ธุรกิจส่งออก ธุรกิจส่งออก

สิ่งที่ควรรู้ก่อนทำ "ธุรกิจส่งออก" เริ่มต้นอย่างไรจึงจะประสบความสำเร็จ

สำหรับคนทำธุรกิจแล้ว การได้เห็นธุรกิจที่ตัวเองสร้าง ไปได้ไกลนั้นคงเป็นเรื่องที่นักธุรกิจทุกคนต่างก็ใฝ่ฝัน เมื่อธุรกิจในประเทศนั้นดำเนินไปได้ด้วยดี ก็เริ่มมองหาตลาดใหม่ๆ เพื่อขยายกิจการ อย่างการทำธุรกิจส่งออกนั้น เป็นตัวเลือกที่ดีในการค้นหาตลาดใหม่ๆ เพื่อเพิ่มรายได้ให้กับธุรกิจมากขึ้นด้วย แต่การทำธุรกิจส่งออกต่างประเทศนั้นมีหลายสิ่งที่ต้องพิจารณาให้ดีเสียก่อน สำหรับใครที่ยังไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นทำธุรกิจส่งออกอย่างไรดี บทความนี้จะพามาดูข้อมูลเกี่ยวกับการทำธุรกิจส่งออก พร้อมแนะนำสินค้าส่งออกยอดนิยมเพื่อเป็นแนวทางการทำธุรกิจอีกด้วย

ธุรกิจส่งออกคืออะไร

ธุรกิจส่งออกคืออะไร

ธุรกิจส่งออก คือ การขายสินค้าหรือบริการในประเทศไปยังประเทศอื่นๆ เพื่อเป็นการสร้างรายได้จากตลาดต่างประเทศ หรือเพื่อตอบสนองต่อความต้องการในตลาดนั้นๆ โดยการส่งออกนั้นจะต้องผ่านหน่วยงานกรมศุลกากร และอยู่ในข้อกำหนดของการนำเข้าและส่งออกของประเทศนั้นๆ ด้วย

ธุรกิจส่งออก ส่งได้ทางไหนบ้าง

ธุรกิจส่งออก ส่งได้ทางไหนบ้าง

ธุรกิจส่งออกสามารถส่งออกสินค้าและบริการได้ 3 ช่องทาง ดังนี้

ทางบก

สำหรับผู้ที่ต้องการทำธุรกิจส่งออกสินค้าทั่วไปผ่านทางบก จะต้องทำข้อมูลใบขนสินค้าขาออก (กศก. 101 ⁄ 1) ตามแบบที่กรมศุลกากรกำหนดไว้ โดยก่อนการขนย้ายสินค้าที่จะส่งออกมายังด่านศุลกากรนั้น สามารถทำข้อมูลใบขนสินค้าขาออกในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ แล้วส่งข้อมูลมายังระบบของกรมศุลกากรก่อนได้ เมื่อระบบได้ตรวจสอบข้อมูลใบขนสินค้าขาออกแล้ว ก็จะแจ้งเลขที่ใบขนสินค้าขาออกเพื่อให้ผู้ส่งออกนำไปชำระค่าภาษีอากร จากนั้นจึงย้ายสินค้าไปยังด่านศุลกากรต่อไปได้

ทางเรือ

ผู้ที่ต้องการทำธุรกิจส่งออกสินค้าทางเรือ ผู้ส่งออกจะต้องทำข้อมูลใบขนสินค้าขาออก (กศก. 101 ⁄ 1) เช่นเดียวกับการส่งออกทางบก โดยหลังจากส่งข้อมูลใบขนสินค้าขาออกเข้ามายังระบบของกรมศุลกากรแล้ว ระบบคอมพิวเตอร์ของกรมศุลกากรจะตรวจสอบข้อมูลเบื้องต้น หากถูกต้องเรียบร้อยจะออกเลขที่ใบขนสินค้าเพื่อนำไปชำระภาษีอากร จากนั้นจึงได้ใบขนสินค้าสถานะพร้อมตรวจปล่อย และให้ผู้รับผิดชอบบรรจุสินค้าเข้าตู้คอนเทนเนอร์ นำส่งที่ท่าเรือต่อไป

