ประกัน OPD คืออะไร? opd ย่อมาจากอะไร? และแตกต่างประกันสุขภาพ IPD อย่างไร? ทำความเข้าใจก่อนตัดสินใจซื้อ ประกัน OPD คืออะไร? opd ย่อมาจากอะไร? และแตกต่างประกันสุขภาพ IPD อย่างไร? ทำความเข้าใจก่อนตัดสินใจซื้อ

ทำความรู้จักประกัน OPD

ไม่ว่าจะเพศใด ประกอบอาชีพอะไร อายุมากหรือน้อย การมีประกันสุขภาพติดตัวไว้ จะช่วยเป็นหลักประกันในการใช้ชีวิต ให้คุณไม่กังวลเมื่อเจ็บป่วย ซึ่งความคุ้มครองหลัก ๆ ของประกันสุขภาพก็มีทั้งประกัน OPD และประกัน IPD* โดยวันนี้เราจะพาไปทำความรู้จักกับประกันสุขภาพ OPD หรือประกันสุขภาพผู้ป่วยนอก พร้อมแนะนำวิธีเลือกซื้อประกัน OPD เพื่อให้ผู้ที่กำลังวางแผนซื้อประกันได้ทำความเข้าใจก่อนลงสนามจริง

ผู้ป่วยนอก (OPD) คืออะไร

ผู้ป่วยนอก หรือ OPD ย่อมาจาก Out-Patient Department คือ ผู้ป่วยที่รับการรักษาแบบไม่ต้องนอนพักรักษาตัวที่โรงพยาบาล เมื่อตรวจรักษาและจ่ายยาเรียบร้อย สามารถกลับบ้านได้เลย หรือรอสังเกตอาการน้อยกว่า 6 ชั่วโมง ซึ่งส่วนใหญ่ผู้ป่วยนอกจะเข้ารับการรักษาอาการเจ็บป่วยที่ไม่รุนแรง ไม่จำเป็นต้องนอนรอดูอาการ เช่น ไข้หวัดธรรมดา ผดผื่น คัน

ทำความเข้าใจประกันสุขภาพ OPD

ทำความเข้าใจประกันสุขภาพ OPD (ผู้ป่วยนอก) และ IPD (ผู้ป่วยใน)

ประกันสุขภาพ OPD คืออะไร?

ประกัน OPD หรือประกันสุขภาพ OPD คือ ประกันที่คุ้มครองค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลของผู้ป่วยนอกที่ไม่ต้องนอนพักฟื้นที่โรงพยาบาล ซึ่งค่าใช้จ่ายของผู้ป่วยนอกจะอยู่ในรูปแบบค่าปรึกษาแพทย์ ค่ารักษาพยาบาล ฉีดยา ทำแผล ค่ายารักษาโรค เป็นต้น

ประกันสุขภาพ OPD กับ IPD ต่างกันอย่างไร?

ประกันสุขภาพ OPD กับ IPD ต่างกันตรงที่ประกัน OPD จะดูแลครอบคลุมการรักษาแบบผู้ป่วยนอก การรักษาที่แพทย์ลงความเห็นว่ากลับไปรักษาตัวต่อที่บ้านได้ และไม่ได้ทำการรักษาเกินกว่า 6 ชั่วโมง ในขณะที่ประกัน IPD จะดูแลค่ารักษาพยาบาลของผู้ป่วยใน ผู้ป่วยที่ต้องอยู่โรงพยาบาลเกินกว่า 6 ชั่วโมง ไม่สามารถกลับบ้านได้เลยหลังการวินิจฉัยของแพทย์

ข้อดีของการทำประกันสุขภาพ OPD

ข้อดีของการทำประกันสุขภาพ OPD (ผู้ป่วยนอก)

ความคุ้มค่าในการรักษาพยาบาล

ประกัน OPD จะมีวงเงินในการรักษาพยาบาล เมื่อต้องไปหาหมอและมีค่ารักษาไม่เกินวงเงินที่กำหนดก็ไม่ต้องจ่ายเพิ่ม ทำให้มีความคุ้มค่าในการรักษาพยาบาล โดยเฉพาะประกันสุขภาพ OPD เหมาจ่าย ที่ดูแลค่ารักษาพยาบาลแบบเหมา ๆ จ่ายค่ารักษาตามจริง ไม่กำหนดวงเงินค่ารักษาแยกเป็นรายการ ทำให้หมดกังวลว่าวงเงินความคุ้มครองจะพอหรือไม่

ความสะดวกสบายในการเข้าถึงบริการสุขภาพ

ประกัน OPD เป็นทางเลือกของคนที่ต้องการได้รับบริการด้านสุขภาพที่ดีขึ้น สามารถใช้บริการทางการแพทย์โดยไม่ต้องกังวลเรื่องค่าใช้จ่าย เพราะบริษัทประกันจะเข้ามาช่วยดูแลค่ารักษาพยาบาลตามวงเงินที่ได้เลือกไว้ ไม่ว่าค่ารักษาพยาบาลนั้นจะเกิดจากการเจ็บไข้ได้ป่วย หรือเกิดจาก

ความมั่นใจในการรักษาโรค

อย่างที่เราทราบกันว่าอาการป่วยของผู้ป่วยนอกจะไม่รุนแรงมากนัก ทำให้บางครั้งผู้ป่วยเลือกที่จะรักษาด้วยตัวเอง รอให้อาการดีขึ้นเอง เพราะอยากประหยัดเงิน แต่ถ้าเรามีประกัน OPD อยู่ในมือ จะมีความมั่นใจในการรักษาโรคมากขึ้น ไม่ต้องกังวลว่าจะไปโรงพยาบาลไหนดี เพราะมีวงเงินเพียงพอต่อค่ารักษาแน่นอน

