึ่งคือการลงทุนผ่าน ETF ของ บลจ.ต่างประเทศ ที่มีนโยบายการลงทุนเพื่อสร้างผลตอบแทนให้ใกล้เคียงกับ MSCI Taiwan Index ซึ่งสามารถลงทุนได้บริการซื้อขายหลักทรัพย์ต่างประเทศ - หลักทรัพย์กสิกรไทย แต่ก็อาจมีประเด็นเรื่องความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยน เนื่องจากต้องซื้อในสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐฯ และเรื่องภาษีเงินได้ที่ต้องพิจารณาเพิ่มเติมด้วย ตัวอย่าง ETF ที่ลงทุนในตลาดหุ้นไต้หวันคือ iShares MSCI Taiwan ETF เป็นกองทุน ETF ที่จดทะเบียนซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ NYSE ARCA ของบริษัทจัดการลงทุน BlackRock โดยมุ่งหวังในการสร้างผลตอบแทนให้ใกล้เคียงกับดัชนี MSCI Taiwan 25/50 Index



สัดส่วนการลงทุนในพอร์ต 10 ลำดับแรก


ที่มา iShares by Blackrock (ข้อมูล ณ 17 มิ.ย. 67) สามารถติดตามผลการดำเนินงานย้อนหลังของ ETF ได้ที่ iShares MSCI Taiwan ETF | EWT


กลยุทธ์การลงทุนหุ้นไต้หวัน

ดัชนีตลาดหุ้นไต้หวันค่อนข้างกระจุกตัวอยู่ในอุตสาหกรรม Information Technology ทำให้มีความเสี่ยงในการลงทุนค่อนข้างสูง ถ้าเกิดการชะลอตัวของอุตสาหกรรมเทคโนโลยีและเซมิคอนดักเตอร์ ดังนั้นไม่ควรลงทุนในสัดส่วนที่มากเกินไป เพื่อลดความเสี่ยงจากการกระจุกตัวของประเทศใดประเทศหนึ่งในพอร์ตการลงทุน โดยแนะนำลงทุนในสัดส่วน 5 – 10% ของพอร์ตการลงทุน เหมาะที่จะเป็นหนึ่งในสัดส่วนของ satellite portfolio เพื่อเป็นการแสวงหาโอกาสในการทำกำไรเพิ่มเติม


ขอขอบคุณข้อมูลจาก: MSCI, JP Morgan Asset Management, Blackrock, Bloomberg




คำเตือน


ผู้เขียน

K WEALTH Trainer ธนธัช เอนกลาภากิจ
Back to top