ทางอากาศ

การทำธุรกิจส่งออกผ่านทางอากาศในปัจจุบันสามารถดำเนินการผ่านระบบออนไลน์ได้โดยไม่ต้องใช้เอกสาร (Paperless) เพื่อเป็นการเพิ่มความสะดวกสบายทางการค้า และส่งเสริมการส่งออกสู่การแข่งขันในตลาดโลก โดยผู้ที่ต้องการส่งสินค้าทางอากาศนั้น สามารถลงทะเบียนกับศุลกากร ได้ที่ทำการกรมศุลกากรทั่วประเทศ ส่วนวิธีการส่งนั้น ผู้ส่งของออกต้องส่งข้อมูลใบขนสินค้าขาออก และส่งข้อมูลใบกำกับการขนย้ายสินค้าทางอากาศยาน ก่อนการขนย้ายของส่งออกผ่านจุดที่กำหนด checking post และให้ยื่นข้อมูลก่อนตารางเวลาที่อากาศยานจะออกไปนอกประเทศไม่น้อยกว่า 6 ชั่วโมง

อยากทำธุรกิจส่งออก ต้องรู้อะไรบ้าง

อยากทำธุรกิจส่งออก ต้องรู้อะไรบ้าง

การเริ่มต้นทำธุรกิจส่งออกอาจเป็นเรื่องที่ซับซ้อนและท้าทายอย่างยิ่งสำหรับผู้ประกอบการ ฉะนั้น การศึกษาข้อมูลเหล่านี้ที่ K BIZ รวบรวมมาให้นั้น จะช่วยให้ธุรกิจส่งออกเป็นไปอย่างราบรื่นยิ่งขึ้น ซึ่งเรื่องที่ต้องศึกษานั้นมีด้วยกัน ดังนี้

กฎระเบียบและข้อบังคับ

สิ่งสำคัญอันดับแรกของการทำธุรกิจส่งออก คือ การศึกษากฎระเบียบและข้อบังคับการนำเข้าและส่งออกของประเทศที่ต้องการจะทำธุรกิจอย่างละเอียด เพราะข้อกำหนดของแต่ละประเทศนั้นแตกต่างกันไป บางประเทศนั้นกำหนดให้ยอมรับสินค้าจากประเทศไทยได้โดยไม่ต้องผ่านมาตรฐานสินค้าเพิ่มเติม เพราะเป็นสินค้าคุณภาพใกล้เคียงกัน แต่บางประเทศนั้นมีข้อบังคับให้สินค้าจากไทยต้องมีมาตรฐานมากขึ้นตามที่ประเทศนั้นกำหนด เพื่อให้ตอบสนองความต้องการสินค้าของประเทศนั้น และอีกนัยหนึ่งก็เป็นการกีดกันทางการค้าเพื่อไม่ให้มีสินค้าเข้ามามากเกินไป หากศึกษากฎระเบียบจนเข้าใจแล้วจะช่วยให้เลือกประเภทและกำหนดคุณภาพของสินค้าที่จะส่งออกได้

ผลิตภัณฑ์สำหรับส่งออก

หลังจากทราบข้อกำหนดของประเทศที่จะส่งออกสินค้าแล้ว จะสามารถกำหนดได้ว่าสินค้าแบบใดที่สามารถส่งออกได้ และต้องมีคุณภาพระดับใด ซึ่งการจะเลือกสินค้าสำหรับธุรกิจส่งออกนั้นจำเป็นจะต้องทำความเข้าใจและรู้ข้อมูลสินค้าของตัวเองให้ดีเสียก่อน เพื่อให้เป็นไปตามข้อกำหนดของประเทศนั้นๆ เช่น สินค้าจำพวกอาหารและเครื่องสำอางต้องมี อย. หรือสินค้าที่จะส่งไปยังประเทศแถบมุสลิมจะต้องมีเครื่องหมายฮาลาล เป็นต้น การทำความเข้าใจในสินค้าส่งออกของตัวเองนั้นจะช่วยให้ลดปัญหาการส่งออกที่ผิดไปจากข้อกำหนดได้

เอกสารส่งออก

แน่นอนว่าการทำธุรกิจส่งออกย่อมเจอกับเอกสารมากมาย เช่น ใบรับรองทางด้านความปลอดภัยและมาตรฐานของสินค้า, ใบรับรองแหล่งกำเนิดสินค้าจากกรมการค้าต่างประเทศ, ใบขนสินค้าขาออก, บัญชีราคาสินค้า, บัญชีรายละเอียดการบรรจุหีบห่อ ฯลฯ ซึ่งเอกสารนั้นแตกต่างกันไปตามประเภทของสินค้าและบริการ ดังนั้น ถ้าศึกษาและเตรียมพร้อมเอกสารไว้ก่อนก็จะช่วยลดความยุ่งยากในการดำเนินการส่งออกที่ด่านศุลกากรได้

