รู้ไหมว่า เงินออมของคุณสามารถงอกเงยได้มากกว่านี้
หลายคนชอบลุ้นรางวัลจากสลากออมทรัพย์ ใฝ่ฝันถึงโชคก้อนโตที่จะเปลี่ยนชีวิต แต่รู้หรือไม่ว่า เงินออมของคุณมีศักยภาพที่จะเติบโตได้มากกว่านั้น! บทความนี้จะแนะนำแนวทางการจัดชุดลงทุนสำหรับนักลุ้นรางวัล ช่วยให้เงินออมของคุณทำงานหนักขึ้น
สลากออมทรัพย์: ลุ้นโชค เงินต้นไม่หาย แต่ผลตอบแทนไม่สูง
สลากออมทรัพย์เป็นผลิตภัณฑ์ที่มอบโอกาสลุ้นรางวัลใหญ่ ที่มีจุดเด่นในด้านเงินต้นครบถ้วน แต่ผลตอบแทนนั้นไม่ได้สูงมาก โดยเฉลี่ยอยู่ที่ 0.40% - 0.60% ต่อปี (เฉพาะดอกเบี้ย)
เงื่อนไขการถูกรางวัล
• กรณีต้องการถูกรางวัลเลขท้าย 3 ตัวทุกวด จะต้องฝากขั้นต่ำอย่างน้อย 1,000 หน่วยเรียงกัน เช่น หน่วยละ 100 บาท จะต้องซื้อหน่วยเรียงกันอย่างน้อย 100,000 บาท จึงจะถูกรางวัลเลขท้าย 3 ตัวทุกงวด
• กรณีต้องการถูกรางวัลเลขท้าย 4 ตัวทุกงวด จะต้องฝากขั้นต่ำอย่างน้อย 10,000 หน่วยเรียงกัน เช่น หน่วยละ 100 บาท จะต้องซื้อหน่วยเรียงกันอย่างน้อย 1,000,000 บาท จึงจะถูกรางวัลเลขท้าย 4 ตัวทุกงวด
โดยหากฝากครบจำนวนหน่วยขั้นต่ำที่ถูกรางวัลทุกงวด ผลตอบแทนโดยเฉลี่ยจะเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 0.90% - 1.25% ต่อปี (ดอกเบี้ย + รางวัลเลขท้าย)
โอกาสในการถูกรางวัลใหญ่
สำหรับโอกาสในการถูกรางวัลใหญ่ เช่น รางวัลที่ 1 หรือ รางวัลที่ 2 ของสลากออมทรัพย์ จะมีการกำหนดงวดและหมวดอักษรเข้ามาเพิ่มเติม ทำให้โอกาสในการถูกรางวัลใหญ่ค่อนข้างน้อย
วิธีคิดโอกาสในการถูกรางวัล
งวดที่
| หมวดอักษร
|
เลข 7 หลัก
|
001-038
| ก-ฮ และ A-Z
| 0000000 - 9999999
|
38 รูปแบบ
| 44 + 26 = 70 รูปแบบ
| 10 ล้านรูปแบบ
|
ตัวอย่างเช่น รางวัลที่ 1 มี 1 รางวัล ดังนั้นโอกาสในการถูกรางวัล เท่ากับ 1 ÷ (38 x 70 x 10,000,000) หรือ 1 ÷ 26,600,000,000 หรือ มีโอกาสถูกรางวัลที่ 1 เพียง 1 ใน 2หมื่น 6พัน 6ร้อยล้าน เท่านั้น ดังนั้นการลงทุนในสลากออมทรัพย์ อาจคาดหวังได้เพียงดอกเบี้ย และเงินรางวัลเลขท้าย เท่านั้น สำหรับโอกาสได้รางวัลใหญ่จำเป็นต้องพึ่งพาดวงเข้ามาด้วย
ลองเปิดใจให้กับสินทรัพย์อื่น ๆ :ที่ให้ผลตอบแทนดีกว่าสลากออมทรัพย์ ตัวอย่างเช่น
1. เงินฝากประจำ : ผลตอบแทนเฉลี่ย 0.89% - 1.87% ต่อปี (ขึ้นกับระยะเวลาในการฝาก) ความเสี่ยงต่ำ
2. กองทุน Term Fund : ผลตอบแทนเฉลี่ย 1.9% – 2.5% ต่อปี ความเสี่ยงต่ำ
