K WEALTH / บทความ / Market Update / ประเด็นร้อน : จับจังหวะทำกำไรหุ้นสหรัฐ ช่วงลุ้นผลประชุม FED เดือน ก.พ.
25 มกราคม 2566
2 นาที

ประเด็นร้อน : จับจังหวะทำกำไรหุ้นสหรัฐ ช่วงลุ้นผลประชุม FED เดือน ก.พ.


​​​

"


• กองทุนหุ้นสหรัฐฯ อย่าง K-USA เผชิญความผันผวนจากความกังวลและความหวังของนักลงทุนในทิศทางดอกเบี้ย FED ประกอบกับเป็นช่วงที่บริษัทจดทะเบียนสหรัฐฯ ทยอยประกาศผลประกอบการ


• ผู้ที่ถือกองทุน K-USA หากตั้งใจถือสั้นกว่า 1-2 ปี แนะนำหาจังหวะขายหรือลดสัดส่วนการลงทุนลง


• ผู้ที่รับความเสี่ยงและลงทุนระยะยาวได้ แนะนำลงทุนเพิ่มกองทุน K-GINCOME-A(A) หรือ K-CHINA-A(A)


"


กองทุน K-USA ผันผวนสูง ในช่วงก่อนการประชุม FED โดยเมื่อวันจันทร์ที่ 23 ม.ค. 66 ราคากองทุนหลักของ K-USA (US Advantage Fund) ปรับตัวขึ้น +4.04%เทียบกับวันก่อนหน้า หลังจากวันพฤหัสบดีที่ 19 ม.ค. เพิ่งปรับตัวลง -4.06% เทียบกับวันก่อนหน้า


ทำไม กองทุน K-USA ปรับตัวขึ้น


วันที่ 23 ม.ค. ตลาดหุ้นสหรัฐฯ มีการปรับตัวขึ้นทั้ง 3 ตลาด ได้แก่ Nasdaq +2.01% S&P 500 +1.19% และ Dow Jones +0.76%เทียบกับวันก่อนหน้า โดยดัชนี Nasdaq ที่ส่วนใหญ่เป็นหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีปรับตัวขึ้นมากที่สุด ส่วนกองทุน K-USA ที่ส่วนใหญ่ลงทุนในหุ้นกลุ่ม Information Technology ด้วยสัดส่วน 37.13% (ณ 31 ธ.ค. 65) ก็มีการปรับตัวขึ้นตาม


หากพิจารณาหุ้น 10 อันดับแรกที่กองทุนหลักของ K-USA (US Advantage Fund) ลงทุนมากที่สุด ณ 31 ธ.ค. 65 พบว่า มี 7 หลักทรัพย์ ที่ราคา ณ 23 ม.ค. มีการปรับตัวขึ้นมากกว่า 3%เทียบกับวันก่อนหน้า มีสัดส่วนการลงทุนรวม 38.66%ของมูลค่ากองทุน โดยส่วนใหญ่เป็นหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี ได้แก่

• Snowflake Inc ผู้ให้บริการระบบ Cloud และเน้นจัดการฐานข้อมูล 
• ASML Holding NV ผู้วิจัยและพัฒนาเครื่องจักรที่ใช้สำหรับการพิมพ์ลายลงบนชิป
• Shopify Inc ผู้ให้บริการแพลตฟอร์ม E-commerce
• The Trade Desk, Inc ผู้ให้บริการการตลาดแพลตฟอร์มซอฟต์แวร์สำหรับผู้ซื้อโฆษณาดิจิทัล
• Cloudflare Inc ผู้ให้บริการซอฟต์แวร์ สร้างแพลตฟอร์มคลาวด์ที่ให้บริการเครือข่ายหลากหลายแก่ธุรกิจ 
• Datadog Inc ผู้ให้บริการแพลตฟอร์มมอนิเตอร์และเก็บข้อมูลความมั่นคงปลอดภัย
• ZoomInfo Technologies Inc ผู้ให้บริการแพลตฟอร์มข่าวกรองสู่ตลาดสำหรับทีมขายและการตลาดแบบ B2B 




