K WEALTH / บทความ / Market Update / อัปเดตสถานการณ์และมุมมองการลงทุนกองทุน KTFT6
12 ธันวาคม 2566
2 นาที

อัปเดตสถานการณ์และมุมมองการลงทุนกองทุน KTFT6


​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​“

• กองทุน KTFT6 (กองทุนเปิดเค ไทย เฟล็กซิเบิ้ล ทริกเกอร์ 6) ตั้งเป้าหมาย 5% ภายใน 6 เดือน (หรือภายใน ก.พ. 2567) ปัจจุบัน ณ 4 ธ.ค. 66 NAV อยู่ที่ 8.6646 บาท


• ตลาดหุ้นไทย ยังมีปัจจัยหนุนในระยะสั้น และมี Downside จำกัด





มุมมองตลาด downside จำกัด

ผู้จัดการกองทุนของกองทุน KTFT6 มองว่าปัจจุบันมีปัจจัยที่จะช่วยหนุนให้ดัชนี SET ปรับตัวกลับขึ้นได้ในระยะสั้น ในขณะที่ Downside ในระดับปัจจุบันค่อนข้างจำกัด โดยมีปัจจัยหนุนคือ
1. แนวโน้มอัตราดอกเบี้ยเข้าใกล้จุดสูงสุด หุ้นจะกลับมามีความน่าสนใจลงทุน
2. การดำเนินนโยบายภาครัฐที่เน้นกระตุ้นเศรษฐกิจจะมีความชัดเจนและทยอยออกมาเป็นเม็ดเงินที่จะช่วยสร้างความมั่นใจให้กับนักลงทุน 
3. ผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนในไตรมาส 4/2566 และต่อเนื่องไปในปี 2567 ฟื้นตัวต่อเนื่อง ทั้งนี้ 
บลจ.กสิกรไทย คาดการณ์การเติบโตกำไรของบริษัทจดทะเบียนในปี 2567 ไว้ที่ +17% และคาด SET Index range target สิ้นปี 2567 ที่ระดับ 1,650-1,700 จุด 
4. ราคาตลาดหุ้นไทยอยู่ในระดับที่ดึงดูดนักลงทุน ในปัจจุบัน ณ 4 ธ.ค. 66 ดัชนี SET อยู่ที่ระดับประมาณ 1,387 จุด P/E Ratio อยู่ที่ระดับ 18.94 เท่า ซึ่งเป็นระดับที่ถูก เมื่อเทียบค่าเฉลี่ยในอดีต 5 ปีที่ 22.78 เท่า และ 10 ปีที่ 20.42 เท่า 
 


สิ่งที่ผู้จัดการกองทุนได้ทำไป 

Asset Allocation ผู้จัดการกองทุนมีการทยอยเข้าลงทุนหุ้นเพิ่มในช่วงที่ตลาดปรับตัวลดลงต่ำกว่า 1,500 จุด โดยลดการถือครองเงินสดจากมากกว่า 10% เป็นน้อยกว่า 5%

Theme การลงทุนหลัก เน้นการลงทุนในหุ้นที่ได้รับผลดีจากการปรับตัวทางเศรษฐกิจและมีแนวโน้มเติบโตขึ้นเร็วได้ในช่วงสั้น ดังนี้ 

• กลุ่มท่องเที่ยว คาดการณ์จำนวนนักท่องเที่ยวในปี 2566 ที่ 28 ล้านคนตามที่คาดหวัง และในปี 2567 ที่ 35 ล้านคน ซึ่งจะทำให้รายได้จากนักท่องเที่ยวต่างชาติเพิ่มสัดส่วนขึ้นจาก 6% เป็น 10%  ของ GDP  โดยหุ้นที่ได้รับประโยชน์จากการท่องเที่ยวนั้นรวมถึง หุ้นกลุ่ม Commerce หุ้นกลุ่ม Hotel  และหุ้นกลุ่ม Healthcare ด้วย

• กลุ่มที่ได้รับประโยชน์จากนโยบายของรัฐบาล เช่น นโยบายเงิน Digital Wallet 10,000 บาท จะช่วยหนุนการบริโภคในประเทศ และเพิ่ม GDP ได้ประมาณ 1.0-1.5% ทำให้เศรษฐกิจไทยปี 2567 เติบโตได้เกิน 4.0%  โดยหุ้นกลุ่ม Commerce จะเป็นหุ้นกลุ่มหลักที่ได้รับประโยชน์จากมาตรการนี้มากที่สุด โดยจะมีผลกำไรเพิ่มขึ้นประมาณ 2-5% 

