ประเด็นร้อน: สหรัฐเงินเฟ้อยังไม่จบ ล่าสุด ม.ค. สูงกว่าคาด

เมื่อวันที่ 13 ก.พ. ที่ผ่านมา สหรัฐฯได้เปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายของผู้บริโภค ประจำเดือน ม.ค. ออกมา 3.1% สูงกว่าคาดที่ 2.9% ทำให้ตลาดเริ่มไม่แน่ใจว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในช่วงใด แต่ก็เป็นที่แน่นอนแล้วว่าการประชุมนโยบายการเงินในเดือนมี.ค.นี้จะคงดอกเบี้ยไว้ หลังการประกาศตัวเลขเงินเฟ้อ ส่งผลให้ดัชนีดาวโจนส์ปิดลบ 1.35% ซึ่งเป็นการปรับลดลงภายในวันมากที่สุด นับตั้งแต่เดือน มี.ค. 2023 อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ (บอนด์ยีลด์) พุ่งทะลุ 4.3% กดดันสินทรัพย์อื่นทั้งหุ้นทั่วโลกและทองคำปรับตัวลง เงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้น ค่าเงินบาทอ่อนค่าแตะ 36.10 อ่อนค่าลงที่สุดในรอบ 3 เดือน

ขณะที่ CPI ที่ออกมาสูงกว่าคาดยังสร้างแรงกดดันต่อหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีที่มี Market cap สูง อย่าง หุ้นไมโครซอฟท์ดิ่งลง 2% หุ้นอัลฟาเบท ร่วง 1.6% หุ้นอะเมซอน ร่วง 2.1% หุ้นเมตา แพลตฟอร์ม ร่วงลง 1.8% รวมถึงหุ้นกลุ่มบริษัทผลิตชิปก็ได้รับผลกระทบร่วงลงเป็นส่วนใหญ่ด้วย

ทั้งนี้ นักลงทุนได้เลื่อนการคาดการณ์โอกาสที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยออกไปเป็นเดือนมิ.ย. มีมากขึ้น จากเดิมที่คาดว่าจะปรับลดในเดือนพ.ค.

ขณะที่ในสัปดาห์นี้นักลงทุนจับตาข้อมูลเศรษฐกิจด้านอื่น ๆ อย่างจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงาน, ยอดค้าปลีกเดือน ม.ค., ดัชนีภาคการผลิต ฯลฯ ดังนั้นในระยะสั้นจาก sentiment เชิงลบ ทำให้ตลาดหุ้นสหรัฐฯจะมีความผันผวนอยู่บ้าง

คำแนะนำการลงทุน

​o ​นักลงทุนที่มีการลงทุนในกองทุนหุ้นสหรัฐฯ เช่น K-USA-A , K-US500X , K-USXNDQ-A , หรือ กองทุนที่มีสัดส่วนการลงทุนในหุ้นสหรัฐฯสูง อย่าง K-HIT-A , K-CHANGE-A ทีม K WEALTH ยังมีมุมมอง Slightly positive หรือมีมุมมองค่อนข้างบวก ในระยะยาวตลาดหุ้นสหรัฐฯยังมีการเติบโตสูง 

      o หากมีสัดส่วนไม่เกิน 30% ของเงินลงทุน ในช่วงที่ตลาดปรับตัวลงมาแรงถือเป็นจังหวะดี สามารถทยอยสะสมกองทุนหุ้นสหรัฐฯได้ 

      o หากมีสัดส่วนเกิน 30% ของเงินลงทุน แนะนำ กระจายการลงทุนไปยังกองทุนแนะนำอื่นเพื่อลดการกระจุกตัวในภูมิภาค เช่น K-JPX , K-VIETNAM 

o นักลงทุนที่ยังไม่มีกองทุนหุ้นสหรัฐฯและสนใจลงทุน แนะนำทยอยสะสมได้ ในภาวะที่ตลาดยังมีความผันผวนควรกระจายการลงทุนในบริษัทที่มีโอกาสเติบโตสูงในกองทุนแนะนำ เช่น K-HIT-A(A) , K-CHANGE-A(A) เนื่องจากมีการกระจายตัวของกลุ่มหุ้นและอุตสาหกรรมมากกว่า 

o นักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้น้อยหรือมีความกังวลต่อภาวะตลาด แนะนำ กระจายการลงทุนไปยังกองทุนผสม เช่น Wealth Plus

Disclaimer: “ทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทนและความเสี่ยงก่อนการตัดสินใจลงทุน”