Display mode (Doesn't show in master page preview)
Turn on more accessible mode
Skip Ribbon Commands
Skip to main content
Turn off Animations
​​​​

การบริหารจัดการทรัพยากรบุคคล​


ธนาคารมอบหมายให้สายงานทรัพยากรบุคคลทำหน้าที่ควบคุมดูแลให้การดำเนินการต่างๆที่เกี่ยวข้องกับการบริหารจัดการพนักงานของธนาคารสอดคล้องกับกฎหมาย ข้อบังคับ และนโยบายต่างๆที่ธนาคารกำหนด อาทิ นโยบายการบริหารทรัพยากรบุคคล นโยบายสิทธิมนุษยชน และนโยบายการพัฒนาบุคคลากร เป็นต้น รวมถึงมีการบริหารความเสี่ยงและโอกาสที่เกี่ยวข้องกับทรัพยากรบุคคลอย่างเหมาะสม โดยคณะกรรมการธนาคารมีการกำกับและติดตามการดำเนินงานที่เกี่ยวข้องอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้ธนาคารมีทรัพยากรบุคคลที่มีคุณภาพและเพียงพอต่อการขับเคลื่อนการดำเนินงานขององค์กรให้บรรลุตามแผนงานและเป้าหมายที่กำหนดได้


ธนาคารมุ่งบริหารจัดการงานทรัพยากรบุคคลเพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นให้สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ K-Strategy การมุ่งเน้นเรื่อง “Performance-driven organization” เพื่อบริหารและพัฒนาพนักงานที่มีศักยภาพให้ร่วมกันส่งมอบผลลัพธ์ตามเป้าหมายขององค์กร ภายใต้ความท้าทายด้านสิ่งแวดล้อมและบริบทของ โดยผ่านองค์กรประกอบหลัก 3 ส่วนดังนี้

  1. การส่งเสริมวัฒนธรรมที่ขับเคลื่อนโดยมุ่งเน้นผลลัพธ์จากงาน (Drive a Performance-driven Culture) ผ่านการออกแบบโครงสร้างองค์กรและจัดสรรทรัพยากรบุคคลที่สอดคล้องกับการเติบโตของธุรกิจ และพัฒนาการบริหารผลการปฏิบัติงานเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน และสร้างคุณค่าให้กับผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย (Stakeholder Value) ตั้งแต่กระบวนการตั้งเป้าหมาย การติดตามและให้คำแนะนำอย่างเป็นรูปธรรมจากหัวหน้างานอย่างต่อเนื่อง รวมถึงการพัฒนารูปแบบใหม่ๆ ของการให้รางวัลพนักงานซึ่งแตกต่างตามผลการปฏิบัติงานและเหมาะสมกับลักษณะของธุรกิจต่างๆ รวมถึงแข่งขันได้ในตลาด 
  2. การสนับสนุนและพัฒนาศักยภาพพนักงานที่สำคัญเชิงกลยุทธ์ให้กับองค์กร (Enhance Strategic People Capabilities) ผ่านการออกแบบโปรแกรมการเรียนรู้อย่างเฉพาะเจาะจงสำหรับกลุ่มธุรกิจที่เป็นยุทธศาสตร์สำคัญ เช่น ธุรกิจเครดิตและธุรกิจการบริหารความมั่งคั่ง โดยมุ่งเน้นให้พนักงานสามารถนำทักษะส่วนเพิ่มไปสร้างและส่งมอบผลลัพธ์เชิงกลยุทธ์ให้กับธุรกิจและลูกค้า ส่งผลให้ยอดขายผลิตภัณฑ์กองทุนรวมและผลิตภัณฑ์ประกันผ่านช่องทางธนาคารในกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่มีอัตรากำไรสูงขยายตัวเพิ่มขึ้นอย่างชัดเจน
  3. การพัฒนาประสบการณ์พนักงานในด้านการบริหารทรัพยากรบุคคล (Improve Employee Experience) รวมถึงการดูแลให้พนักงานมีสุขภาวะที่ดี ผ่านการส่งเสริมสุขภาพของพนักงานแบบองค์รวมครอบคลุมถึง สุขภาพกาย สุขภาพจิตใจ และสุขภาพทางการเงิน ผ่านโครงการต่างๆ อย่างต่อเนื่อง เช่น การจัดทำแบบประเมินตนเอง ซึ่งช่วยให้เกิดการตระหนักรู้ (Awareness) พร้อมการให้คำปรึกษาเพิ่มเติมจากวิทยากรและผู้เชี่ยวชาญ อาทิ ให้หัวหน้างานสามารถรับคำปรึกษาสุขภาวะทางใจจากนักจิตวิทยาผู้เชี่ยวชาญ เพื่อช่วยเป็นแนวทางในการดูแลตนเองและลูกทีม รวมถึงการให้ความรู้พื้นฐานด้านสุขภาวะทางการเงินโดยผู้เชี่ยวชาญด้านความมั่งคั่ง (Wealth Expert) เพื่อช่วยให้พนักงานจัดการวางแผนความมั่นคงทางการเงินของตนได้อย่างเหมาะสม นอกจากนี้ ยังรวมถึงการพัฒนา HR system เพื่อยกระดับประสบการณ์ในด้านการบริหารทรัพยากรบุคคล​​