• กลุ่มที่ได้รับประโยชน์จากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ ได้แก่ หุ้นกลุ่มการเงินและธนาคาร ที่ปัจจุบันระดับราคาซื้อขายไม่แพงและกำไรปรับตัวดีขึ้นตามการเติบโตของเศรษฐกิจไทย และในอนาคตหากมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายจะส่งผลดีต่อภาคธุรกิจที่จะกลับมาขอสินเชื่อมากขึ้น

ทั้งนี้ บลจ.กสิกรไทย ได้พยายามอย่างเต็มที่เพื่อค้นหาการลงทุนในหุ้นที่มีปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่ง และมีระดับราคาที่น่าสนใจ พร้อมปรับพอร์ตการลงทุนอย่างสม่ำเสมอ เพื่อสร้างโอกาสให้พอร์ตการลงทุนสามารถบรรลุเป้าหมายที่ตั้งไว้ได้


สาเหตุที่ราคากองทุนปรับตัวลง และปัจจัยที่เปลี่ยนแปลงจากที่เคยคาดไว้


ดัชนี SET ปรับตัวลงมาที่ระดับประมาณ 1,387 จุด (ณ 4 ธ.ค. 66) ต่ำกว่าที่เคยคาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ว่าดัชนี SET มีโอกาสน้อยที่จะปรับตัวต่ำกว่าระดับ 1,500 จุด สาเหตุหลักมาจากการปรับตัวขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯ และไทยมากกว่าที่คาดไว้ และสงครามอิสราเอล-ฮามาส ซึ่งเป็นสถานการณ์ที่ไม่สามารถคาดการณ์ได้ล่วงหน้า อย่างไรก็ตามปัจจุบันปัจจัยกดดันดังกล่าวได้คลี่คลายลงอย่างชัดเจน

ด้านหุ้นกลุ่ม Commerce ที่กองทุน Overweight มีการปรับตัวลงตามดัชนี SET เนื่องจากความไม่ชัดเจนในนโยบายกระตุ้นการบริโภคภายในประเทศอย่าง Digital Wallet อย่างไรก็ตามปัจจุบันนโยบายดังกล่าวมีความชัดเจนมากขึ้น โดยข้อมูล ณ วันที่ 6 ธ.ค. รัฐบาลได้มีการส่งหนังสือสอบถามไปยังคณะกรรมการกฤษฎีกาถึงการออก พ.ร.บ.กู้เงิน ที่จะใช้ในโครงการ Digital Wallet อีกทั้งยังมีความชัดเจนขึ้นเมื่อสภาพัฒน์ฯ ได้มีแถลงออกมาแล้ว และได้รวบรวมไว้ในหลักการและเหตุผลของการดำเนินโครงการให้ครบถ้วน จึงเป็นปัจจัยที่กลับมาหนุนหุ้นกลุ่ม Commerce ในระยะต่อจากนี้


กองทุนมีมุมมองและการจัดสัดส่วนลงทุนเปลี่ยนแปลงไปอย่างไร เมื่อเทียบกับช่วง IPO


กองทุนยังคงมีมุมมองเชิงบวกต่อหุ้นกลุ่ม Commerce ซึ่งมีโอกาสเติบโตได้โดดเด่นกว่ากลุ่มอุตสาหกรรมอื่น และมีแนวโน้มรับปัจจัยหนุนจากนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ เมื่อดัชนี SET ปรับตัวลง กองทุนจึงใช้โอกาสนี้เพิ่มสัดส่วนการลงทุนในหุ้นกลุ่ม Commerce ขึ้นอีก


ปัจจัยบวกต่อกองทุนและตลาดหุ้นไทยในไตรมาส 1 ของปี 67


ขณะเดียวกันคณะรัฐมนตรีเห็นชอบโครงการ Easy e-receipt ให้ประชาชนที่ไม่ได้เงินโครงการ Digital Wallet ใช้สอยในวงเงิน 5 หมื่นบาท กับร้านค้าที่ออกใบกำกับภาษี e-Tax Invoice & e-Receipt เพื่อนำไปลดหย่อนภาษี เป็นปัจจัยหนุนให้มีการบริโภคภายในประเทศเพิ่มขึ้น ซึ่งคาดว่าจะส่งผลดีต่อหุ้นกลุ่ม Commerce

