วิกฤตสู่จุดเปลี่ยน บทเรียนจาก SME พันธุ์แกร่ง

​      ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยกับการทำธุรกิจให้รอดและรุ่งท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจแบบนี้ แต่มีหนึ่งธุรกิจ SME พันธุ์แกร่งที่เป็นนักแก้ปัญหาอย่าง “ฟาสเทคโน” ที่มียุทธวิธีเอาตัวรอด พลิกวิกฤตให้เป็นโอกาสธุรกิจได้

       กรภัคร์ มีสิทธิตา หรือ เจ๊เช็ง กรรมการผู้จัดการ บริษัท ฟาสเทคโน จำกัด เจ้าของธุรกิจของใช้ของตกแต่งบ้านจากวัสดุไม้แบรนด์ฟาสเทค ตามมาด้วยนวัตกรรมวัสดุตกแต่งบ้านจากไม้สักและไม้ไผ่ธรรมชาติที่ใช้ชื่อตัวเองเป็นแบรนด์ว่า “เช็งดู” ที่เคยผ่านวิกฤตมาแล้วอย่างโชกโชน เรียกได้ว่าไม่เคยมีปีไหนที่ไม่เจอความท้าทาย แต่สิ่งที่ทำให้ธุรกิจอยู่รอดและเติบโตมาได้จนถึงวันนี้ มาจากการขยันคิด ขยันหาวิธีใหม่ๆในการแก้ปัญหาอย่างไม่หยุดนิ่งและที่สำคัญคือการ “Change” สิ่งเหล่านี้

1. Change สินค้า โดยเริ่มปรับตัวจากธุรกิจเฟอร์นิเจอร์บิวท์อินที่รับทำแต่ลูกค้าโครงการซึ่งต้องใช้เงินลงทุนสูง หันมาทำงานไม้ชิ้นเล็กลงตอบโจทย์ลูกค้าคอนโดมิเนียมที่มีอัตราเติบโตสูงขึ้น ซึ่งช่วยสร้างยอดขายเพิ่มขึ้นแม้ในช่วงเศรษฐกิจตกต่ำ

2. Change การตลาด เป็นอีกหนึ่งยุทธวิธีของการปรับตัวเพื่อกระตุ้นยอดขายสวนกระแสเศรษฐกิจ โดยการนำสินค้าเดิมที่มีอยู่ในมือแต่ยอดขายไม่กระเตื้องมาทำตลาดใหม่ ปรับเปลี่ยนสีสัน ดีไซน์ และขนาดให้สอดคล้องกับเทรนด์ใหม่ๆ เช่น ทำถาดไม้ ลังไม้เก๋ๆ เปิดตลาดงานบ้านและสวน รวมถึงการวางกลยุทธ์เจาะกลุ่มลูกค้าใหม่ๆที่ไม่จำกัดตัวเองอยู่เฉพาะตลาดของแต่งบ้าน จนช่วยทำให้ยอดขายสินค้าตัวเดิมที่เคยแน่นิ่งเติบโตเพิ่มขึ้น 4-5 เท่า

3. Change วิกฤต จากประสบการณ์ที่เจ๊เช็งเคยผ่านร้อนผ่านหนาวทั้งเคยเป็นหนี้ 129 ล้านบาท เลิกกับสามี เป็นซิงเกิ้ลมัมเลี้ยงลูก 3 คน ในช่วงวิกฤตฟองสบู่ สติเท่านั้นช่วยให้รับมือกับปัญหาหนักๆได้ เพราะปัญหาไม่ใช่สิ่งที่น่ากลัวที่สุด แต่ความท้อแท้ต่างหากที่น่ากลัว เพราะเมื่อไหร่ที่ท้อ จะทำให้ไม่สามารถจัดการอะไรได้เลย

4. Change การเงิน ช่วงวิกฤตต้องตัดสินใจขายทรัพย์สินทุกอย่างที่มี เพื่อรักษาโรงงานไว้ เพราะถ้าปิดโรงงาน จะทำให้กลับมาทำใหม่ค่อนข้างยาก การค่อยๆคิด แก้ปัญหาทีละอย่างทำให้ในที่สุดสามารถปลดหนี้ได้หมดภายใน 12 ปี

5. Change ความคิด เพราะการจะเอาชนะวิกฤตได้สิ่งที่ต้องทำคือหลุดจากความคิดเดิมๆ แต่ต้องแสวงหาความรู้และความคิดสร้างสรรค์ใหม่ๆ เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับธุรกิจ อย่างฟาสเทคโนกลายเป็นผู้นำด้าน Zero Waste นำเศษวัสดุไม้ที่เคยเหลือทิ้งจากกระบวนการผลิตมาสร้างสรรค์สินค้าใหม่ เปลี่ยนค่าใช้จ่ายจัดการขยะเดือนละนับหมื่น มาเป็นรายได้ใหม่ให้กับบริษัทถึงเดือนละเกือบ 2 ล้านบาทได้

      บทเรียนจาก SME พันธุ์แกร่งอย่างฟาสเทคโนเป็นอีกหนึ่งบทพิสูจน์ให้เห็นว่า ไม่ว่าวิกฤตจะใหญ่หรือเล็ก คำว่า Change หรือการปรับตัวรับมือกับความเปลี่ยนแปลง ด้วยวิธีคิดใหม่ๆ ยังคงเป็นคาถาที่ทำให้ผู้ประกอบการ SME นำมาใช้เพื่อพาธุรกิจฝ่าวิกฤตไปให้ได้ในทุกสถานการณ์

​