การตลาดส่งออก

เป็นเรื่องสำคัญที่จะต้องทำความเข้าใจในตลาดส่งออกให้ดี เพราะตลาดธุรกิจในประเทศกับธุรกิจส่งออกนั้นมีความแตกต่างกัน การส่งออกจะต้องวิเคราะห์ตลาดผู้บริโภค กลุ่มเป้าหมาย ช่องทางการขาย รวมไปถึงภาษาและวัฒนธรรมในประเทศนั้นๆ ที่แตกต่างไปจากประเทศไทย เพราะถึงแม้สินค้าหรือบริการบางอย่างจะได้รับความนิยมในไทย แต่ในต่างประเทศที่ไม่ค่อยคุ้นเคยนัก สินค้าหรือบริการที่นิยมในไทยอาจไม่เป็นที่ถูกใจของชาวต่างชาติก็เป็นได้ ฉะนั้นการทำความเข้าใจในตลาดส่งออกจะช่วยปรับปรุงและพัฒนาสินค้าและบริการให้เป็นที่ชื่นชอบของผู้บริโภคในตลาดส่งออกได้

เทอมการค้าระหว่างประเทศ

เทอมการค้าระหว่างประเทศ คือ ข้อกำหนดเกี่ยวกับการส่งมอบสินค้าระหว่างผู้ซื้อและผู้ขาย เพื่อให้ทั้งสองฝ่ายทราบถึงขอบเขตการรับผิดชอบและค่าใช้จ่ายความเสี่ยงต่างๆ ที่เกิดขึ้น ซึ่งจะแตกต่างกันไปในแต่ละประเทศ เช่น ในบางประเทศกำหนดให้ขายสินค้าราคาหน้าโรงงาน หลังจากนั้นผู้ซื้อจะต้องรับผิดชอบค่าขนส่งทั้งหมด หรือบางประเทศกำหนดให้ขายสินค้าในราคาที่รวมค่าขนส่งแล้ว เป็นต้น ดังนั้น การทำธุรกิจส่งออกควรศึกษาเทอมการค้าระหว่างประเทศเอาไว้ จะช่วยให้ประเมินและคำนวณต้นทุนของสินค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

อัตราการแลกเปลี่ยน

อย่าลืมศึกษาเรื่องสกุลเงินของประเทศที่จะทำธุรกิจส่งออก รวมถึงคอยติดตามอัตราการแลกเปลี่ยนเงินอยู่เสมอ ถ้ามีความเข้าใจในการบริหารอัตราการแลกเปลี่ยน โดยเฉพาะในธุรกิจที่ให้กำไรน้อย ก็จะช่วยป้องกันความเสี่ยงจากการขาดทุน และทำให้มีกำไรมากขึ้นได้

เก็บรักษาเอกสารที่ลงบัญชีไว้ที่สำนักงานใหญ่

สำหรับผู้ประกอบการทำธุรกิจส่งออก ต้องคำนึงถึงเอกสารทางบัญชีด้วย เพราะตามประกาศของกรมศุลกากรกำหนดให้การเก็บรักษาเอกสารที่ลงบัญชีนั้นเป็นหน้าที่ของผู้มีหน้าที่จัดทำบัญชี โดยจะต้องเก็บรักษาไว้ที่สถานประกอบการ แยกเป็นสัดส่วนไม่ให้ปะปนกัน และต้องเก็บรักษาไว้เป็นเวลาไม่น้อยกว่า 5 ปี นับตั้งแต่วันปิดบัญชี หากฝ่าฝืนต้องระวางโทษตามที่กฎหมายบัญญัติไว้ ดังนั้น ควรเก็บรักษาเอกสารทางบัญชีไว้เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาตามมาภายหลัง

เริ่มต้นทำธุรกิจส่งออก ทำอย่างไร

เริ่มต้นทำธุรกิจส่งออก ทำอย่างไร

หลังจากทราบข้อมูลการทำธุรกิจส่งออกกันพอสมควรแล้ว มาดูขั้นตอนการวางแผนในการทำธุรกิจส่งออกกันบ้างว่ามีอะไรบ้าง