การสรรหาพนักงาน

การพัฒนากระบวนการสรรหา เพื่อให้กระบวนการสรรหามีความโปร่งใสและเป็นธรรม ธนาคารได้จัดอบรมและจัดทำคู่มือสำหรับกรรมการสัมภาษณ์ เพื่อให้มั่นใจว่าการคัดเลือกบุคลากรเป็นไปตามมาตรฐาน โดยธนาคารมุ่งเน้นการจัดการความหลากหลายและให้ความสำคัญกับการปฏิบัติต่อทุกคนอย่างเท่าเทียม
เป้าหมายในการสรรหา ธนาคารมีความตั้งใจที่จะสื่อสารให้ผู้สมัครรับทราบถึงความมุ่งมั่นในการเป็นองค์กรที่สร้าง “Possibility to Make an Impact” หรือการสร้างความเป็นไปได้ใหม่ๆ ให้กับสังคม ทั้งนี้ รูปแบบการทำงานที่คล่องตัวและวัฒนธรรมองค์กรที่สอดคล้องกับคนรุ่นใหม่ จะช่วยให้พนักงานสามารถเติบโตไปพร้อมกับธนาคารได้อย่างยั่งยืน


การพัฒนาศักยภาพของพนักงาน
ธนาคารส่งเสริมให้พนักงานมีความรู้ ความสามารถ และทักษะในการปฏิบัติหน้าที่ของตนได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงมีโอกาสได้เติบโตในหน้าที่การงานหรือสาขาอาชีพ จึงได้จัดให้มีการพัฒนาศักยภาพของพนักงานทุกระดับ อย่างเป็นระบบ ดังนี้

