K WEALTH / บทความ / Market Update / ประเด็นร้อน: กองทุนผสมยังยืนได้ ในสภาวะตลาดผันผวนเพราะสงคราม
29 เมษายน 2567
2 นาที

ประเด็นร้อน: กองทุนผสมยังยืนได้ ในสภาวะตลาดผันผวนเพราะสงคราม


​​​​​​​​​​​​“

• อิหร่านเปิดฉากโจมตีทางอากาศใส่อิสราเอล สร้างความวิตกกังวลให้กับนักลงทุนทั่วโลก ว่าสงครามครั้งนี้จะขยายวงกว้างเพิ่มเติมอีกหรือไม่ เป็นหนึ่งในเหตุผลที่ทำให้หุ้นลงช่วงที่ผ่านมา


• เงินเฟ้อที่เกิดความหนืด ส่งผลให้โอกาสลดดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯลดลงนั้น ทำให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐพุ่งสูงขึ้น ราคาตราสารหนี้จึงปรับตัวลง


• หากดูสถิติย้อนหลังจะพบว่าปัจจัยเหล่านี้ เป็นเพียงปัจจัยระยะสั้นที่เข้ามากระทบกับตลาด หากสามารถลงทุนระยะยาวได้ โอกาสที่เงินจะงอกเงยก็มีสูง





หลายคนที่ลงทุนในกองทุนผสมของกสิกรไทย ไม่ว่าจะเป็นกองทุนผสมกลุ่ม WealthPlus Series หรือแม้แต่ กลุ่ม K-PLAN รวมถึงกองทุน K-GINCOME คงเกิดคำถามว่า “ทำไมราคากองทุนเหล่านี้ถึงปรับตัวลง” แล้วกองทุนเหล่านี้ยังน่าสนใจอยู่หรือไม่ วันนี้ K WEALTH พร้อมตอบคำถามทุกข้อสงสัย



การปรับตัวลงของกองทุนผสม

ทำความเข้าใจก่อนว่ากองทุนผสม จะลงทุนในหลากหลายสินทรัพย์ทั้งหุ้น ตราสารหนี้ และสินทรัพย์ทางเลือก ขึ้นอยู่กับนโยบายการลงทุนของแต่ละกองทุนผสม โดยส่วนใหญ่หากกองทุนผสมมีสัดส่วนหลักในหุ้น ราคากองทุนมักมีความผันผวนที่สูงกว่ากองทุนผสมที่มีสัดส่วนหลักเป็นตราสารหนี้หรือสินทรัพย์ทางเลือก ดังนั้นจึงคาดได้ว่าหากกองทุนผสมกองใดที่ราคามีการปรับตัวลงช่วงที่ผ่านมา “สูง” อาจมีสัดส่วนหลักเป็นหุ้น ในทางตรงข้ามหากปรับตัวลงมาไม่มากนัก อาจคาดได้ว่ามีสัดส่วนหลักเป็นตราสารหนี้หรือสินทรัพย์ทางเลือก นี่จึงเป็นสาเหตุหนึ่งที่ส่งผลให้แต่ละราคาแต่ละกองทุนผสมมีความเคลื่อนไหวต่างกัน แล้วการปรับลงของทั้งตลาดหุ้น และราคาตราสารหนี้ ในช่วงที่ผ่านมาเกิดจากสาเหตุอะไร?​




อิหร่านโจมตีอิสราเอล ทำหุ้นทั่วโลกปรับตัวลง

​14 เมษายน 2024 อิหร่านเปิดฉากโจมตีทางอากาศใส่อิสราเอล สร้างความวิตกกังวลให้กับนักลงทุนทั่วโลก ว่าสงครามครั้งนี้อาจขยายวงกว้าง และจะกระทบต่อราคาน้ำมันและเศรษฐกิจในอนาคต ประกอบกับในช่วงที่ผ่านมานักลงทุนต่างทยอยขายทำกำไร หลังตลาดหุ้นทั่วโลกปรับตัวขึ้นมาตั้งแต่ต้นปี จึงสรุปได้ว่า 2 ปัจจัยดังกล่าวทั้งความกังวลและจังหวะขายทำกำไรของนักลงทุน ทำให้ดัชนีตลาดหุ้นทั่วโลกปรับตัวลง เช่น ตลาดหุ้นสหรัฐฯ (S&P 500) ตลาดหุ้นญี่ปุ่น (NIKKEI 225) ตลาดหุ้นอินเดีย (SENSEX) และตลาดหุ้นยุโรป (STOXX 600)