หาเป้าหมายหลัก

ทำธุรกิจส่งออกต้องหาเป้าหมายหลักให้ได้เสียก่อน การหาเป้าหมายหลักนั้นเริ่มต้นจากการดูว่าสินค้าของตัวเองนั้นเหมาะกับกลุ่มเป้าหมายใด สังเกตได้จากพฤติกรรมการซื้อของคนในประเทศนั้นๆ ว่ามีแนวโน้มอย่างไรบ้าง แล้วนำข้อมูลที่ได้นั้นมาปรับปรุงและพัฒนาสินค้าให้ตอบโจทย์กลุ่มเป้าหมายมากที่สุด โดยตลาดสำหรับส่งออกนั้นมีอยู่ 2 แบบ คือ

  • Big Market
      - ข้อดี คือ มีปริมาณการขายต่อครั้งจำนวนมาก พร้อมด้วยระบบขนส่งที่มีประสิทธิภาพ และมีโอกาสเติบโตทางธุรกิจสูง
      - ข้อเสีย คือ มีคู่แข่งเยอะ ทำให้มีการแข่งขันทางราคาสูง และอาจต้องย้ายฐานการผลิตไปยังจุดที่ใช้ต้นทุนต่ำกว่า
  • Small Market
      - ข้อดี คือ คู่แข่งน้อย ทำให้ไม่มีการกดราคา มีโอกาสทำกำไรได้สูง และสามารถเจรจาได้ง่าย
      - ข้อเสีย คือ เข้าถึงความต้องการของตลาดได้ยากกว่า และยอดการส่งต่อครั้งมีจำนวนน้อย

หาจุดเด่นของผลิตภัณฑ์

สำหรับธุรกิจส่งออกนั้น การหาจุดเด่นของสินค้ามีความสำคัญอย่างยิ่ง เพราะจุดเด่นจะสร้างความแตกต่างและเป็นเอกลักษณ์ให้กับสินค้า ซึ่งช่วยเพิ่มมูลค่าและเพิ่มความน่าสนใจมากขึ้นได้

รู้จักตลาดและสำรวจคู่แข่ง

การสำรวจคู่แข่งในธุรกิจส่งออกนั้น จะช่วยให้ทราบถึงลักษณะสินค้าและบริการที่คู่แข่งนำเสนออยู่ในตลาด รวมไปถึงราคา จุดเด่น และกลยุทธ์การตลาดที่ใช้ เมื่อเข้าใจคู่แข่งอย่างละเอียดแล้วก็จะสามารถพัฒนาสินค้าและบริการของตัวเองให้มีความแตกต่างและเพิ่มคุณค่าให้มากขึ้นได้

เจรจาเพื่อต่อรองราคาเป็น

ในธุรกิจส่งออกนั้น การเจรจาต่อรองราคาก็มีความสำคัญไม่น้อย เพราะเป้าหมายของการเจรจาต่อรอง คือ เพื่อค้นหาวิธีการที่สอดคล้องกับทั้งผู้ซื้อและผู้ขาย เพื่อให้ประสบความสำเร็จในธุรกิจ ถ้าผู้ประกอบการรู้จักการต่อรองราคา มีความยืดหยุ่นในราคาสินค้าและจำนวนการสั่งซื้อ พร้อมทั้งสรรหาและพัฒนาระบบขนส่งในพื้นที่ ก็จะช่วยให้ประหยัดค่าใช้จ่าย เพิ่มความรวดเร็ว และสร้างความไว้วางใจได้

รู้จักบริหารเงิน

แน่นอนว่าเงินเป็นสิ่งสำคัญในการทำธุรกิจที่ต้องจัดการบริหารให้ดี เพราะมีผลต่อความสามารถในการดำเนินธุรกิจให้ยั่งยืน การบริหารเงินในธุรกิจส่งออกนั้นสามารถเริ่มต้นได้จากการวางแผนการเงิน เช่น กำหนดเป้าหมายการเงิน คำนวณต้นทุน และประเมินความเสี่ยงต่างๆ รวมถึงศึกษาวิธีที่จะทำให้ต้นทุนลดต่ำลง เช่น นโยบายสนับสนุนจากภาครัฐ นโยบายเรื่องภาษี เป็นต้น นอกจากนั้นควรมีตัวช่วยในการบริหารจัดการเงินที่ดี และเพิ่มความคล่องตัวในธุรกิจได้

