อย่าลงทุน! ถ้ายังไม่รู้ 3 สิ่งนี้

อย่าลงทุน! ถ้ายังไม่รู้ 3 สิ่งนี้ (1) ทำความรู้จัก กับสิ่งที่เรียกว่าลงทุน (2) เลือกลงทุน ในทางเลือกที่ใช่ (3) จัดการเงินที่ลงทุนไป ให้งอกเงย

กดฟัง
หยุด



• เงิน 1 ล้านบาท หากเลือกลงทุนได้ถูกที่และเหมาะสม เงินสามารถเติบโตได้มากกว่าการฝากเงินหลายเท่าตัว เช่น การลงทุนกองทุนหุ้นโลกเมื่อผ่านไป 10 ปี มีโอกาสเติบโตมากกว่าการฝากเงินถึง 4.6 เท่า


• ทางเลือกการลงทุนมีหลากหลายให้ผู้ลงทุนเลือกได้ตามสไตล์ตนเอง ทั้งแบบที่มีโอกาสรับผลตอบแทนได้สูง แบบที่มีภาษีคืนเป็นแต้มต่อ หรือแบบที่มีสัญญาหรือประมาณการผลตอบแทนให้ทราบล่วงหน้า





การลงทุน ที่จะนำไปสู่อิสรภาพการเงินหรือโอกาสได้ทำงานที่รักหรือใช้ชีวิตแบบที่ฝัน โดยไม่ต้องกังวลเรื่องเงิน แต่การลงทุนมีอะไรบ้าง ความสำคัญของการลงทุนเป็นอย่างไร และที่สำคัญที่ K WEALTH อยากบอกคือ อย่าลงทุน! ถ้ายังไม่รู้ 3 สิ่งนี้

I: ทำความรู้จัก กับสิ่งที่เรียกว่าลงทุน


• ทำไม? การลงทุนถึงสำคัญ

เงิน 1 ล้านบาท หากฝากประจำที่ผลตอบแทน 1.87%ต่อปี(1) ผ่านไป 10 ปี เงินจะงอกเงยเป็น 1.20 ล้านบาท แต่หากนำ ไปลงทุนที่ผลตอบแทนใกล้เคียงกับหุ้นโลกที่ประมาณ 6.81%ต่อปี(2) เงินจะงอกเงยเป็น 1.93 ล้านบาท ซึ่งเงินส่วนที่งอกเงยจากการลงทุนนี้สูงกว่าการฝากเงินถึง 4.6 เท่า

• ลงทุน vs ออมเงิน ต่างกันอย่างไร?

-เวลาแปลงเป็นเงินสด: อย่างกองทุนรวม ที่มีระยะเวลาการรับเงินค่าขายคืน T+6 หากขายคืนกองทุนในเวลาทำการวันจันทร์ (วัน T) จะได้รับเงินวันอังคารของสัปดาห์ถัดไป (วัน T+6 กรณีไม่มีวันหยุดอื่นนอกจาก เสาร์-อาทิตย์)
-มูลค่าขึ้นลงได้: อย่างกองทุนรวม มูลค่าหน่วยลงทุน หรือ NAV ต่อหน่วย มีการขึ้นลงได้ทุกสิ้นวันทำการ ทำให้ บางวันอาจเห็นกำไร บางวันเห็นขาดทุน
-เงินต้นอาจสูญได้: การลงทุนในหลักทรัพย์บางอย่าง เช่น หุ้นสามัญ หุ้นกู้ ฯลฯ หากบริษัทผู้ออกหลักทรัพย์นั้นไม่สามารถดำเนินกิจการได้ ผู้ลงทุนอาจขาดทุนหรือสูญเสียเงินต้นจำนวนมากได้

