ประเด็นร้อน : ดัชนี PMI ของจีนสูงเกินคาด บ่งชี้เศรษฐกิจจีนฟื้น แนะเก็บกองทุน K-CHINA เพิ่ม

"

• ตลาดหุ้นฮ่องกงปรับตัวเพิ่มขึ้นหลังจากทางการจีนเปิดเผยตัวเลขดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตและภาคบริการสูงกว่าคาดในเดือนก.พ. ชี้ให้เห็นว่าเศรษฐกิจจีนเริ่มฟื้นตัว

• ผู้ที่ถือกองทุนหุ้นจีน เช่น กองทุน K-CHINA, K-CHX, K-CCTV แนะนำถือลงทุนต่อ ส่วนผู้ที่ต้องการลงทุนเพิ่มสามารถทยอยลงทุนได้

"

1 มี.ค. 66 ตลาดหุ้นฮ่องกงและจีนปรับตัวเพิ่มขึ้น โดยดัชนี HSCEI +5.06% HSI +4.21% CSI 300 +1.26% เทียบกับวันก่อนหน้า ทำให้กองทุนหลักของ K-CHINA (JPM China) ราคาปรับตัวเพิ่มขึ้น +4.13% เทียบกับวันก่อนหน้า และส่งผลให้กองทุนหุ้นจีนอย่างกองทุน K-CHINA, K-CHX, K-CCTV ณ 1 มี.ค. 66 ราคาปรับตัวเพิ่มขึ้น +3.94% +1.92% และ +1.82% เทียบกับวันก่อนหน้า ตามลำดับ

ทำไมหุ้นจีนถึงปรับตัวเพิ่มขึ้น

1 มี.ค. 66 ตลาดหุ้นฮ่องกงปรับตัวเพิ่มขึ้นหลังจากทางการจีนเปิดเผยดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตที่พุ่งแตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนเม.ย. 55 ซึ่งบ่งชี้ว่าเศรษฐกิจจีนเริ่มฟื้นตัว

สำนักงานสถิติแห่งชาติจีน (NBS) รายงานว่า ดัชนี PMI ภาคการผลิตเดือนก.พ.อยู่ที่ระดับ 52.6 เพิ่มขึ้นจากระดับ 50.1 ในเดือนม.ค. ซึ่งดีกว่าที่นักวิเคราะห์คาดที่ระดับ 50.5 และเป็นการขยายตัวในอัตราที่รวดเร็วที่สุดนับตั้งแต่เดือนเม.ย. 55 เป็นต้นมา ด้านดัชนี PMI ภาคบริการเดือนก.พ.อยู่ที่ระดับ 56.3 พุ่งขึ้นจากระดับ 54.4 ในเดือนม.ค. ซึ่งสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดไว้ที่ระดับ 55

สาเหตุที่ดัชนี PMI ภาคการผลิตและภาคบริการพุ่งสูงขึ้นเนื่องจากได้รับแรงหนุนจากการที่ผู้บริโภคมีความเชื่อมั่นมากขึ้นหลังจากรัฐบาลจีนประกาศยกเลิกการใช้นโยบายโควิดเป็นศูนย์ และเป็นสัญญาณที่บ่งชี้ให้เห็นว่าเศรษฐกิจจีนเริ่มฟื้นตัว โดยดัชนีที่อยู่เหนือระดับ 50 นั้นชี้ให้เห็นว่า ภาคการผลิตและภาคบริการของจีนมีการขยายตัว

มุมมองการลงทุน

• จีนเป็นประเทศเศรษฐกิจขนาดใหญ่ประเทศเดียวที่ยังไม่มีแรงกดดันด้านเงินเฟ้อใดๆ โดยเงินเฟ้อยังอยู่ในระดับต่ำและไม่เกินกรอบเป้าหมาย ทำให้รัฐบาลจีนสามารถใช้นโยบายการเงินแบบผ่อนคลายเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจต่อไปได้ ซึ่งแตกต่างจากประเทศแกนหลักอื่นๆ ที่ใช้นโยบายทางการเงินที่ตึงตัวมากขึ้น

• เศรษฐกิจปีนี้มีทิศทางฟื้นตัวชัดเจน ขณะที่ความกังวลของภาคอสังหาริมทรัพย์เริ่มเบาลง โดยรัฐบาลจีนมีแผนการกระตุ้นเศรษฐกิจในหลายภาคส่วนและสนับสนุนการเติบโตของเศรษฐกิจมากยิ่งขึ้น

• ด้านระดับราคาหุ้นจีนอยู่ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยระยะยาว และต่ำกว่าตลาดหุ้นหลักอื่นๆ ของโลก จึงเป็นปัจจัยดึงดูดให้นักลงทุนกลับมาให้ความสนใจลงทุนในประเทศจีน

• ปัจจัยที่ต้องจับตาคือ ความขัดแย้งระหว่างสหรัฐฯ กับจีนที่อาจสร้างความกังวลให้ตลาดเป็นระยะๆ

คำแนะนำการลงทุน

• ผู้ที่ถือกองทุนหุ้นจีน เช่น K-CHINA, K-CHX, K-CCTV ฯลฯ แนะนำถือลงทุนต่อ ส่วนผู้ที่ต้องการลงทุนเพิ่ม สามารถลงทุนเพื่อโอกาสรับผลตอบแทนในระยะยาวได้

• สำหรับผู้ที่กังวลกับความผันผวนของตลาดหุ้น แต่ยังคงรับความเสี่ยงจากการลงทุนได้หรือต้องการรับผลตอบแทนระยะยาว แนะนำลงทุนกองทุนผสม เช่น กองทุน K-GINCOME-A(A) ที่มีการแบ่งสัดส่วนและกระจายเงินลงทุนในสินทรัพย์ที่หลากหลายทั่วโลก ช่วยลดความผันผวนและความเสี่ยงจากการลงทุนในสินทรัพย์หรือหุ้นที่กระจุกตัวเพียงบางประเทศ

ขอขอบคุณข้อมูลจาก :

• KAsset

• Ryt9

Disclaimer: “ทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทนและความเสี่ยงก่อนการตัดสินใจลงทุน”

บทความโดย K WEALTH TRAINER สุวิมล ยิ่งเจริญรุ่งโรจน์ CFP®