K BIZ ทำธุรกิจกับต่างประเทศไม่สะดุด โอนจ่ายเองได้ปลายทางได้รับเงินเต็มจำนวน

ศึกษาช่องทางในการโปรโมต

ปัจจุบันนี้อินเทอร์เน็ตทำให้ทุกคนบนโลกสามารถติดต่อกันได้อย่างง่ายดาย และผู้บริโภคส่วนใหญ่หันมาสั่งซื้อสินค้าและบริการทางออนไลน์กันมากขึ้น ดังนั้น การทำการตลาดออนไลน์จึงเป็นช่องทางการโปรโมทธุรกิจส่งออกที่ดี ตัวอย่างช่องทางการโปรโมทยอดนิยม เช่น Facebook, TikTok, Google Ads, Line, E-Market Place เป็นต้น ด้วยช่องทางการโปรโมทเหล่านี้จะช่วยให้ธุรกิจส่งออกสามารถเผยแพร่สินค้าและบริการไปยังกลุ่มลูกค้าที่กว้างขึ้นได้ และส่งผลให้ธุรกิจเป็นที่รู้จักมากยิ่งขึ้น

ธุรกิจส่งออกยอดฮิต ที่กำลังเป็นที่นิยม

ธุรกิจส่งออกยอดฮิต ที่กำลังเป็นที่นิยม

สำหรับใครที่ยังคิดไม่ออกว่าจะส่งออกสินค้าชนิดใด K BIZ ได้รวบรวมแนวทางธุรกิจส่งออกยอดนิยมและน่าสนใจมาแนะนำ พร้อมข้อมูลธุรกิจนั้นเพื่อประกอบการตัดสินใจมาให้แล้ว

อาหารไทย

อาหารไทยเป็นหนึ่งในสินค้าส่งออกที่ชาวต่างชาติชื่นชอบเป็นอย่างมาก ด้วยความที่อาหารไทยมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวทั้งในด้านวัตถุดิบและรสชาติ อีกทั้งการจัดอันดับเกี่ยวกับความอร่อยของอาหารในชาติต่างๆ ก็มักจะมีอาหารไทยติดอันดับต้นๆ อยู่เสมอ ทำให้ธุรกิจส่งออกอาหารไทยมีความคึกคักอยู่ตลอด โดยในปี 2022 ที่ผ่านมา ธุรกิจส่งออกอาหารไทยมีมูลค่ากว่า 1.5 ล้านล้านบาท และในช่วงปี 2023 นี้คาดการณ์ว่าจะมีแนวโน้มขยายตัวเพิ่มขึ้น จากการที่เศรษฐกิจในหลายๆ ประเทศกำลังฟื้นตัวขึ้นจากสถานการณ์โควิด-19 และความกังวลด้านความมั่นคงทางอาหารเพิ่มมากขึ้นจากการเกิดภัยธรรมชาติและสงคราม

ผลไม้และอาหารแช่แข็ง

ประเทศไทยเป็นเมืองร้อน ทำให้ผักผลไม้และวัตถุดิบของไทยอุดมสมบูรณ์ มีเอกลักษณ์และรสชาติที่ไม่เหมือนใคร อีกทั้งผลไม้และอาหารส่งออกนั้นมีการคัดเกรดมาอย่างดี ทำให้หลายๆ ประเทศเลือกซื้อผลไม้และอาหารแช่แข็งจากไทยจนกลายเป็นหนึ่งในธุรกิจส่งออกยอดนิยม โดยในช่วงมกราคม-กันยายน ปี 2022 ประเทศไทยส่งออกผลไม้และอาหารแช่แข็งมูลค่ากว่า 87,896 ล้านบาท และมีแนวโน้มจะเติบโตขึ้นอีกในปี 2023-2024 หลังจากที่สถานการณ์โควิด-19 คลี่คลายลงแล้ว