• รูปแบบการลงทุน ที่ควรรู้

- หุ้นกู้: ตราสารหนี้ ออกโดยบริษัทเอกชน ที่สัญญาว่าจะจ่ายดอกเบี้ยและเงินต้นคืน ตามระยะเวลาที่กำหนด
- หุ้น: ตราสารทุน ออกโดยบริษัทเอกชน ที่หากบริษัทมีกำไรอาจพิจารณาจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้น และราคาหุ้นที่สามารถขายได้ในตลาด ก็มักขึ้นลงตามข่าวสารที่เกี่ยวข้อง
- อสังหาริมทรัพย์: เช่น บ้าน คอนโด ที่ดิน ฯลฯ เพื่อปล่อยเช่าหรือเก็งกำไร ที่มักใช้เงินลงทุนสูง ค่าเช่าหรือค่าขายที่ได้ ต้องยื่นหรือเสียภาษีเงินได้
- กองทุนรวม: ที่มีหลากหลายนโยบาย เช่น กองทุนตราสารหนี้ กองทุนหุ้น กองทุนผสม ฯลฯ รวมถึงกองทุนเพื่อลดหย่อนภาษีอย่าง SSF RMF TESG
- ประกันชีวิตสะสมทรัพย์: ที่มีเงินคืนและกำหนดครบสัญญาที่แน่นอน รวมถึงมีเงื่อนไขระยะเวลาและค่าเบี้ยที่ต้องจ่ายตามแบบประกัน

II: เลือกลงทุน ในทางเลือกที่ใช่


• กำหนดสไตล์ของตนเอง

•จาก 2 ปัจจัยหลัก (1) ความเสี่ยงที่ยอมรับได้ ด้วยการทำแบบประเมินความเสี่ยงการลงทุน กับธนาคารหรือเว็บไซต์ต่างๆ และ (2) ระยะเวลาการลงทุน แบ่งเป็น สั้นกว่า 3 ปี 3-5 ปี และยาวกว่า 5 ปี
• สำหรับเป้าหมายสำคัญ เช่น การศึกษาบุตร ฯลฯ อาจเน้นลงทุนทางเลือกที่มีความเสี่ยงต่ำลง เพื่อความปลอดภัยของเงินต้นที่มากขึ้น

• จับคู่การลงทุน ที่เหมาะสมกับสไตล์

คนทั่วไป ที่มีระยะเวลาลงทุน 3-5 ปี แนะนำลงทุนตามความเสี่ยงที่รับได้ เช่น รับความเสี่ยงได้ต่ำควรเน้นลงทุนกองทุนตราสารหนี้ รับความเสี่ยงได้ปานกลางควรเน้นลงทุนกองทุนผสม และรับความเสี่ยงได้สูงอาจเน้นลงทุนกองทุนหุ้น แต่หากมีระยะเวลาการลงทุนที่ต่างออกไป เช่น
-สั้นกว่า 3 ปี แม้รับความเสี่ยงได้สูง ก็ไม่ควรลงทุนหุ้น/กองทุนหุ้นทั้งจำนวน เพราะเมื่อถึงเวลาต้องใช้เงินอาจเป็นช่วงขาดทุน
- ยาวกว่า 5 ปี แม้รับความเสี่ยงได้ต่ำ ก็ไม่ควรลงทุนเฉพาะตราสารหนี้ ควรลงทุนกองทุนผสม หรือแบ่งเงินไปลงทุนกองทุนหุ้นบ้าง เพื่อโอกาสรับผลตอบแทนที่สูงขึ้นในระยะยาว
ผู้ที่ยังกังวลหรือไม่คุ้นชินกับการลงทุน แนะนำทางเลือกที่มีประมาณการหรือสัญญาที่จะจ่ายผลตอบแทนในจำนวนที่ระบุไว้ อย่างกองทุน Term Fund 6 เดือน ที่มีประมาณการผลตอบแทนประมาณ 1.95%ต่อปี(3) หรือประกันชีวิตสะสมทรัพย์อย่าง ประกันเพอร์เฟค เซฟวิ่ง 11/5 ที่จ่ายเบี้ย 5 ปี ปีละ 1 แสนบาท จะได้รับเงินคืนและเงินครบสัญญารวม 527,500 บาท(4) หรืออาจเป็นหุ้นกู้บริษัทเอกชนขนาดใหญ่ ที่มีอันดับความเชื่อถือสูง อย่าง AAA, AA, A ก็ได้
คนอยากคุ้ม และลงทุนระยะยาว แนะนำกองทุน SSF กองทุน RMF และกองทุน TESG รวมไปถึงประกันชีวิตที่มีระยะเวลาสัญญา 10 ปีขึ้นไป เพื่อให้ได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษีเพิ่มเติม ตัวอย่างเช่น การลงทุนด้วยเงิน 100,000 บาท ในกองทุน WPBALANCEDRMF คนที่มีเงินเดือน 50,000 บาท 85,000 บาท และ 190,000 บาท จะได้รับเงินคืนภาษีประมาณ 10,000 บาท 20,000 บาท และ 30,000 บาท ตามลำดับ

