Display mode (Doesn't show in master page preview)
Skip Ribbon Commands
Skip to main content

​​​​​​​

        ไวรัส COVID-19 ได้ส่งผลกระทบต่อการดำเนินชีวิต และ การทำธุรกิจที่เปลี่ยนไป โดยเฉพาะในภาคบริการ เช่น กลุ่มท่องเที่ยว ค้าปลีก และ ร้านอาหาร เพราะในขณะที่เรายังไม่มีวัคซีน มาตรการเว้นระยะห่างทางสังคมยังต้องมีต่อไป เพื่อป้องกันและบรรเทาการกลับมาแพร่ระบาดของ COVID-19 ทำให้ต้นทุนของผู้ประกอบการเพิ่มขึ้น และ พฤติกรรมของประชาชนก็เปลี่ยนแปลงไป ดังนั้นภาคธุรกิจจึงต้องปรับตัวตามสภาวะตลาด โดยคำนึงถึงต้นทุนที่เหมาะสมกับกำไรในแต่ละภาคธุรกิจ

ผลกระทบที่เห็นจากธุรกิจการท่องเที่ยว คงหนีไม่พ้นจำนวนนักท่องเที่ยวที่ลดลง กำลังซื้อที่หดตัว รวมถึงความคาดหวังใหม่จากสถานประกอบการที่มีมาตรการรักษาระยะห่าง และ ความสะอาด ธุรกิจเหล่านี้จะอยู่นิ่งไม่ได้ ควรจะมีแนวทางในการบริหารต้นทุน เช่น หาพันธมิตรร้านอาหารที่มีคุณภาพในชุมชนมาให้บริการลูกค้าเพื่อลดต้นทุนการเก็บวัตถุดิบ  หรือ ใช้ช่องทางออนไลน์ในแพลตฟอร์มต่าง ๆ เพื่อทำกิจกรรมทางการตลาด ไปยังลูกค้ากลุ่มเป้าหมาย

ส่วนด้านธุรกิจค้าปลีก จะเห็นว่าผู้บริโภคหันไปใช้บริการรูปแบบออนไลน์มากขึ้น ทำให้มีการการแข่งขันที่ดุเดือดของกลุ่มผู้ประกอบการของต่างชาติ  เช่น สินค้าประเภทเครื่องใช้ไฟฟ้า อุปกรณ์ไอที และ ของใช้จำเป็นในบ้าน อย่างไรก็ตามด้านผู้ประกอบรายย่อยที่เน้นขายสินค้าบนแพลตฟอร์ม Social Commerce อย่างเช่น พวกอาหารพร้อมทาน อาหารสำเร็จรูป อาหารแช่แข็ง เครื่องดื่ม สินค้าเกษตร อาจจะมีโอกาสทำรายได้เพิ่มขึ้นในระยะสั้น แต่ในระยะยาวหากสินค้าและบริการไม่แตกต่าง หรือ ปรับตัวไม่ทันผู้บริโภค สุดท้ายแล้วอาจจะไม่รอด และ ต้องออกจากธุรกิจไป

ทุกวันนี้ที่โลกเราเปลี่ยนไป ธุรกิจผู้ประกอบการก็ต้องเผชิญการเปลี่ยนแปลงเช่นกัน เพราะฉะนั้นธุรกิจต้องมีการปรับตัวอยู่ตลอดเวลา ไม่ว่าจะเป็นการศึกษาพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป หรือ การนำข้อมูล Data ต่าง ๆ มาใช้เพื่อประกอบการตัดสินใจ


กลับ