3. กองทุนรวมตราสารหนี้: ผลตอบแทนเฉลี่ย 1.25 -3% ต่อปี ความเสี่ยงต่ำ
4. กองทุนรวมผสม: ผลตอบแทนเฉลี่ย 2-6% ต่อปี ความเสี่ยงปานกลาง
5. กองทุนรวมหุ้น: ผลตอบแทนเฉลี่ย 6-10% ต่อปี ความเสี่ยงสูง
จัดชุดลงทุนให้เหมาะกับเงินออมของคุณ
• หากปัจจุบันมีเงินออมน้อยกว่า 1 แสนบาท: การลงทุนในสลากออมทรัพย์ อาจทำให้โอกาสที่เงินออมจะงอกเงยค่อนข้างช้า จึงแนะนำให้ลงทุนในสินทรัพย์อื่นที่มีความมั่นคง แต่มีโอกาสได้รับผลตอบแทนที่สูงกว่า เช่น เงินฝากประจำ กองทุน Term Fund หรือ กองทุนตราสารหนี้ กรณีที่เป็นเงินเย็น อาจแบ่งเงินบางส่วนลงทุนบางส่วน ลงทุนในสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงสูงขึ้น เพื่อโอกาสให้เงินออมเติบโตได้รวดเร็วขึ้น เช่น กองทุนรวมผสม หรือ กองทุนรวมหุ้น เป็นต้น
• สำหรับผู้ที่ไม่มีข้อจำกัดด้านเงินออม: ก่อนลงทุนในสลากออมทรัพย์ ควรคำนวณผลตอบแทนเปรียบเทียบกับสินทรัพย์อื่น พิจารณาโอกาสถูกรางวัล และความเสี่ยง โดยอาจลงทุนในสลากออมทรัพย์ไม่เกิน 10,000 หน่วย หรือ 1ล้านบาท (หน่วยละ 100 บาท) และแบ่งเงินที่เหลือลงทุนในสินทรัพย์อื่น เพื่อโอกาสสร้างผลตอบแทนที่ดีกว่า
ตัวอย่างจัดชุดเงินลงทุน 5 ล้าน ให้ได้ผลตอบแทนคุ้มค่า
สินทรัพย์
|
เงินลงทุน/เบี้ยปีแรก
(บาท)
|
อัตราผลตอบแทน
(ต่อปี)
|
อัตราผลตอบแทนเฉลี่ยทั้งพอร์ต
(ต่อปี)
|
1. สลากออมทรัพย์
| 1 ล้าน
| 1.22%
|
2.20%*
|
2. Term Fund 6 เดือน
| 3 ล้าน
| 1.95%
|
3. K-WPBALANCED
| 0.5 ล้าน
| 6.03%*
|
4. ประกัน 85/5 High Return
| 0.5 ล้าน
| 1.85%
IRR เพศหญิงอายุ 40 ปีกรณีอยู่ครบอายุ
|
*ผลการดำเนินงาน ณ วันที่ 31 มีนาคม 2567
ลงทุนอย่างชาญฉลาด : กระจายความเสี่ยง เพิ่มโอกาส
แบ่งเงินลงทุนในสินทรัพย์ที่หลากหลาย เพิ่มโอกาสเงินออมของคุณเติบโต งอกเงย สู่เป้าหมายทางการเงิน จากตัวอย่างตารางจัดชุดลงทุน ผู้ลงทุนยังสามารถลงทุนสลากออมทรัพย์ตามความชื่นชอบ โดยแนะนำให้ซื้อสลากเพียงครบชุดเพื่อโอกาสถูกรางวัลเลขท้ายทุกงวด หรือไม่เกิน 10,000 หน่วย หรือ 1ล้านบาท (หน่วยละ 100 บาท) เงินลงทุนส่วนที่เหลือแนะนำกระจายการลงทุนไปยังสินทรัพย์อื่นๆ เพื่อเพิ่มผลตอบแทน จากตารางจะเห็นได้ว่า การกระจายการลงทุนในสินทรัพย์ที่อาจมีความเสี่ยงเพิ่มขึ้นเพียงเล็กน้อย ก็สามารถสร้างผลตอบแทนส่วนเพิ่มได้เกือบเท่าตัวเลยทีเดียว