ประเด็นร้อน : กลุ่มประเทศ G7 เล็งคุมราคาน้ำมันจากรัสเซีย แนะขายกองทุน K-OIL ทำกำไรก่อน

ราคาน้ำมันทั่วโลกดิ่งหวั่นกลุ่มประเทศ G7 คุมราคาน้ำมันจากรัสเซีย ทำให้กองทุนน้ำมัน K-OIL ได้รับผลกระทบไปด้วยตามลำดับ ถือเป็นจังหวะน่าขายทำกำไรในช่วงนี้

ประเด็นร้อน : กลุ่มประเทศ G7 เล็งคุมราคาน้ำมันจากรัสเซีย แนะขายกองทุน K-OIL ทำกำไรก่อน




● กลุ่มประเทศ G7 เตรียมกำหนดเพดานราคาน้ำมันรัสเซียไม่เกิน 70 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล สต็อกน้ำมันเบนซินของสหรัฐฯ พุ่งขึ้นมากกว่าคาด รวมถึงความกังวลจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในจีนที่พุ่งสูงขึ้น ส่งผลกระทบต่อความต้องการใช้น้ำมันที่ลดลง ทำให้ ณ 23 พ.ย. ราคากองทุน K-OIL ปรับตัวลดลง

● ผู้ที่ถือกองทุนน้ำมัน เช่น K-OIL พิจารณาขายคืนทั้งหมดหากมีกำไร



23 พ.ย. กองทุน K-OIL ปรับตัวลดลง -4.71% เทียบกับวันก่อนหน้า และในวันต่อมา ณ 24 พ.ย. ตลาดนิวยอร์กที่มีการซื้อขายน้ำมันดิบได้ปิดทำการเนื่องในวันขอบคุณพระเจ้า

ทำไมกองทุน K-OIL ถึงปรับตัวลดลง


กองทุน K-OIL ปรับตัวลดลงเกิดจาก 3 สาเหตุด้วยกันคือ

1. มีรายงานว่า กลุ่มประเทศอุตสาหกรรมชั้นนำทั้ง 7 หรือ G7 เตรียมกำหนดเพดานราคาน้ำมันรัสเซียในกรอบ 65-70 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล โดยเอกอัครราชทูตจาก 27 ประเทศของ EU กำลังหารือถึงข้อเสนอดังกล่าวของ G7 ทั้งนี้ กลุ่ม G7 รวมทั้ง EU และออสเตรเลียกำหนดบังคับใช้เพดานราคาน้ำมันรัสเซียดังกล่าวในวันที่ 5 ธ.ค. โดยจะมีผลบังคับใช้ต่อน้ำมันรัสเซียที่มีการขนส่งผ่านทางเรือบรรทุกน้ำมัน แต่ไม่รวมการขนส่งผ่านท่อส่งน้ำมัน ซึ่งถือเป็นมาตรการลงโทษที่รัสเซียส่งกำลังทหารบุกโจมตียูเครนในวันที่ 24 ก.พ. ทำให้รัสเซียมีรายได้ลดลงจากการจำหน่ายน้ำมันที่จะนำไปสนับสนุนการทำสงครามในยูเครน และยังช่วยป้องกันปัญหาการขาดแคลนน้ำมันในตลาด ซึ่งเมื่อมีการประกาศใช้จะทำให้บริษัทเดินเรือ บริษัทประกันวินาศภัย และบริษัทประกันภัยต่อ ไม่สามารถให้บริการใดๆ ที่เกี่ยวข้องกับการขนส่งคาร์โกน้ำมันรัสเซียที่มีราคาสูงกว่าเพดานที่กลุ่ม G7 และพันธมิตรกำหนดไว้ได้

2. สต็อกน้ำมันเบนซินของสหรัฐฯ พุ่งขึ้นมากกว่าที่คาด โดยรายงานของสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐฯ (EIA) ระบุว่า สต็อกน้ำมันเบนซินพุ่งขึ้น 3.1 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดดว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 200,000 บาร์เรล ชี้ให้เห็นถึงความต้องการใช้น้ำมันที่ลดลง

3. ความกังวลเกี่ยวกับจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในจีนที่พุ่งสูงขึ้น หลังพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่จำนวน 29,157 ราย ในวันที่ 22 พ.ย. ขณะที่เมืองสำคัญหลายแห่งของจีนตั้งแต่กรุงปักกิ่งไปจนถึงเซี่ยงไฮ้ได้ประกาศควบคุมการเดินทางของประชาชน และอาจทำให้จีนใช้มาตรการล็อกดาวน์เพื่อสกัดการแพร่ระบาดของโควิด-19 ซึ่งส่งผลกระทบต่อความต้องการใช้น้ำมันที่ลดลง

คำแนะนำการลงทุน


ผู้ที่ถือกองทุน K-OIL อยู่ ให้พิจารณาขายคืนทั้งหมดหากมีกำไร ส่วนผู้ที่ต้องการลงทุนเพิ่ม ไม่แนะนำให้ลงทุน

สำหรับผู้ที่ยังกังวลกับความผันผวนของตลาดหุ้น แนะนำพักเงินในกองทุน K-SF ซึ่งเหมาะกับการพักเงิน 3 เดือนขึ้นไป เพื่อรอจังหวะเข้าลงทุนอีกครั้ง


ขอขอบคุณข้อมูลจาก KAsset, Ryt9, The Bangkok Insight

Disclaimer: “ทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทนและความเสี่ยงก่อนการตัดสินใจลงทุน”



คำเตือน


ผู้เขียน

K WEALTH TRAINER สุวิมล ยิ่งเจริญรุ่งโรจน์ CFP®
Back to top