ราว ๆ หนึ่งปีท่ามกลางสงครามการค้าระหว่างสหรัฐ และ จีน ข้อพิพาทดังกล่าวเริ่มส่งผลต่อการขยายตัวทางเศรษฐกิจโลกจากประมาณการ GDP โลกที่เติบโตชะลอลง จนทำให้นักลงทุนเริ่มกังวลว่าเศรษฐกิจจะเข้าสู่ภาวะถดถอยหรือไม่ 

     ปลายเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา นายโดนัลด์ ทรัมป์ และ นายสี จิ้น ผิง ได้ตกลงยุติข้อพิพาทดังกล่าวชั่วคราวเป็นระยะเวลา 3 เดือน โดยการตั้งโต๊ะเจรจาระหว่างประเทศสองมหาอำนาจเกิดขึ้นในเดือนมกราคม ใช้เวลา 3 วัน โดยทั้งสองฝ่ายมีท่าทีประนีประนอม และ หาทางออกร่วมกัน  

     สิ่งที่ต้องติดตามจากนี้คือความชัดเจนในเชิงปฎิบัติว่าการกีดกันทางการค้าจะผ่อนคลายในรูปแบบใด รวมถึงการที่สหรัฐพยายามที่จะผลักดันร่างกฎหมาย “Trade Act” ที่จะเพิ่มอำนาจให้ทรัมป์ สามารถตั้งกำแพงภาษีนำเข้าโดยไม่ต้องผ่านสภาคองเกรส ซึ่งหมายถึงสหรัฐจะกีดกันการค้ากับจีนเมื่อไหร่ก็ได้ 

     อย่างไรก็ตามการเจรจาในรอบแรกนี้เป็นความพยายามที่สองมหาอำนาจร่วมกันลดความกดดันทางการค้า ผลออกมาดีเป็นผลบวกต่อการลงทุนในตลาดหุ้น  ความสำเร็จดังกล่าวถือเป็นการมอบของขวัญปีใหม่ให้แก่ชาวสหรัฐและฉลองข่าวดีรับเทศกาลตรุษจีนต่อประชาชนทั้งสองประเทศหรือทั้งโลกก็ว่าได้