  1. การเสริมสร้างลักษณะความเป็นผู้นำที่แข็งแกร่ง ธนาคารจัดการฝึกอบรม KLA (KBank Leadership Accelerator Program) program)  เพื่อสนับสนุนให้ผู้นำของธนาคารตั้งแต่ระดับต้นไปจนถึงระดับผู้บริหารฝ่าย พัฒนา Best of BE (Leading Self), Best of WE (Leading Team) และ Best of US (Leading Business) ผ่านการฝึกอบรมแบบปฎิบัติการ ครบทุกทักษะตาม Leadership Value ของธนาคาร และยังมีการอบรมเชิงปฎิบัติการเข้มข้นในหัวข้อ Performance Driven Leaders และ Performance Driven Organization สำหรับผู้บริหารฝ่ายขึ้นไปจนถึงระดับรองผู้จัดการใหญ่อีกด้วย เพื่อให้ผู้นำของธนาคารทุกระดับเป็นสามารถนำพาองค์กรไปสู่จุดหมายของการเป็นองค์กรที่ผลงานเป็นสำคัญ นอกจากนี้ธนาคารมีการจัดการสื่อสาร Leader on Stage จากผู้บริหารระดับสูงของธนาคารมาแบ่งปันเรื่องราว เทคนิค ข้อคิดจากประสบการณ์จริง ร่วมกับวิทยากรภายนอก และพนักงานตัวอย่างของธนาคาร เพื่อสร้างพลังใจ แชร์แนวคิด ที่เชื่อมโยงกับ Leadership Value ของธนาคาร ​
  2. การเพิ่มพูนทักษะความรู้ให้กับพนักงาน ธนาคารสนับสนุนการพัฒนาทักษะและความรู้เฉพาะทาง ให้แก่พนักงาน ดังนี้ 
    • หลักสูตรการพัฒนาศักยภาพตามกลุ่มกลยุทธ์ที่สำคัญ (Strategic Capability Program) หลักสูตรเพื่อสร้างทักษะสำคัญที่จำเป็นยิ่งยวดต่อการขับเคลื่อนตามยุทธศาสตร์ของธนคารโดยจะเน้นไปยังกลุ่มพนักงานที่สำคัญเชิงกลยุทธ์ให้กับองค์กรที่มีความสำคัญเร่งด่วนที่จะพัฒนาศักยภาพและทักษะที่สำคัญ ผ่านรูปแบบการพัฒนาทักษะเข้มข้น ที่มีผลลัพธ์ชัดเจนต่อธุรกิจเท่านั้น เช่น หลักสูตร Customer understanding & insight ของสายงานที่พัฒนาผลิตภัณฑ์ของธนาคารทั้งกลุ่ม Wealth และ Payment, Profitability-driven program และ Entrepreneurship Mindset ของผู้พัฒนาผลิตภัณฑ์เครดิต หรือหลักสูตร Consultative Selling ให้ กับหน่วยงานขาย ของธนคาร เป็นต้น
    • โปรแกรมพัฒนาหลักสูตร ตาม Functional Skills เน้นทักษะตามหน้าที่งาน ของแต่ละฝ่ายงาน ตามกระบวนการทำงานของธนาคาร เช่น Credit Skills, Product Manager Development Program, Data Talent เป็นต้น
    • หลักสูตรทักษะสำหรับอนาคต (Future Skills)  เพื่อเตรียมพนักงานทุกคนให้พร้อมรับความท้าทายในอนาคต ซึ่งเป็นการเรียนรู้แบบผสมผสานกับ Journey ของพนักงานในระยะเวลา 1.5-2 เดือน  ได้แก่ การเรียนรู้ด้วยตนเอง (Self Learning) ห้องเรียนเสมือนจริง (Virtual) การเรียนรู้แบบใช้กิจกรรมเป็นฐาน (Action-based Learning) และชุมชนการเรียนรู้เสมือนจริง (Community of Practice) เน้นเรื่อง Growth mindset, Outward mindset และ AI to Increase Productivity
    • หลักสูตร Compulsory เป็นหลักสูตรพื้นฐานของพนักงานทุกคนที่กำหนดให้เรียนให้สอดคล้องกับข้อกำหนดของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับกฎระเบียบ ต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินธุรกิจของสถาบันการเงิน
    • กิจกรรม Learning Day เป็นกิจกรรมการเรียนรู้ตอบโจทย์ของสายงานนต่างๆ เพื่อช่วยปิดช่องว่าง (gap) ในการพัฒนาของสายงาน โดยมีการร่วมพัฒนาสิ่งที่อยากเรียนรู้ในมุมของสายงาน หรือ กลุ่มธุรกิจต่างๆ

การประเมินผลการปฏิบัติงาน
ธนาคารประเมินผลการปฎิบัติงานของพนักงานปีละ 2 ครั้ง โดยใช้หลักการประเมินผลงานอย่างยุติธรรม และส่งเสริมการทำงานร่วมกันเป็นทีม เพื่อให้การประเมินผลการปฏิบัติงานสะท้อนทั้งด้านผลสำเร็จของงานและพฤติกรรมการทำงาน ธนาคารได้นำการประเมินผลการปฏิบัติงานแบบทีม (Team-based Performance) มาใช้ในกระบวนการประเมิน โดยผลการปฏิบัติงานของพนักงานจะพิจารณาจากผลงานของทีม (Squad/Chapter Performance) ควบคู่กับผลงานรายบุคคล (Individual Performance) ทั้งนี้ ธนาคารจะติดตามผลการดำเนินงานของทีมเป็นรายไตรมาส พร้อมทั้งประเมินผลในช่วงกลางปีและสิ้นปี เพื่อระบุโอกาสในการพัฒนา และสร้างความสอดคล้องระหว่างเป้าหมายของทีมกับวัตถุประสงค์ทางธุรกิจของธนาคาร ตลอดจนสร้างวัฒนธรรมแห่งนวัตกรรม การบริหารความเสี่ยงและการบริหารจัดการต้นทุนที่เหมาะสม เพื่อหล่อหลอมทัศนคติและพฤติกรรมของบุคลากรในองค์กรในการมุ่งสู่เป้าหมายเดียวกัน 
การกำหนดตัวชี้วัด และเป้าหมายของพนักงานจะสอดคล้องกับตัวชี้วัดความสำเร็จขององค์กรที่กำหนดเป้าหมายการดำเนินงานของธนาคารทั้งในระยะสั้น และการสร้างมูลค่าธุรกิจในระยะยาว สะท้อนการส่งมอบคุณค่าที่ยั่งยืนให้แก่ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียที่สำคัญ ผ่านการสร้างผลงานทางธุรกิจภายใต้กรอบยุทธศาสตร์ 3+1

