ทางเลือกเพิ่มเงินของคนรุ่นใหม่วัยทำงาน

ลงทุนแบบคนรุ่นใหม่ ทำอย่างไรให้ลงทุนแล้วได้เงินภาษีคืน ยิ่งฐานภาษีสูงยิ่งได้คืนมาก ระหว่างทางมีเงินปันผล ​


● คนวัยทำงาน พอรายได้เกินเดือนละ 26,000 บาทขึ้นไป จะเริ่มเสียภาษี

● SSF ทางเลือกในการลงทุนสำหรับคนรุ่นใหม่ ที่ลงทุนแล้วได้เงินภาษีคืน ยิ่งฐานภาษีสูงยิ่งได้คืนมาก ระหว่างทางมีเงินปันผล

คนรุ่นใหม่ไฟแรง หลังเรียนจบแล้วไม่ว่าจะเลือกทำงานอะไร เมื่อมีรายได้ก็มีหน้าที่ต้องยื่นภาษี แต่จะเสียภาษีก็ต่อเมื่อมีรายได้เดือนละ 26,000 บาทขึ้นไป ตามสไตล์ของคนรุ่นใหม่มักชอบอะไรที่รวดเร็วทันใจ เห็นผลลัพธ์ทันที แต่บางอย่างต้องใช้เวลา หากแผนระยะยาวนั้นให้ผลลัพธ์ที่คุ้มค่าสมกับการรอคอยก็น่าสนใจ อย่างการลดหย่อนภาษีด้วยกองทุนรวมเพื่อการออมหรือที่รู้จักกันในชื่อ “กองทุนรวม SSF” นั่นเอง

เหตุผลดีดีที่คนรุ่นใหม่ควรลดหย่อนภาษี

มีเหตุผลดีดีมากมายที่คนรุ่นใหม่ควรลดหย่อนภาษีด้วยกองทุนรวม SSF จะมีเหตุผลอะไรบ้างนั้นมาดูกัน
1. ลงทุนแล้วได้เงินภาษีคืนทันที เรียกว่าเห็นผลทันตา เพราะหลังจากที่เรายื่นภาษีโดยใช้สิทธิลดหย่อนด้วยกองทุนรวม SSF ไปแล้ว หลังจากนั้นไม่นานก็จะได้รับเงินคืนภาษีเข้าบัญชีทันที เหมือนได้โบนัสเพิ่มก็ว่าได้ ส่วนจะได้คืนภาษีมากน้อยแค่ไหนก็ขึ้นอยู่กับฐานภาษีของเรา ยิ่งฐานภาษีสูงก็ยิ่งได้เงินคืนภาษีมาก เช่น ฐานภาษี 20% ซื้อกองทุนรวม SSF 50,000 บาท ก็จะได้เงินคืนภาษีกลับมาถึง 10,000 บาทเลยทีเดียว หากลงทุนแบบนี้สม่ำเสมอทุกปี ก็จะได้เงินคืนกลับมาทุกปี ปีละ 10,000 บาท ถ้าลงทุน 10 ปี เงินคืนภาษีที่ได้กลับมารวมๆ กันแล้วกลายเป็นเงินก้อน 100,000 บาทได้สบายๆ

2. ลงทุนไปแล้วยังไม่หายได้ปันผลระหว่างทาง เงินที่เราลงทุนไปก็ไม่ได้หายไปไหน อยู่ในกองทุนรวม ถือเป็นเงินลงทุนระยะยาวของเราที่สามารถนำไปใช้ได้ในอนาคต ส่วนระยะเวลาลงทุน 10 ปีเต็มที่หลายคนมองว่านานนั้น อยากให้มองเรื่องนี้เป็นเรื่องรอง แล้วมุ่งไปที่ประโยชน์ที่จะได้รับคือ การมีเงินก้อนและผลตอบแทนจากการลงทุนที่งอกเงยขึ้นมามากกว่า แต่หากใครรู้สึกเสียดายว่าเงินถูกขัง อยากได้เงินคืนระหว่างทางบ้าง ก็สามารถเลือกลงทุนกองทุนรวม SSF ที่มีนโยบายจ่ายปันผลได้เช่นกัน

