เข้าสู่เทศกาลอาหารเจอีกครั้งสำหรับเดือนตุลาคมในปีนี้ ซึ่งหากมองย้อนไปการรับประทานอาหารเจ ลดเนื้อสด หรือ อาหารสุขภาพนั้นยังเป็นไลฟ์สไตล์ที่ยังไม่เป็นที่นิยมในประเทศไทย แต่เมื่อเวลาผ่านไปคนเริ่มหันมาใส่ใจในสุขภาพมากขึ้น ข้อมูลต่าง ๆ สามารถศึกษาได้ง่ายดายมากขึ้น ทำให้การออกกำลังกาย และ การรับประทานอาหารเพื่อสุขภาพอย่าง การลดเครื่องปรุงเพื่อจำกัดปริมาณโซเดียม ลดเนื้อสัตว์ หรือ ลดแป้ง เป็นต้น ดังนั้นเพื่อต้อนรับเทศกาลกินเจปีนี้ Ultimate Leisure จึงได้รวบรวมเทรนด์อาหารท้ายปี และ ทิปส์ที่ดีต่อสุขภาพ เพื่อรีเฟรชให้ร่างกายของคุณได้สดชื่นกันค่ะ
ลดไขมัน ด้วยอาหาร Low Carb High Protein
คาร์โบไฮเดต เป็นหนึ่งในสารอาหารหลักที่ให้พลังงานแก่ร่างกาย แต่หากมีมากเกินไปจะถูกร่างกายเก็บไว้ในรูปแบบของไขมัน และ เป็นสาเหตุที่ทำให้เรามีรูปร่างอ้วน ดังนั้นในปัจจุบันคนจึงหันมานิยมรับประทานอาหารประเภท Low Carb แต่ High Protein กันมาขึ้น เพราะ นอกจากจะลดไขมันแล้ว ยังควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด ทำให้รู้สึกมีแรง ไม่เหนื่อยล้า อีกทั้งยังช่วยให้หลับสนิทได้มากขึ้นอีกด้วย
และถึงแม้จะเป็น High Protein แต่เราก็สามารถรับประทานอาหารประเภท Low Carb High Protein ได้ โดยไม่ต้องรับประทานเนื้อสัตว์ เพื่อตอบรับกับช่วงเวลาเทศกาลกินเจเช่นนี้ โดยสามารถหาได้จากอาหารประเภท ถั่วเหลือง อัลมอนด์ เมล็ดเจีย ถั่วซิกพี ผักโขม มะเขือ และ เต้าหู้
สุขภาพลำไส้ สิ่งสำคัญต่อสุขภาพดีที่ห้ามลืม
แม้จะรับประทานอาหารที่ดีแค่ไหน แต่ระบบย่อยอาหารและลำไส้ทำงานไม่ดี ประโยชน์ที่เราจะได้รับก็จะน้อยลง อีกทั้งยังส่งผลต่อสุขภาพโดยรวมของร่างกายด้วย ไม่ว่าจะเป็น ปวดท้อง ท้องผูก แก๊สเยอะ เป็นต้น ดังนั้นการดูแลระบบนี้ของร่างกายจึงเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่คนรักสุขภาพให้ความสำคัญค่ะ โดยวิธีการดูแลสุขภาพของระบบย่อยอาหารนั้น จะประกอบด้วย 3 วิธีหลัก ซึ่งทั้ง 3 วิธีนั้นล้วนแล้วแต่เป็นการรับประทานผัก ผลไม้ทั้งนั้นเลยค่ะ ประกอบด้วย
-
การรับประทานอาหารที่มีไฟเบอร์สูง เช่นเห็ด หน่อไม้ฝรั่ง หัวหอม ธัญพืช กระเทียม และ ข้าวโอ๊ต
-
การรับประทานอาหารที่มี พรีไบโอติก หรือ อาหารที่ถูกย่อยเป็นแบคทีเรียชนิดดี ได้แก่ ต้นหอม ผักกาดม่วง กะหลํ่าปลี ถั่วแดง ถั่วเหลือง อโวคาโด ฝรั่ง กล้วย และ แอปเปิ้ล
-
การรับประทานผักใบเขียว ซึ่งเต็มไปด้วยไขมันไม่อิ่มตัว ได้แก่ บร๊อคโคลี่ คะน้า ผักโขม ขึ้นฉ่าย และ ผักกาดหอม
จับคู่อาหารเพิ่มพลังการดูดซึม
นอกจากจะรับประทานผักชนิดใดชนิดหนึ่งแล้ว ยังสามารถใช้วิธี Nutrient Synergy หรือ การจับคู่อาหารที่เมื่อสารอาหารนั่นถูกดูดซึมเข้าไปในร่างกายด้วยกันแล้ว จะสามารถทํางานร่วมกันเพื่อให้คุณประโยชน์แบบทวีคูณ เพื่อให้ร่างกายได้รับประโยชน์สูงสุดได้อีกด้วยค่ะ ตัวอย่างเช่น
-