• ใช้กลยุทธ์การลงทุน

จัดสรรเงินลงทุน เพื่อกระจายความเสี่ยง โดยเงินลงทุนหลัก 80% ลงทุนในกองทุนผสม เช่น กองทุน WP-BALANCED ที่มีผู้จัดการกองทุนดูแลและกระจายลงทุนในสินทรัพย์ที่หลากหลาย เพื่อให้ได้ผลตอบแทนที่ดีในระยะยาว ส่วนอีก 20% อาจเลือกกระจายลงทุนในกองทุนหุ้นไทย/หุ้นต่างประเทศ ที่มีความน่าสนใจลงทุน ในแต่ละช่วงเวลา
ทยอยลงทุน โดยแบ่งลงทุน 3 ครั้งขึ้นไป เช่น เดือนละ 1 ครั้ง ด้วยเงินที่เท่ากัน เป็นเวลา 3 เดือนติดต่อกัน เพื่อลดความเสี่ยง ที่จะลงทุนเงินก้อนใหญ่ผิดจังหวะ


III: จัดการเงินที่ลงทุนไป ให้งอกเงย

ลงทุนเพิ่มอย่างมีวินัย ด้วยเงินที่เท่ากันหรือตั้งใจทุกเดือน เพื่อสะสมต่อยอดและต้องไม่ถอดใจแม้เงินลงทุนผันผวน เพราะราคาที่ขึ้นลงถือเป็นเรื่องปกติ แต่สำหรับการลงทุนระยะยาวแล้วสินทรัพย์การลงทุนส่วนใหญ่มักให้ผลตอบแทนที่เป็นบวกได้
ติดตามสถานการณ์และคำแนะนำการลงทุน เพื่อใช้ตัดสินใจว่าเงินส่วนที่ตั้งใจลงทุนกองทุนหุ้น เช่น 20%ของเงินลงทุน ในช่วง 3-6 เดือนนี้ หรือช่วงปีนี้ ควรลงทุนกองทุนไหน ภูมิภาคหรืออุตสาหกรรมใด ที่น่าจะให้ผลตอบแทนที่ประทับใจกว่ากองทุนทั่วไป
ปรับพอร์ตให้สมดุลทุก 6-12 เดือน เมื่อมูลค่าการลงทุนมีขึ้นลง สัดส่วนเงินลงทุนที่ตั้งใจไว้ย่อมเปลี่ยนไป ทำให้ต้องหมั่นปรับสัดส่วนหรือพอร์ตการลงทุนให้กลับมาอยู่ในสัดส่วนที่ตรงกับระดับความเสี่ยงที่ตนเองรับได้หรือตั้งใจไว้ตั้งแต่เริ่มต้นลงทุน

การลงทุน จุดริ่มต้นของความมั่งคั่งและอิสรภาพการเงินที่หลายคนใฝ่ฝัน แต่การเดินทางไปให้ถึงนั้นควรเข้าใจทางเลือกเพื่อเลือกลงทุนให้เหมาะกับตนเอง และต้องรู้จักการอยู่ร่วมกับการลงทุนนั้นให้ได้ไปตลอดการเดินทาง

หมายเหตุ
(1) ดอกเบี้ยเงินฝากประจำ 36 เดือน ธนาคารกสิกรไทย 2.2%ต่อปี ก่อนหักภาษี ณ ที่จ่าย 15% เริ่มใช้ 16 พ.ย. 66
(2) ผลตอบแทนย้อนหลัง 10 ปี MSCI ACWI Index ณ 31 ต.ค. 66
(3) ประมาณการผลตอบแทนกองทุน Term Fund 6 เดือน KGB6MAO เสนอขาย 7-8 ธ.ค. 66
(4) ประกันเพอร์เฟค เซฟวิ่ง 11/5 แผน 6 สำหรับผู้ชาย อายุ 40 ปี



.