K WEALTH / บทความ / Market Update / ประเด็นร้อน : เกาะติดเศรษฐกิจ 2 มหาอำนาจโลก
01 พฤศจิกายน 2565
1 นาที

ประเด็นร้อน : เกาะติดเศรษฐกิจ 2 มหาอำนาจโลก


​​

"



• นักลงทุนเริ่มคลายความกังวลเรื่องภาวะเศรษฐกิจถดถอย และ FED อาจชะลอการเร่งขึ้นดอกเบี้ย ทำให้ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปรับตัวสูงขึ้น


• จำนวนผู้ติดเชื้อ COVID-19 ในจีนเพิ่มสูงขึ้น มีประกาศล็อกดาวน์หลายพื้นที่ อาจส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจจีน ทำให้ตลาดหุ้นจีน ปรับตัวลดลง


"


28 ต.ค. 65 ตลาดหุ้น 2 ซีกโลก มีการปรับตัวในทิศทางที่สวนกัน โดยตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปรับตัวขึ้น เช่น ดัชนี Nasdaq ที่สะท้อนถึงหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี +2.87% ส่วนดัชนี CSI300 ของจีนกลับปรับตัวลง -2.47% และดัชนี HSCEI ของฮ่องกงปรับตัวลง -4.08%เทียบกับวันก่อนหน้า


กองทุนที่ได้รับผลกระทบ


การเปลี่ยนแปลงของดัชนีตลาดหุ้นสหรัฐฯ จีน และฮ่องกง ส่งผลให้ราคากองทุนต่างประเทศ ณ 28 ต.ค. ที่กองทุนของ KAsset ลงทุนอยู่ มีการเปลี่ยนแปลงตาม เช่น 


ทำไมหุ้นสหรัฐฯ ปรับตัวขึ้น


สำนักงานสถิติกระทรวงแรงงานสหรัฐฯ ได้เปิดเผย PCE พื้นฐาน (ดัชนีราคาจากรายจ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล ไม่นับรวมหมวดอาหารและพลังงาน) เดือน ก.ย. ที่เพิ่มขึ้น 5.1%เมื่อเทียบรายปี ซึ่งต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์ได้เคยคาดไว้ โดย PCE พื้นฐานที่ต่ำกว่าคาดดังกล่าว ถือเป็นสัญญาณที่อาจชี้ว่าเงินเฟ้อของสหรัฐฯ ได้ผ่านจุดสูงสุดไปแล้ว ส่งผลให้นักลงทุนมองว่า FED (ธนาคารกลางสหรัฐฯ) อาจไม่จำเป็นต้องเร่งขึ้นดอกเบี้ยในสัปดาห์นี้ โดยผลการประชุม FED จะรู้ผลเช้ามืดของวันที่ 3 พ.ย. ตามเวลาประเทศไทย

อีกทั้งกระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ ได้เปิดเผยตัวเลขประมาณการครั้งแรกสำหรับผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ว่ามีการขยายตัว 2.6%ใน Q3/65 ซึ่งสูงกว่าที่นักวิเคราะห์เคยคาดไว้ ทำให้นักลงทุนเริ่มคลายความกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจถดถอย หลังจากที่เศรษฐกิจสหรัฐฯ หดตัว 2 ไตรมาสติดต่อกันในช่วง Q1/65 และ Q2/65 


ทำไมหุ้นจีน ปรับตัวลง


จีนยังคงเดินหน้ามาตรการควบคุม COVID-19 โดยมีการประกาศล็อกดาวน์ที่ครอบคลุมตั้งแต่เมืองอู่ฮั่นและเส้นทางอุตสาหกรรมบนชายฝั่งตะวันออกของจีน รวมถึงประกาศระงับการเรียนการสอนในโรงเรียนและการรับประทานอาหารในร้านในเมืองกวางโจวที่เป็นพื้นที่สำคัญด้านการผลิตทางตอนใต้ของจีน ส่งผลให้นักลงทุนมีความกังวลว่าการล็อกดาวน์จะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจจีน

ส่วนตลาดหุ้นฮ่องกง ณ 28 ต.ค. ที่มีการปรับตัวลง เกิดจากหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีปรับตัวลงตามทิศทางดัชนี Nasdaq ของสหรัฐฯ ในวันที่ 27 ต.ค. (คืนก่อนตลาดหุ้นฮ่องกงเปิด ในช่วงเช้าวันที่ 28 ต.ค.) หลังจากที่บริษัท Meta Platforms เปิดเผยกำไรที่ต่ำกว่าคาด 


คำแนะนำการลงทุน


ผู้ที่ถือกองทุนหุ้นสหรัฐฯ เช่น K-USXNDQ K-US500X K-USA ฯลฯ แนะนำหาจังหวะขายหรือลดสัดส่วนการลงทุนลง เนื่องจากยังคงมีความเสี่ยงจากงบการเงินที่ทยอยประกาศออกมาโดยเฉพาะกลุ่มเทคโนโลยีที่ต่ำกว่าคาด ส่งผลเชิงลบต่อตลาดหุ้นสหรัฐฯ โดยเฉพาะตลาดหุ้น Nasdaq 

ผู้ถือกองทุนหุ้นจีน​ เช่น K-CCTV K-CHX K-CHINA ฯลฯ แนะนำถือลงทุนต่อ ส่วนผู้ที่ต้องการลงทุนเพิ่ม สามารถทยอยลงทุนเพิ่มได้ แต่ควรเป็นเงินที่สามารถลงทุนระยะยาวได้ เนื่องจากเศรษฐกิจจีนยังเติบโตได้ในระดับที่สูง ประกอบกับคาดว่าจะมีปัจจัยบวกทยอยเข้ามาช่วงการเปิดประเทศในต้นปีหน้า เช่น มาตรการต่างๆ

สำหรับผู้ที่ยังกังวลกับความผันผวนของตลาดหุ้น แนะนำพักเงินในกองทุน K-SF ซึ่งเหมาะกับการพักเงิน 3 เดือนขึ้นไป เพื่อรอจังหวะเข้าลงทุนอีกครั้ง


ขอขอบคุณข้อมูลจาก KBank Private Banking, KAsset, ryt9

Disclaimer: “ทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทนและความเสี่ยงก่อนการตัดสินใจลงทุน”



บทความโดย K WEALTH TRAINER ราชันย์ ตันติจินดา CFP®
จังหวะปรับพอร์ตลงทุน ตามทิศทางเศรษฐกิจทั่วโลก
ประเด็นร้อน : พักยกดูความกังวลตลาด หลังรัฐบาลจีนสรุปนโยบาย-เงินเฟ้อในเวียดนาม
รู้จัก "Stop Loss" เทคนิคป้องกันไม่ให้เจ็บหนักเวลาตลาดดิ่ง
KBank LIVE
 

ติดตามข่าวสารการเงินจาก
K WEALTH ฟรี!