K WEALTH / บทความ / Market Update / ประเด็นร้อน : จับตาสถานการณ์หุ้นจีน หลังถูกกดดันต่อเนื่องจากนโยบาย Zero-Covid
07 พฤศจิกายน 2565
2 นาที

ประเด็นร้อน : จับตาสถานการณ์หุ้นจีน หลังถูกกดดันต่อเนื่องจากนโยบาย Zero-Covid


​​



• 3 และ 4 พ.ย. 65 ตลาดหุ้นจีนและฮ่องกงยังผันผวนจากแนวทางนโยบายโควิดเป็นศูนย์ แนวโน้มการเปิดประเทศ และตัวเลขภาคบริการของจีนที่หดตัวลงในเดือนต.ค.


• ผู้ที่ถือกองทุนหุ้นจีน ยังคงแนะนำถือลงทุนระยะยาว และติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด เพื่อรอความชัดเจนหากมีการเปิดประเทศ 


“ 



3 พ.ย. 65 ตลาดหุ้นจีน​และฮ่องกงปรับตัวลง โดยดัชนี HSCEI -3.45% HSI -3.08% CSI 300 -0.81% SSEC -0.19% China A50 -1.28% เทียบกับวันก่อนหน้า ส่งผลให้กองทุนหุ้นจีนอย่างกองทุน K-CHINA, K-CCTV, K-CHX ณ 3 พ.ย. 65 ปรับตัวลง -1.79%, -0.99% และ -2.25% ตามลำดับ หลังจากที่ตลาดหุ้นจีนปรับตัวเพิ่มขึ้น 2 วันติดต่อกันในวันที่ 1-2 พ.ย. ที่ผ่านมาจากข่าวลือว่ารัฐบาลจีนได้จัดตั้งคณะกรรมการพิจารณาผ่อนคลายการควบคุมโควิดและเตรียมพร้อมเปิดประเทศในเดือน มี.ค. ปีหน้า 

ส่วนวันที่ 4 พ.ย. 65 ตลาดหุ้นจีนและฮ่องกงกลับมาปรับตัวเพิ่มขึ้น โดยดัชนี HSCEI +6.03% HSI +5.36% CSI 300 +3.27% SSEC +2.43% China A50 +3.67% เทียบกับวันก่อนหน้า เนื่องจากนักลงทุนยังคงคาดการณ์ว่าจีนมีแผนที่จะยกเลิกนโยบายโควิดเป็นศูนย์อย่างค่อยเป็นค่อยไป และจะดำเนินการเปิดประเทศในที่สุด ซึ่งส่งผลให้กองทุนหุ้นจีนหลายกองทุน ณ 4 พ.ย. 65 ปรับตัวเพิ่มขึ้นในทิศทางเดียวกัน 

นอกจากนี้ ราคาน้ำมันดิบโลกผันผวนตามตลาดหุ้นจีน โดยความคาดหวังที่จีนจะยกเลิกนโยบายโควิดเป็นศูนย์ ยังส่งผลให้ราคาน้ำมันดิบโลกมีการปรับตัวสูงขึ้นจากความต้องการใช้พลังงานที่อาจสูงขึ้นจากกิจกรรมทางเศรษฐกิจของจีนเริ่มกลับมา ซึ่งเห็นได้จากราคากองทุนหลักของ K-OIL (Invesco db Oil Fund) ที่ ณ 4 พ.ย. มีการปรับตัวขึ้น +5.12% เทียบกับวันก่อนหน้า ซึ่งคาดว่าจะส่งผลให้ราคากองทุน K-OIL ปรับตัวในทิศทางเดียวกัน

ทั้งนี้ ณ 3 พ.ย. 65 ดัชนี FSTREIT (FTSE ST All-Share Real Estate Investment Trusts Index) ซึ่งเป็นดัชนีที่รวบรวม Singapore REITs ปรับตัวลง -3.73% เทียบกับวันก่อนหน้าอีกด้วย

สำหรับตลาดหุ้นจีนที่ผันผวน นอกจากกระทบกับกองทุนหุ้นจีนแล้ว ยังกระทบกับกองทุนอื่นในกลุ่มเอเชียและกลุ่มประเทศตลาดเกิดใหม่ที่มีสัดส่วนการลงทุนในจีนเช่นกัน ตัวอย่างเช่น

  