สินค้าเกษตรแปรรูป

อย่างที่กล่าวไปว่าประเทศไทยเป็นประเทศที่อุดมสมบูรณ์ ทำให้มีผลผลิตการเกษตรจำนวนมาก ทั้งยังมีเอกลักษณ์และรสชาติที่ดี ทำให้สินค้าเกษตรแปรรูปก็ได้รับความนิยมในตลาดโลก เฉกเช่นเดียวกับธุรกิจส่งออกอาหารไทยและอาหารแช่แข็ง โดยสินค้าเกษตรแปรรูปส่งออกนั้น สามารถสร้างมูลค่าได้ถึง 788,321 ล้านบาทในช่วงปี 2022 ที่ผ่านมา และยังมีแนวโน้มขยายตัวขึ้นเรื่อยๆ เนื่องจากสินค้าแปรรูปของไทยได้รับการยอมรับทั้งด้านความสะอาดและรสชาติที่ดี และสินค้าเกษตรแปรรูปยังเป็นอาหารเพื่อสุขภาพที่ยังคงได้รับความนิยมในตลาดโลกอยู่เสมอ

ผ้าไหมไทย

ผ้าไหมไทยเป็นอีกหนึ่งสินค้าที่ได้รับความนิยมไม่เสื่อมคลาย ด้วยกระบวนการผลิตที่ปรานีต พร้อมกับลวดลายที่สวยงาม อีกทั้งยังใส่สบายและประยุกต์ใช้ในโอกาสสำคัญต่างๆ ได้ ทำให้ผ้าไหมไทยมีชื่อเสียงและกลายเป็นธุรกิจส่งออกไปยังตลาดโลกได้ ซึ่งในปี 2022 การส่งออกผ้าผืนและด้ายมีมูลค่ากว่า 68,883 ล้านบาท ซึ่งนับว่าอยู่ในเกณฑ์ที่สูงมาก ทั้งนี้การส่งออกผ้าไทยในปีถัดไปมีแนวโน้มปรับตัวต่ำลง เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจโลกไม่แน่นอน ปัญหาเงินเฟ้อ อีกทั้งฐานการส่งออกในปีที่ผ่านมาอยู่ในเกณฑ์สูงมาก การขยายตัวให้มากกว่าเกณฑ์เดิมจึงเป็นไปได้ยาก

เครื่องประดับ

ธุรกิจส่งออกของไทยอีกประเภทหนึ่งที่โลกมีความต้องการเป็นอย่างยิ่ง คือ สินค้าอัญมณีและเครื่องประดับ โดยประเทศไทยเป็นแหล่งกำเนิดของอัญมณีหลายชนิด เช่น พลอย ไข่มุก ทับทิม ฯลฯ พร้อมทั้งมีช่างผู้ชำนาญที่มีฝีมือในการออกแบบเครื่องประดับให้มีความสวยงามและโดดเด่นไม่เหมือนใคร ทำให้เครื่องประดับไทยได้รับความนิยมและมีการสั่งซื้อเป็นจำนวนมาก และในปี 2022 การส่งออกอัญมณีและเครื่องประดับของไทยมีมูลค่าถึง 517,607 ล้านบาท ทั้งนี้ การส่งออกเครื่องประดับในปี 2023 มีแนวโน้มลดต่ำลง เนื่องจากเศรษฐกิจชะลอตัว และปัญหาวิกฤตพลังงานที่ส่งผลต่อกำลังซื้อของผู้บริโภค

การทำธุรกิจส่งออกไปยังตลาดต่างประเทศนั้น ถือเป็นก้าวสำคัญที่จะขยายธุรกิจ และเปิดโอกาสใหม่ในการเติบโตและประสบความสำเร็จทางธุรกิจได้ ทั้งนี้ ก่อนจะเริ่มทำธุรกิจส่งออก ควรศึกษาข้อมูลอย่างถี่ถ้วน เพื่อไม่ให้เกิดข้อผิดพลาดและป้องกันขาดทุนในภายหลัง นอกจากนี้การเติบโตทางธุรกิจยังขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย โดยเฉพาะธุรกิจส่งออกที่ต้องมีการทำธุรกรรมทางการเงินมากมายนั้น สามารถใช้บริการ K BIZ ที่ให้บริการทางการเงินแบบครบวงจร ทั้งการโอนเงินแบบกลุ่ม เพื่อให้โอนเงินหลายรายการได้ในครั้งเดียว และบริการโอนเงินต่างประเทศที่ทำให้การทำธุรกรรมรวดเร็วยิ่งขึ้น ด้วยค่าธรรมเนียมพิเศษวันนี้ 250 บาท / รายการ**

เพื่อไม่ให้พลาดโอกาสดี ๆ ติดตามโปรโมชัน จากทาง K BIZ ได้เลย

สนใจบทความที่เกี่ยวข้อง

คลิกเลย

ผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้อง

back to top