Bond Yield สหรัฐฯ ดีดขึ้น ทำราคาตราสารหนี้ทั่วโลกร่วง

​ก่อนหน้านี้มีนักลงทุนคาดว่าปี 2024 จะเห็นการปรับลดอัตราดอกเบี้ยจำนวน “หลายครั้ง” ของธนาคารกลางสหรัฐฯ (FED) ซึ่งจะมีอิทธิพลต่อการลดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางทั่วโลก แต่เหตุการณ์เริ่มไม่เป็นไปคาด หลังเงินเฟ้อสหรัฐฯ ยังคงไม่ปรับตัวลง และมีอยู่ในระดับสูงกว่าที่คาดไว้ ยกตัวอย่างเช่น ดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) ในไตรมาส 1 พุ่งขึ้น 3.4% ซึ่งสูงกว่าในไตรมาส 4 ปีก่อน ที่ปรับตัวขึ้น 1.8% ส่วนดัชนี PCE พื้นฐาน (Core PCE) ซึ่งไม่นับรวมหมวดอาหารและพลังงาน พุ่งขึ้น 3.7% สูงกว่าในไตรมาส 4/2566 ที่เพิ่มขึ้น 2.0% นักลงทุนจึงปรับมุมมองโดยคาดว่า FED จะไม่ลดดอกเบี้ยเร็วอย่างที่คาดก่อนหน้านี้ ส่งผลให้ Bond Yield หรืออัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ปรับตัวขึ้น กดดันราคาตราสารหนี้ให้ “ปรับตัวลง” ซึ่งกระทบสินทรัพย์ประเภทตราสารหนี้ในกองทุนผสม




แนะนำลงทุนระยะยาว

แม้ว่าระยะสั้นตลาดจะได้รับผลกระทบจากปัจจัยสงครามหรือปัจจัยทางเศรษฐกิจอื่น แต่หากดูสถิติย้อนหลังจะพบว่าปัจจัยเหล่านี้ เป็นเพียงปัจจัยระยะสั้นที่เข้ามากระทบกับตลาด และยังส่งผลดีต่อการลงทุนระยะยาว โดยภาพด้านล่างเป็นการแสดงให้เห็นว่า หากลงทุนแต่ละสินทรัพย์ในระยะยาว ด้วยกรอบเวลา 10 ปี (26 เม.ย. 57 – 25 เม.ย. 67) ผลตอบแทนเฉลี่ยต่อปี ของสินทรัพย์ส่วนใหญ่จะเป็นบวก สะท้อนว่าการลงทุนในระยะยาวยังให้ผลตอบแทนที่น่าสนใจและช่วยลดความผันผวนจากปัจจัยระยะสั้น​






มุมมองกองทุนผสม

​กองทุนกลุ่ม K-WealthPlus Series, K-PLAN และกองทุน K-GINCOME แม้จะมีการปรับตัวย่อลงมา แต่ย่อลงมาในสัดส่วนที่น้อยกว่าเมื่อเทียบกับกองทุนหุ้น เพราะกองทุนมีการกระจายการลงทุนหลากหลายสินทรัพย์ เมื่อเกิดความผันผวน กองทุนจะได้รับผลกระทบน้อยกว่า และด้วยนโยบายการลงทุนที่เปิดกว้าง ลงทุนได้หลากหลายสินทรัพย์ ผู้จัดการกองทุนจึงมีความยืดหยุ่นในการปรับพอร์ตเพื่อลดความเสี่ยง และสามารถจับจังหวะการลงทุนสร้างโอกาสรับผลตอบแทนที่ดีในจังหวะที่แต่ละสินทรัพย์เป็นขาขึ้น ดังนั้นกองทุนผสมจึงสามารถถือลงทุนระยะยาวได้ และสามารถทยอยลงทุนเพิ่มได้โดยเฉพาะเมื่อตลาดการลงทุนย่อตัว 



คำแนะนำ​

สำหรับผู้ที่ถือกองทุนผสม ไม่ว่าจะเป็นกองทุนกลุ่ม K-WealthPlus Series K-PLAN และกลุ่ม K-GINCOME แบ่งเป็น 2 กรณี 

• กรณีมีกำไร แนะนำถือต่อ เพราะการย่อตัวครั้งนี้ เป็นการย่อตัวระยะสั้น ยังมีโอกาสที่กองทุนผสมจะปรับตัวขึ้นได้ในระยะยาว สามารถใช้จังหวะย่อตัว แบ่งเงิน แบ่งไม้ ทยอยลงทุนเพิ่มได้ 

• กรณีขาดทุน แนะนำถือต่อ เพราะยังมีโอกาสปรับตัวขึ้นได้ในระยะยาว สามารถใช้จังหวะย่อตัวทยอยแบ่งเงิน แบ่งไม้ ทยอยลงทุน เพื่อถัวเฉลี่ยให้ต้นทุนให้ต่ำลงในจังหวะนี้ได้ สำหรับผู้ที่ยังไม่มีกองทุนผสม และรับความเสี่ยงได้ต่ำ แนะนำลงทุนกองทุน K-WPBALANCED ​


สำหรับผู้ที่ยังไม่มีกองทุนผสม และรับความเสี่ยงปานกลาง แนะนำลงทุนกองทุน K-WPSPEEDUP


สำหรับผู้ที่ยังไม่มีกองทุนผสม และรับความเสี่ยงได้สูง แนะนำลงทุนกองทุน K-WPULTIMATE



บทความโดย K WEALTH Trainer

ผลิตภัณฑ์ที่แนะนำ

KBank LIVE
 

ติดตามข่าวสารการเงินจาก
K WEALTH ฟรี!