ค่าตอบแทนและสวัสดิการ
ธนาคารพิจารณาทบทวนการบริหารค่าตอบแทนด้วยความระมัดระวังอย่างละเอียดถี่ถ้วน เพื่อป้องกันความเสี่ยงที่จะเกิด    การโน้มเอียง การเลือกปฏิบัติ หรือความไม่เท่าเทียมในกระบวนการที่เกี่ยวข้องกับการประเมินผลการปฏิบัติงาน และการจ่ายค่าตอบแทน รวมทั้งให้ความสำคัญต่อการบริหารอัตราส่วนเงินเดือนและค่าตอบแทนพื้นฐานระหว่างชายและหญิงให้มีความแตกต่างกันน้อยที่สุด บนพื้นฐานของการรักษาสมดุลและความเท่าเทียมกันตามผลการปฏิบัติงานและคุณค่างาน โดยธนาคารได้มีการศึกษาและพัฒนา ปรับปรุงรูปแบบการจ่ายค่าตอบแทนให้สอดคล้องกับตลาด และยุทธศาสตร์ของธนาคาร โดยในปี 2567 ธนาคารได้นำรูปแบบการให้ค่าตอบแทนที่อ้างอิงกับผลการดำเนินงานระยะยาวของธนาคารมาใช้ในกลุ่มผู้บริหารระดับสูงของธนาคารเพิ่มเติม รวมทั้งมีการปรับรูปแบบการให้ผลตอบแทนแก่ผู้บริหารระดับกลางให้มีสัดส่วนค่าตอบแทนแบบผันแปร (variable pay) ซึ่งผลการดำเนินงานที่ส่งมอบในสัดส่วนที่สูงขึ้น 
พนักงานธนาคารได้รับสวัสดิการเพื่อช่วยลดความกังวลและส่งเสริมความเป็นอยู่ที่ดี อันจะส่งผลต่อการปฏิบัติงาน และการดำรงชีวิตที่ดีของพนักงาน ตลอดจนครอบครัวของพนักงาน โดยมีการจัดสรรสวัสดิการให้แก่พนักงานและประชาสัมพันธ์ผ่านเว็บไชต์ Kworkplace.com และแอพพลิเคชั่น LINE KONNECT+ for Life 

อ่านข้อมูลเพิ่มเติมใน รายงานการพัฒนาเพื่อความยั่งยืน 2567 บทการบริหารจัดการทรัพยากรบุคคล​



Employee Engagement
2021 2022 2023 2024 2024 Target
Percentage of engaged employees77
7777*
78
77
Percentage of employees who responded to the survey10010093
95
-

touch

* ผลการประเมินความผูกพันของพนักงานประจำปี 2566 จากการจัดทำ Employee Engagement Pulse Survey เมื่อตอนสิ้นปี 2566 ซึ่งการสรุปผลลัพธ์ถูกดำเนินการแล้วเสร็จหลักจากที่มีการเผยแพร่รายงานการพัฒนาเพื่อความยั่งยืน ปี 2566 ไปแล้ว ดังนั้น ข้อมูลในรายงานการพัฒนาเพื่อความยั่งยืนปี 2566 จึงอ้างอิงผลการประเมินจากปีก่อนหน้า ซึ่งจะแตกต่างจากผลการประเมินประจำปี 2566


การจัดสรรสวัสดิการ
ธนาคารได้จัดสรรสวัสดิการให้พนักงานทุกคนเพื่อลดความกังวลและส่งเสริมความเป็นอยู่ที่ดี อันจะส่งผลต่อการปฏิบัติงาน และการดำรงชีวิตที่ดีของพนักงาน ตลอดจนครอบครัวของพนักงาน โดยแบ่งเป็น 3 เรื่อง ได้แก่

  1. ด้านการเงิน ธนาคารให้ความช่วยเหลือพนักงานด้านต่างๆ ได้แก่ เงินช่วยเหลือต่างๆ เช่น เงินเกษียณอายุสำหรับพนักงาน เงินช่วยเหลือค่าใช้จ่ายของบุตร เงินกู้ยืมสำหรับที่อยู่อาศัย รถยนต์ การศึกษา การสมรส การบรรเทาทุกข์อื่นๆ เช่น การศึกษาของบุตรและบุตรบุญธรรม การรักษาพยาบาลของพนักงาน บิดามารดา คู่สมรส บุตรธิดาของพนักงาน กองทุนต่างๆ รวมถึงเรื่องครอบครัวที่ธนาคารอนุญาตให้พนักงานหญิงที่มีบุตรและบุตรยังอยู่ในช่วงวัยที่ต้องดื่มน้ำนมจากมารดา สามารถหยุดพักการทำงานระหว่างวันเพื่อให้นมบุตร หรือทำการเก็บน้ำนมให้กับบุตรได้ โดยไม่นับเป็นการขาดชั่วโมงการทำงาน และให้สิทธิพนักงานหญิงลาคลอดได้ทั้งก่อนและหลังคลอด ครรภ์หนึ่งไม่เกิน 98 วัน โดยได้รับค่าจ้าง และพนักงานหญิงที่ลาคลอดสามารถได้กลับมาทำงานในตำแหน่งเดิม และได้รับค่าตอบแทนไม่น้อยไปกว่าเดิม
  2. ด้านสุขภาพที่ครอบคลุมเรื่องการตรวจสุขภาพประจำปี ดูแลสุขภาพจิตของพนักงาน การให้การรักษาพยาบาล การเบิกค่าใช้จ่ายรักษาพยาบาล และสนับสนุนการออกกำลังกายในรูปแบบต่างๆ
  3. การยืนหยุ่นเวลาทำงานและการทำงานจากที่บ้าน เพื่อตอบโจทย์ให้พนักงานสามารถบริหารเวลาการทำงานและชิวิตส่วนตัวได้อย่างมีประสิทธิภาพ