ขณะเดียวกันคาดว่าช่วงต้นปีดัชนี SET จะได้รับแรงหนุนจากการปรับสัดส่วนพอร์ตการลงทุนของต่างชาติซึ่งทำเป็นประจำทุกต้นปีอันเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิด January Effect รวมถึงทุกต้นปีสถาบันการเงินมักปรับเพิ่มประมาณการดัชนี ทำให้คาดว่าดัชนี SET จะตอบรับต่อการปรับเพิ่มประมาณการดังกล่าวในช่วงต้นปีเช่นกัน รวมถึงยังมีเม็ดเงินลงทุนจากกองทุน TESG ที่จะจัดตั้งขึ้นในช่วงปลายปีนี้

อีกทั้งอัตราผลตอบแทนพันธบัตรที่ปรับตัวลง และคาดว่าธนาคารแห่งประเทศไทยจะไม่ขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก ทำให้แรงกดดันต่อตลาดหุ้นไทยลดลง และด้วยระดับมูลค่าดัชนี SET ในปัจจุบัน จึงคาดว่ามีโอกาสที่ดัชนี SET จะปรับตัวขึ้นได้


คำแนะนำการลงทุน


ปัจจุบัน - ก.พ. 67 ถึงแม้ยังไม่สามารถขายคืนหรือสับเปลี่ยนหน่วยลงทุนได้ เนื่องจากยังไม่ครบระยะเวลา 6 เดือน แต่ผู้จัดการกองทุนของกองทุน KTFT6 ยังคงค้นหาหุ้นดีน่าลงทุน มีการปรับพอร์ตอยู่เสมอ และยังพยายามทำเพื่อเป้าหมายผลตอบแทน 5% ภายใน ก.พ. 67

อย่างไรก็ตาม หากภายใน ก.พ. 67 หรือประมาณ 3 เดือนต่อจากนี้ หากผลตอบแทนของกองทุนยังไม่ถึงเป้าหมาย 5% ผู้ลงทุนสามารถพิจารณา
• ถือกองทุน KTFT6 ต่อ ด้วยเป้าหมายผลตอบแทน 5% เนื่องจากปี 67 ยังคงมีปัจจัยบวกหนุนให้ดัชนี SET ปรับตัวขึ้นได้ แม้จะเป็นช่วงหลัง ก.พ. 67 แล้วก็ตาม
• สำหรับผู้ที่กังวลกับตลาดหุ้นไทย หรือมองว่ากองทุนหุ้นต่างประเทศเป็นทางเลือกที่น่าสนใจกว่า แนะนำขายคืน (หลังครบกำหนด 6 เดือน) และนำเงินไปลงทุนกองทุน K-HIT ซึ่งมีการกระจายการลงทุนไปในหลากหลายธีมทั่วโลกที่มีโอกาสเติบโตสูงกว่าเศรษฐกิจในระยะยาว 

ขอขอบคุณข้อมูลจาก KAsset

คำเตือน
• มูลค่าหน่วยลงทุนเป้าหมายไม่ใช่การรับประกันผลตอบแทนจากการลงทุน หากหน่วยลงทุนมีมูลค่าไม่เป็นไปตามเป้าหมายภายในระยะเวลาที่กำหนด ผู้ลงทุนสามารถทำการขายคืนหน่วยลงทุนได้ทุกวันทำการ โดยเป้าหมายที่เป็นเหตุให้เลิกโครงการยังคงดำเนินอยู่ต่อไป ซึ่งเป้าหมายเลิกโครงการเป็นเป้าหมายก่อนหักค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจริง
• ผู้ลงทุนไม่สามารถขายคืนหน่วยลงทุนในช่วง 6 เดือนแรกได้ (ครบกำหนดประมาณ ก.พ. 67) หากมีปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่อการลงทุนในทางลบ ผู้ลงทุนอาจเห็นผลกระทบต่อราคาที่ลดลงกว่าต้นทุนได้
• กองทุนรวมนี้มีลักษณะเฉพาะและความเสี่ยงเฉพาะ โปรดทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน


สนใจและขอรับหนังสือชี้ชวนได้ที่ ธนาคารกสิกรไทย และผู้สนับสนุนการขายและรับซื้อคืนหน่วยลงทุน



บทความโดย K WEALTH Trainer
ประเด็นร้อน : กนง. คงดอกเบี้ย คาดเศรษฐกิจปีหน้าโตด้วยบริโภคภายใน ส่งออกฟื้น
โค้งสุดท้าย ทำความรู้จัก กอง TESG ก่อนเลือกลงทุนลดหย่อนภาษี
ประเด็นร้อน: ตลาดหุ้นไทยปรับตัวลงสุดแล้วหรือยัง
KBank LIVE
 

ติดตามข่าวสารการเงินจาก
K WEALTH ฟรี!