มะเขือเทศ และ บร๊อคโคลี่ : สารไลโคปีนที่อยู่ในมะเขือเทศ และสารเบต้าแคโรทีนที่อยู่ในบร็อคโคลี่ สามารถช่วยลดการเติบโตของเนื้องอกในต่อมลูกหมากได้
-
ราสเบอรรี่ และ ช็อคโกแลต : สารประกอบฟลาโวนอลที่อยู่ในช็อคโกแลต ทำให้ร่างกายสามารถดูดซึมสารต้านอนุมูลอิสระในผลไม้ตระกูลเบอร์รี่ได้ดีขึ้น
-
มันฝรั่ง ผักโขม และ ถั่วเหลือง : วิตามินซีที่อยู่ในมันฝรั่ง วิตามินอีที่อยู่ในผักโขม และ แร่ธาตุต่างๆที่อยู่ถั่วเหลือง สามารถทํางานร่วมกันเพื่อชะลอปฎิกิริยาออกซิเดชั่นของคอเลสเตอรอล ซึ่งช่วยลดโอกาสของโรคหัวใจ
รู้หรือไม่?? Sparkling Water มีดีกว่าความสดชื่น
Sparkling Water น้ำเปล่าอัดแก๊สที่มีแร่ธาตุ เช่น โซเดียม แมกนีเซียม และ แคลเซียม ที่นอกจากจะทำให้รู้สึกสดชื่นแล้ว ยังมีคุณประโยชน์จากแร่ธาตุภายในน้ำอีกด้วยเช่น การลดไขมัน LDL หรือ ควบคุมน้ำตาลในเลือด
|
จะเห็นได้ว่าการทานอาหารที่เน้นผัก และ ผลไม้ ลดเนื้อสัตว์ลงจะช่วยให้ร่างกายของเราทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น แต่การเริ่มต้นเปลี่ยนแปลงอาจจะเป็นเรื่องยาก และ ทำให้เรานั้นโหยหาการรับประทานเนื้อสัตว์ เคล็ดลับที่จะเข้ามาช่วยในการปรับพฤติกรรมการรับประทานอาหาร คือ การลองอาหารที่อร่อย หลากหลาย เพื่อให้ร่างกายได้คุ้นชินกับมื้ออาหารที่ลดปริมาณเนื้อสัตว์ หรือ ไม่มีเลยได้ค่ะ ดังนั้นเราจึงจะมาแนะนำร้านอาหาร Fine Dining แบบ Plant-Based ด้วยเมนูที่หลากหลาย วัตถุดิบน่าสนใจ อีกทั้งยังสร้างสรรค์ด้วยใจที่รักในอาหารค่ะ
Mei Jiang
ร้านอาหารที่เน้นเมนูอันหลากหลายที่ได้รับแรงบันดาลใจจากอาหารกวางตุ้ง ยกระดับด้วยความใส่ใจในรายละเอียด ผสมผสานวัตถุดิบต่าง ๆ เพื่อให้เกิดเมนูที่เหมาะสม โดยในวันนี้เราจะมาแนะนำกับ
Chef’s Vegetarian Dim Sum Selection ติ่มซำ 5 เมนูสำหรับอาหารกลางวัน หรือ จะเป็น
Mei Jiang Exclusive Plant-Based Cuisine เป็นคอร์ส 9 เมนูสำหรับอาหารเย็น ซึ่งไฮไลท์จะเป็น Seascape ซึ่งประกอบไปด้วย ผักกาดทะเล เกี้ยวไส้สาหร่าย และ สาหร่ายพวงองุ่น, Artichoke ซึ่งประกอบไปด้วย ผักโขมจากโอกินาว่า ขิง กับ ซอสถั่วดํา และ Wild Rice หรือ ใบไผ่ผัดกับเผือก เห็ดทรัฟเฟิลดำ และ ต้นหอม
Mia
ร้านอาหาร Fine Dining ที่รับแรงบันดาลใจจากเมนูอาหารยุโรป กับ วัตถุดิบของอาหาเอเชีย เน้นอาหารแบบ European Fusion และ ใช้วัถุดิบตามฤดูกาล ทำให้ได้อาหารที่มีรายละเอียดแปลกใหม่ โดยเมนูแนะนำสำหรับ Plant Based ในครั้งนี้ คือ Mia’s 5 Course Vegan Menu ประกอบด้วยอาหารทางเล่น อาหารจานหลัก และ ของหวานหลากหลายเมนู อาทิ Sweet Potato Tempura เทมปูระมันหวานญี่ปุ่น , Barley Risotto หรือ ข้าวผัดสไตล์อิตาเลี่ยน และ Blueberry Sorbet
สุดท้ายนี้ หวังว่า Trend และ Tips สุขภาพเหล่านี้ จะช่วยให้ทุกท่านได้มีแนวทางการดูแลสุขภาพที่ดีมากขึ้น และ มีร่างกายที่แข็งแรง ปลอดพ้นโรคภัย ที่สำคัญในช่วงนี้อย่าลืมรักษาสุขอนามัยด้วยนะคะ