เลือกที่จะต่าง สร้างโอกาสธุรกิจรุ่ง

     ในการทำธุรกิจเราคงหลีกเลี่ยงปัญหาและอุปสรรคไม่ได้ แต่การที่เราจะผ่านพ้นสิ่งเหล่านั้นมาได้ สำคัญที่สุดคือ วิธีคิดของเรา วันนี้มีข้อคิดในการทำธุรกิจที่ได้ไปพูดคุยมากับ คุณเฉลียว สวัสดี กรรมการผู้จัดการ บริษัท เฉลียวการช่างและค้าวัสดุก่อสร้าง จำกัด ผู้ประกอบการที่เริ่มธุรกิจจากศูนย์ และไม่ว่าจะล้มกี่ครั้งก็สามารถผ่านพ้นมาได้ จนประสบความสำเร็จมีอาณาจักรค้าวัสดุก่อสร้างได้อย่างทุกวันนี้ ซึ่งมีวิธีคิดที่น่าสนใจ ดังนี้

     1. ล้มแล้วต้องรีบลุก ต้องกล้าเผชิญหน้ากับปัญหา สำหรับธุรกิจของคุณเฉลียวก็ไม่ต่างจากธุรกิจเอสเอ็มอีทั่วไป เขาต้องประสบปัญหาครั้งแล้วครั้งเล่า แต่ไม่เคยท้อหรือคิดที่จะหนีปัญหา สิ่งที่เขาทำทุกครั้งที่มีปัญหาเกิดขึ้นก็คือการยอมรับความจริง และเข้าไปเจรจาหาทางแก้ไขปัญหาอย่างตรงไปตรงมา ทำให้สามารถจำกัดขอบเขตของปัญหาไม่ให้บานปลายลุกลามจนควบคุมไม่ได้ เขาเล่าว่า ธุรกิจเคยขาดสภาพคล่องจนไม่มีเงินจ่ายหนี้ แต่เขาก็เลือกที่จะบอกให้เจ้าหนี้รับทราบปัญหา และหาทางแก้ไขร่วมกัน จนกระทั่งธุรกิจสามารถยืนขึ้นได้อีกครั้ง ทำให้แม้จะต้องสู้กับปัญหาและอุปสรรคกี่ครั้งเขาก็ผ่านมันมาได้ด้วยวิธีนี้

     2. ปรับวิธีคิดก็ทิ้งห่างคู่แข่ง เพราะโอกาสไม่วิ่งมาชนเรา เราจึงต้องมองหาโอกาสแล้วไขว่คว้าด้วยตัวเอง คุณเฉลียวเล่าว่า โดยทั่วไปร้านขายวัสดุก่อสร้างจะต้องรอให้ลูกค้าเดินเข้ามาเลือกซื้อที่ร้าน แต่เขากลับมีวิธีคิดที่ต่างออกไปคือ ใช้วิธี​ออกไปหาลูกค้า ไปตามตรอกซอกซอยต่างๆ หากเห็นการก่อสร้างก็จะใช้วิธีรุกเข้าไปเสนอขายที่นั่นเลย ซึ่งวิธีนี้ทำให้ยอดขายของเขาดีขึ้นทันตา ในด้านของลูกค้าเองก็สะดวกสบายเพราะมีคนมาขายและส่งของให้ถึงที่ นอกจากนี้คุณเฉลียวยังต่อยอดธุรกิจหวังให้เป็น One Stop Service มาที่เดียวได้ครบกลับไป ด้วยการเพิ่มทางเลือกให้ลูกค้าสามารถโอนสิทธิ์การรับเงินมาให้ แล้วนำวัสดุก่อสร้างไปใช้ พองานเสร็จก็ค่อยคิดดอกเบี้ยหักลบกลบหนี้กัน วิธีนี้ทำให้ลูกค้าที่รับงานกับภาครัฐมีเงินหมุนใช้จ่ายไปก่อน เพราะระบบราชการบางครั้งต้องใช้เวลานานกว่าจะได้รับเงิน รวมถึงการเป็นแวร์เฮาส์สต็อกวัตถุดิบให้ลูกค้า พร้อมที่จะจัดหาและส่งให้ถึงที่ ทั้งยังทำให้ธุรกิจของคุณเฉลียวสามารถเพิ่มอำนาจการต่อรองกับซัพพลายเออร์ในการสั่งซื้อสินค้าได้ด้วย นี่คือกลยุทธ์สำคัญที่ผู้ชายธรรมดาคนหนึ่งสามารถพลิกเกมมาทิ้งห่างคู่แข่งในธุรกิจได้

     3. แบ่งกำไรจูงใจพนักงาน เป็นการสร้างให้พนักงานรู้สึกมีส่วนร่วมกับธุรกิจ กำไรของธุรกิจก็คือกำไรของพนักงาน คุณเฉลียวใช้แนวคิดนี้ในการสร้างธุรกิจจนขยับขยายได้ในเวลาไม่กี่เดือน และเติบโตขึ้นเรื่อยๆ จนบางปียอดขายโตเกือบร้อยเปอร์เซ็นต์ เขาเล่าว่า ทุกคนในบริษัทตั้งแต่คนขับรถจนถึงพนักงานออฟฟิศสามารถขายได้หมด พอขายได้ก็เอากำไรมาแบ่งกัน พนักงานก็จะรู้สึกมีแรงกระตุ้นในการขาย เพราะยิ่งขายมากยิ่งได้มาก ทำให้ธุรกิจเติบโตได้อย่างรวดเร็ว นอกจากนี้ยังมองว่าการทำธุรกิจไม่ควรหวังเพียงกำไรสูงสุด สิ่งที่สำคัญคือการดูแลพนักงานในบริษัทที่มีอยู่หกร้อยกว่าคนต่างหาก เขาจึงอยากให้ทุกคนมีส่วนร่วม ได้เป็นเจ้าของร่วมกัน มีส่วนแบ่งให้ มีเงินเก็บไว้ใช้ตอนเกษียณ ทำให้พนักงานรักและทุ่มเททำงานให้กับบริษัท

     สำหรับผู้ชายสู้ชีวิตอย่างคุณเฉลียว กว่าจะเป็นเจ้าของอาณาจักรค้าวัสดุก่อสร้างอย่างทุกวันนี้ต้องผ่านอะไรมามาก แต่ทุกบททดสอบที่ผ่านหน้าเข้ามาไม่เคยทำให้เขายอมแพ้ เขาเลือกที่จะยืนหยัดต่อสู้ ไม่ปิดกั้นตัวเองจากการเรียนรู้ จนพาตัวเองมาเจอโอกาสทางธุรกิจ ดังนั้นหากอยากประสบความสำเร็จก็ต้องคอยสอดส่ายสายตามองหาโอกาส เพราะโอกาสแทบจะไม่มีวันวิ่งเข้ามาหา แต่คุณนั่นแหละที่ต้องออกไปคว้าเอาด้วยตัวเอง