ทำไมหุ้นจีนผันผวน


คณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติของจีน (NHC) รายงานว่า จีนพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่จำนวน 3,200 รายในวันพุธที่ 2 พ.ย. ที่ผ่านมา ซึ่งถือเป็นระดับสูงสุดในรอบ 2 เดือนครึ่งที่ยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายวันของจีนพุ่งสูงเกิน 3,000 รายนับตั้งแต่วันที่ 17 ส.ค. 65 โดยจีนพยายามควบคุมการแพร่ระบาดอย่างรวดเร็วของโควิด-19 ในหลายเมืองสำคัญ และ NHC ยืนยันว่าจีนจะยังคงยึดมั่นในนโยบายโควิดเป็นศูนย์ต่อไป ซึ่งสอดคล้องกับที่ทางการจีนได้ย้ำว่าจีนจะยังคงเดินหน้านโยบายดังกล่าวต่อไป แม้ว่าการล็อกดาวน์และการใช้มาตรการคุมเข้มต่างๆ จะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจจีนก็ตาม

นอกจากนี้ กิจกรรมในภาคบริการของจีนยังคงหดตัวลงเนื่องจากการใช้มาตรการควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19  โดยดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการเดือนต.ค.ของจีน ปรับตัวลงสู่ระดับ 48.4 ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนพ.ค. 65 จากระดับ 49.3 ในเดือนก.ย. 65 โดยดัชนีที่อยู่ต่ำกว่า 50 ชี้ให้เห็นว่า ภาคบริการของจีนยังคงอยู่ในภาวะหดตัว ส่งผลกระทบต่อภาคธุรกิจและการอุปโภคบริโภค ซึ่งคาดว่าจะกระทบต่อแนวโน้มการฟื้นตัวของเศรษฐกิจจีนในไตรมาสสุดท้ายของปีนี้  

ส่วนตลาดหุ้นฮ่องกงที่ปรับตัวลงแรงกว่า 3% นั้น ยังได้รับแรงกดดันจากการที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ เดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.75% เป็นครั้งที่ 4 ติดต่อกัน ซึ่งส่งผลให้เกิดแรงเทขายในตลาดหุ้นทั่วโลก


มุมมองการลงทุนหุ้นจีน


การชะลอตัวของเศรษฐกิจจีนเป็นผลกระทบจากนโยบายโควิด ทำให้การบริโภคยังไม่ฟื้นตัว แต่ภาพรวมดูดีขึ้นกว่าช่วงกลางปีที่ผ่านมา และไม่มีปัญหาเรื่องเงินเฟ้อเหมือนประเทศอื่น

อีกทั้งราคาหุ้นยังต่ำกว่าตลาดอื่นมาก และทิศทางนโยบายเศรษฐกิจและนโยบายการเงินของจีนเป็นแบบผ่อนคลาย ซึ่งสวนทางกับประเทศอื่นที่เป็นแบบตีงตัวมากขึ้น


คำแนะนำการลงทุน


ผู้ที่ถือกองทุนหุ้นจีน เช่น K-CCTV, K-CHX, K-CHINA ฯลฯ แนะนำถือลงทุนต่อ โดยระยะสั้น แนะนำให้ติดตามสถานการณ์การลงทุนอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะมาตรการต่างๆ จากทางภาครัฐ ส่วนผู้ที่ต้องการลงทุนเพิ่ม สามารถทยอยลงทุนเพิ่มได้ แต่ควรเป็นเงินที่สามารถลงทุนระยะยาวได้ เนื่องจากเศรษฐกิจจีนยังเติบโตได้ในระดับสูง ประกอบกับคาดว่าจะมีปัจจัยบวกทยอยเข้ามาช่วงการเปิดประเทศในต้นปีหน้า 

สำหรับผู้ที่ยังกังวลกับความผันผวนของตลาดหุ้น แนะนำพักเงินในกองทุน K-SF ซึ่งเหมาะกับการพักเงิน 3 เดือนขึ้นไป เพื่อรอจังหวะเข้าลงทุนอีกครั้ง  

ขอขอบคุณข้อมูลจาก KAsset, Ryt9

Disclaimer: “ทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทนและความเสี่ยงก่อนการตัดสินใจลงทุน”



บทความโดย K WEALTH TRAINER สุวิมล ยิ่งเจริญรุ่งโรจน์ CFP®
KBank LIVE
 

ติดตามข่าวสารการเงินจาก
K WEALTH ฟรี!

เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง

ประเด็นร้อน : เกาะติดเศรษฐกิจ 2 มหาอำนาจโลก
ประเด็นร้อน : ตลาดหุ้นจีนเหวี่ยงระยะสั้น แต่พื้นฐานแกร่ง แนะลงทุนระยะยาว
เปิดโผ 4 ปัจจัย หนุนหุ้นจีนแกร่งขึ้นระยะยาว