ทำไม ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปรับตัวขึ้น


CME FedWatch Tool ได้สะท้อนว่านักลงทุนคาดการณ์ว่ามีแนวโน้ม 98.2% ที่การประชุม FED วันที่ 31 ม.ค. - 1 ก.พ. จะขึ้นดอกเบี้ยเพียง 0.25% ทำให้ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปรับตัวขึ้น 0.76% - 2.01%เทียบกับวันก่อนหน้า หลังจากที่เมื่อ 19 ม.ค. ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปรับตัวลง 0.76% - 0.96% เทียบกับวันก่อนหน้า จากการที่ตลาดกังวลว่า FED จะเร่งขึ้นดอกเบี้ยสูงกว่า 0.25% หลังข้อมูลแรงงานที่ออกมาแข็งแกร่ง ประกอบกับช่วงนี้บริษัทจดทะเบียนสหรัฐฯ มีการประกาศผลประกอบการบริษัท ซึ่งจากข้อมูล TradingView พบว่า ในวันที่ 23 ม.ค. มีบริษัทที่ประกาศผลประกอบการออกมาดีกว่าที่ตลาดคาดถึง 19 บริษัท จากที่ประกาศทั้งหมด 28 บริษัท จึงเป็นอีกหนึ่งปัจจัยหนุนให้วันดังกล่าวตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปรับตัวขึ้น


ทำไม ตลาดหุ้นสหรัฐฯ และกองทุน K-USA ยังคงผันผวน


จากข้อมูลดัชนีตลาดหุ้นสหรัฐฯ และราคากองทุน K-USA มีการปรับตัวลงแรง ในวันที่ 19 ม.ค. และขึ้นแรง ในวันที่ 23 ม.ค. ซึ่งห่างกันเพียง 2 วันทำการ ซึ่งมีปัจจัยหลักจากความกังวลและความคาดหวังในทิศทางดอกเบี้ย FED ประกอบกับช่วงนี้เป็นเทศกาลประกาศผลประกอบการบริษัทจดทะเบียนสหรัฐฯ ตลาดหุ้นสหรัฐฯ จึงมีความผันผวนมากกว่าปกติ โดยความผันผวนดังกล่าวอาจลดลงหลังรู้ผลการประชุม FED ในวันที่ 1 ก.พ. 66 (เช้าวันที่ 2 ก.พ. ตามเวลาประเทศไทย)

อีกทั้งกองทุน K-USA มีกลยุทธ์การลงทุนแบบเชิงรุก (active management) ที่เน้นลงทุนหุ้นเติบโตสูง รวมถึงมีการลงทุนหุ้นขนาดกลางและขนาดเล็ก ราคากองทุน K-USA จึงมีความผันผวนมากกว่าดัชนีตลาดหุ้นสหรัฐฯ ผู้ลงทุนกองทุน K-USA จึงควรเข้าใจความเสี่ยงดังกล่าว นอกเหนือไปจากการติดตามข้อมูลข่าวสารตลาดหุ้นสหรัฐฯ


คำแนะนำการลงทุน


• ผู้ที่ถือกองทุนหุ้นสหรัฐฯ เช่น K-USA, K-US500X, K-USXNDQ หากตั้งใจถือลงทุนไม่ถึง 1-2 ปี ซึ่งเป็นช่วงที่มีความเสี่ยงด้านเศรษฐกิจถดถอย แนะนำให้หาจังหวะขายหรือลดสัดส่วนการลงทุน เพื่อลดความผันผวนของพอร์ตโดยรวม ส่วนผู้ที่ต้องการลงทุน ยังไม่แนะนำให้เข้าลงทุน แม้ราคากองทุนหุ้นสหรัฐฯ เช่น กองทุน K-USA จะถือว่าค่อนข้างต่ำเมื่อเทียบกับราคาในช่วง 3 ปีที่ผ่านมาก็ตาม

• สำหรับผู้ที่คาดหวังผลตอบแทน รับความเสี่ยงได้ และมีเวลาติดตามสถานการณ์การลงทุน แนะนำให้ลงทุนกองทุนหุ้นจีน เช่น K-CHINA ที่ราคากองทุนปรับขึ้นมาตั้งแต่เดือน พ.ย. 65

• สำหรับผู้ที่ยังกังวลกับความผันผวนของตลาดหุ้น แต่ยังคงรับความเสี่ยงจากการลงทุนได้หรือต้องการรับผลตอบแทนระยะยาว แนะนำลงทุนกองทุนผสม เช่น กองทุน K-GINCOME-A(A) ที่มีการแบ่งสัดส่วนและกระจายเงินลงทุนในสินทรัพย์ที่หลากหลายทั่วโลก ช่วยลดความผันผวนและความเสี่ยงจากการลงทุนในสินทรัพย์หรือหุ้นที่กระจุกตัวเพียงบางประเทศ


ขอขอบคุณข้อมูลจาก :
•​ RYT9, TradingView, CME Group

Disclaimer: “ทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทนและความเสี่ยงก่อนการตัดสินใจลงทุน”



บทความโดย K WEALTH TRAINER ราชันย์ ตันติจินดา CFP®

ผลิตภัณฑ์ที่แนะนำ

KBank LIVE
 

ติดตามข่าวสารการเงินจาก
K WEALTH ฟรี!