3. ช่วยเร่งสปีดเงินเก็บ หากนำเงินคืนภาษีที่ได้รับในแต่ละปีมาลงทุนต่อจะยิ่งเป็นการติดสปีด ทำให้มีเงินก้อนตามที่ต้องการได้เร็วขึ้น เหมือนมีคนช่วยออมเพิ่มอีกแรง ไม่ว่าจะนำเงินคืนนั้นมาลงทุนในกองทุนรวม SSF ในปีถัดไปหรือลงในกองทุนรวมทั่วไปก็ตาม เช่น นำเงินคืนภาษี 100,000 บาท มาลงทุนในกองทุนรวมผสม โดยคาดหวังผลตอบแทน 5% ต่อปี ผ่านไป 20 ปี จะมีเงินก้อนถึง 265,330 บาท แถมระหว่างทางยังสามารถสับเปลี่ยนกองทุนไปยังกองทุน SSF ด้วยกันได้ หากสถานการณ์การลงทุนเปลี่ยนไป หรือรับความเสี่ยงได้มากขึ้นหรือน้อยลง เรียกว่ามีความยืดหยุ่นพอสมควรเลย

4. กองทุนหลากหลาย มีกองทุนให้เลือกมากมาย หลากหลายประเภท ไม่ว่าจะเป็นกองทุนที่ลงทุนในตราสารหนี้ หุ้น ผสม (ตราสารหนี้และหุ้น) มีทั้งที่ลงทุนในไทยและต่างประเทศ และไม่ว่าจะชอบเสี่ยงมาก เสี่ยงน้อย หรือเสี่ยงกลางๆ ก็มีให้เลือกหมด เรียกว่าตอบโจทย์ความต้องการของคนรุ่นใหม่สุดๆ

ยกตัวอย่าง คนที่รับความเสี่ยงได้สูง สนใจลงทุนหุ้นต่างประเทศ ฟังข่าวมาว่าหุ้นต่างประเทศกำลังมาแรง ยิ่งเป็นธุรกิจที่กำลังเติบโตตามเทรนด์โลก ก็สามารถลงทุนในกองทุน K-CHANGE-SSF จากกสิกรไทย ที่ไปลงทุนในหุ้นกลุ่มการแพทย์ สิ่งแวดล้อม การศึกษา ที่กำลังมาแรงทั่วโลก โดยมีผลการดำเนินงานย้อนหลัง 1 ปีอยู่ที่ 36.43% ซึ่งสูงสุดในกลุ่มกองทุน SSF ที่มีนโยบายลงทุนในต่างประเทศ และติดอันดับกองทุน 5 ดาวจาก Morningstar (ข้อมูล ณ วันที่ 30 ก.ย. 64) อีกทั้งยังมีผลการดำเนินงานย้อนหลัง 1 ปีอยู่ที่ 36.43% ซึ่งสูงสุดในกลุ่มกองทุน SSF ที่มีนโยบายลงทุนในต่างประเทศเช่นกัน ยกตัวอย่างบริษัทดังๆ ที่รู้จักกันดี เช่น Moderna บริษัทผลิตวัคซีนโควิด-19 และ TSMC บริษัทสัญชาติไต้หวัน ผู้ผลิต Semiconductor ที่ใหญ่ที่สุดในโลก เป็นต้น

คำแนะนำ
- วัยทำงานควรซื้อกองทุนรวม SSF เพื่อลดหย่อนภาษี
- เลือกลงทุนกองทุนรวม SSF ให้เหมาะกับระดับความเสี่ยงที่รับได้
- ทำความเข้าใจเงื่อนไขการลงทุนและปฏิบัติตามเงื่อนไขให้ถูกต้อง

ลดหย่อนภาษีด้วยกองทุนรวม SSF ไม่ใช่เรื่องยาก หากเข้าใจและใช้สิทธิลดหย่อนอย่างถูกวิธี นอกจากจะมีเงินก้อนไว้ใช้ในอนาคตแล้ว ยังได้เงินคืนภาษีทันที เรียกว่า ยิงปืนนัดเดียวได้นกถึงสองตัวเลยทีเดียว