ประกันลดหย่อนภาษีได้

การทำประกันสุขภาพนอกจากจะได้รับความคุ้มครองแล้ว ยังสามารถนำค่าเบี้ยประกันไปใช้สิทธิ์ลดหย่อนภาษีตามเงื่อนไขที่สรรพากรกำหนดได้อีกด้วย

วิธีเลือกซื้อประกัน OPD ให้คุ้มค่ามากที่สุด

วิธีเลือกซื้อประกัน OPD (ผู้ป่วยนอก) ให้คุ้มค่ามากที่สุด

ใครที่วางแผนซื้อประกัน OPD แต่ไม่รู้ว่าจะเลือกประกันสุขภาพ OPD ที่ไหนดี ลองมาดูวิธีเลือกซื้อประกัน OPD ให้คุ้มค่ามากที่สุด ดังนี้

สำรวจสวัสดิการ ความคุ้มครองที่มีอยู่

ก่อนจะเลือกซื้อประกัน OPD ควรที่จะสำรวจสวัสดิการที่ตนเองมีอยู่ เช่น พนักงานบริษัทจะมีสวัสดิการ หรือประกันสุขภาพภาพแบบกลุ่มที่บริษัททำให้ หากสำรวจแล้วพบว่าสิทธิ์ที่ได้รับไม่เพียงพอและไม่ครอบคลุมการรักษา ให้เริ่มมองหาประกันสุขภาพเพิ่มเติมได้เลย

พิจารณาเบี้ยประกันที่ต้องจ่าย

สาเหตุหลักที่คนยกเลิกกรมธรรม์ คือ การขาดสภาพคล่องทางการเงิน ดังนั้นก่อนเลือกซื้อประกัน OPD ควรพิจารณาเบี้ยประกันที่ต้องจ่าย โดยจำนวนเบี้ยประกันที่ดีควรสอดคล้องกับรายได้ และให้ความคุ้มครองที่เหมาะสม เพื่อให้เราสามารถชำระเบี้ยประกันได้ครบสัญญาโดยไม่กระทบเงินส่วนอื่น หากใครที่มีภาระค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ที่ต้องรับผิดชอบจะต้องคำนวณดี ๆ ว่าไหวแค่ไหน โดยค่าเบี้ยประกันที่แนะนำจะอยู่ที่ 10%-20% ของรายได้ต่อปี

ตรวจสอบแผนความคุ้มครอง

ก่อนเลือกซื้อประกันอย่าลืมที่จะตรวจสอบแผนความคุ้มครอง เพราะประกัน OPD แต่ละบริษัทก็มีรายละเอียดความคุ้มครองที่แตกต่างกัน ดังนั้นควรตรวจสอบให้ละเอียด ไม่ว่าจะเป็นค่ารักษาพยาบาลต่อครั้ง/ต่อปี ได้รับความคุ้มครองจนถึงอายุเท่าใด ซื้อประกัน OPD แล้วคุ้มครองเลยไหม มีระยะเวลารอคอยเท่าใด โรงพยาบาลใดบ้างที่สามารถใช้สิทธิ์ได้ มีข้อยกเว้นความคุ้มครองใดบ้าง การทำความเข้าใจแผนความคุ้มครองจะทำให้เราเลือกประกันได้อย่างคุ้มค่าที่สุด

เลือกประกัน OPD แยกค่าใช้จ่าย VS เหมาจ่าย

ประกัน OPD มีทั้งประกันสุขภาพ OPD เหมาจ่าย และแบบแยกค่าใช้จ่าย หากเป็นคนที่เจ็บเล็กเจ็บน้อย อยากได้ประกัน OPD เพิ่มเติมสวัสดิการเดิมที่มีอยู่แล้ว ประกันสุขภาพ OPD แบบแยกค่าใช้จ่ายก็เป็นทางเลือกที่น่าสนใจ แต่หากต้องการความคุ้มครองที่ครอบคลุมแบบไม่ต้องกังวลว่าค่ารักษาจะเกินวงเกินหรือไม่ ประกันสุขภาพ OPD เหมาจ่ายจะตอบโจทย์มากกว่า เพราะเหมาจ่ายแบบไม่จำกัดค่ารักษาต่อครั้ง ดังนั้นเลือกให้ตรงกับความต้องการของคุณเพื่อให้ได้รับความคุ้มค่ามากที่สุด

อ่านมาถึงตรงนี้ หลายคนคงเริ่มสนใจอยากจะทำประกัน OPD กันมากขึ้น เพราะประกัน OPD ช่วยอำนวยความสะดวกในการดูแลค่ารักษาพยาบาลแบบผู้ป่วยนอกให้คุณได้เป็นอย่างดี อย่างไรก็ตามไม่ว่าจะเลือกประกัน OPD IPD ที่ไหนดี สิ่งสำคัญก่อนทำประกัน คือ การศึกษารายละเอียดและเงื่อนไขของกรมธรรม์อย่างถี่ถ้วน และเลือกให้ครอบคลุมกับความต้องการของคุณ เพื่อให้ประกันดูแลคุณและคนที่คุณรักในระยะยาว

ประกันแบบไหนที่ใช่ที่สุดสำหรับคุณ

เริ่มค้นหา

ผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้อง

back to top