การร้องทุกข์ของพนักงานธนาคารกสิกรไทย
ธนาคารมีการกำหนดระเบียบปฏิบัติที่ชัดเจนและเข้มงวดในการจัดการกับข้อร้องเรียนของพนักงานและการแก้ปัญหาการละเมิดสิทธิแรงงาน พร้อมกับให้ความสำคัญในการรับฟังความคิดเห็นจากพนักงาน การปรึกษาหารือร่วมกับตัวแทนของลูกจ้างหรือสหภาพแรงงานเสมอ โดยมีขั้นตอนการยื่นเรื่องร้องทุกข์ของพนักงาน ดังนี้

  1. การร้องทุกข์
    พนักงานที่ต้องการร้องทุกข์สามารถร้องทุกข์เป็นลายลักษณ์อักษรได้โดยตรงกับฝ่ายพนักงานสัมพันธ์ สายงานทรัพยากรบุคคล โดยหนังสือร้องทุกข์ต้องมีข้อมูลสำคัญ ได้แก่ ชื่อ-นามสกุล ตำแหน่ง สังกัดของผู้ยื่นร้องทุกข์ ระบุเรื่องหรือประเด็นที่ต้องการร้องทุกข์ รายละเอียดผู้เกี่ยวข้อง เช่น ชื่อ, พยาน, เหตุการณ์ต่าง ๆ และวัตถุประสงค์หรือความต้องการในการร้องทุกข์
  2. การสอบสวนและพิจารณาข้อร้องทุกข์
    หาข้อเท็จจริง วิเคราะห์ และพิจารณาเรื่องร้องทุกข์ (หรือในกรณีที่จำเป็นอาจจะมีการตั้งคณะกรรมการสอบสวนเพื่อหาข้อเท็จจริงก็ได้) จากนั้นจะแจ้งผลเป็นหนังสือให้พนักงานผู้ร้องทุกข์และผู้เกี่ยวข้องทราบภายใน 30 วัน พร้อมติดตามผลการดำเนินการตามคำวินิจฉัย
  3. การอุทธรณ์ผลวินิฉัยข้อร้องทุกข์
    หากพนักงานเห็นว่าผลการพิจารณายังไม่เป็นธรรม สามารถอุทธรณ์ต่อ ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ หรือ รองผู้จัดการใหญ่ สายงานทรัพยากรบุคคล เป็นหนังสือภายใน 15 วันนับจากวันที่รับทราบผล หากไม่ยื่นอุทธรณ์วันตามกำหนด ให้ถือเป็นการยุติเรื่องและไม่สามารถยื่นร้องทุกข์ในเรื่องเดิมได้อีก
  4. ความคุ้มครองผู้ร้องทุกข์และผู้เกี่ยวข้อง
    ธนาคารจะปกปิดชื่อผู้ร้องทุกข์และผู้เกี่ยวข้องเป็นความลับหากไม่ประสงค์เปิดเผย และจะไม่นำเรื่องร้องทุกข์ไปใช้ในการพิจารณาผลการปฏิบัติงานหรือสิทธิประโยชน์อื่น ๆ นอกจากนี้ ธนาคารจะไม่ดำเนินการใดๆ ที่เป็นผลร้ายต่อผู้ร้องทุกข์หรือผู้เกี่ยวข้องที่ร้องทุกข์โดยสุจริต

flowchart process

เอกสารที่เกี่ยวข้อง
การบริหารความแตกต่างหลากหลาย
KBank Development Program Highlights
Work Regulations of Kasikornbank Public Company Limited, B.E. 2541 (1998)





บริการทุกระดับประทับใจ