Display mode (Doesn't show in master page preview)
Turn on more accessible mode
Skip Ribbon Commands
Skip to main content
Turn off Animations

ทิศทางธุรกิจแบงก์ 2023 บริบทใหม่ ท่ามกลางความท้าทายรอบด้าน

ทิศทางธุรกิจแบงก์ 2023 บริบทใหม่ ท่ามกลางความท้าทายรอบด้าน

ธุรกิจธนาคารพาณิชย์ในประเทศไทย ได้ผ่านความท้าทายมากมายในช่วงปี 2022 ที่ผ่านมา เช่น การแก้ปัญหาหนี้ของลูกหนี้ที่ประสบปัญหาการเงินจากวิกฤต COVID-19 , การปรับเกณฑ์ของทางธนาคาร รวมไปถึง การปรับดอกเบี้ยขึ้นตามอัตราดอกเบี้ยนโยบาย แต่ด้วยสถานการณ์เศรษฐกิจที่ค่อย ๆ ฟื้นตัว ทำให้ผลการดำเนินงานในปีที่ผ่านมา ได้ปรับตัวดีขึ้นถึง 10% จากปีก่อนหน้า

สำหรับในปีนี้ แม้จะมีแนวโน้มฟื้นตัวทางเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง แต่ยังถือว่าเป็นการฟื้นตัวที่ไม่ทั่วถึง ทำให้ภาพของธุรกิจธนาคารพาณิชย์ในปีนี้ยังอยู่ในภาพการฟื้นตัวที่ระมัดระวัง โดยมีประเด็นหลัก ๆ ที่ต้องจับตา ซึ่งกระทบต่อการทำธุรกิจและการแข่งขันของธนาคารพาณิชย์รวมทั้งสิ้น 3 ด้าน



ธุรกิจหลักของธนาคารจะเติบโตในกรอบจำกัด

ธุรกิจหลักของธนาคาร นอกเหนือจากการรับฝากเงินจากลูกค้าแล้ว คือ การปล่อยสินเชื่อ และ ดอกเบี้ย ซึ่งจะเป็นช่องทางการเข้ามาของรายได้ของธุรกิจ โดยคาดการณ์ผลกระทบที่จะเกิดในด้านนี้ คือ
    • สินเชื่อ : คาดการณ์สินเชื่อในปีนี้ว่าจะเติบโตในกรอบที่จำกัดประมาณ 4.7% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า โดยเติบโตจากสินเชื่อธุรกิจรายใหญ่และกลาง เพราะมีความสามารถในการรับมือวิกฤตได้ดีกว่า อีกทั้งการฟื้นตัวของธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยว สุขภาพ การส่งออก และ ค้าปลีก ก็ยังให้ผลเชิงบวกได้ดีกว่าธุรกิจรายย่อย
    • NPL หรือ หนี้เสีย : ยังไม่มีทีท่าว่าจะลดลงในปีนี้ นอกจากนี้ยังไม่มีมาตรช่วยเหลือพิเศษให้กับลูกหนี้ทั่วไป ทำให้การจะลด NPL จึงต้องฝากความหวังที่การปรับโครงสร้างหนี้ของสถาบันการเงินแต่ละแห่ง
    • การขึ้นดอกเบี้ย : การปรับขึ้นดอกเบี้ยปีนี้ ในขณะที่ความสามารถในการชำระหนี้ของลูกค้าฟื้นตัวจำกัด จะมีผลบวกที่น้อยลงต่อส่วนต่างดอกเบี้ย (%NIM)
    • ภาระการตั้งสำรองฯ : ในปีนี้ไม่สามารถที่จะลดลงได้มาก จากสถานการณ์สภาพแวดล้อมที่ยังไม่นิ่ง และ NPL ที่สูงกว่าประเทศอื่น ทำให้กดดันการฟื้นตัวของ ROE และ ภาพรวมกำไรสุทธิของธุรกิจธนาคาร



ธุรกิจใหม่ เพิ่มโอกาสเติบโตของรายได้

ธนาคารพาณิชย์ในประเทศไทย ต้องเร่งแสดงหาธุรกิจใหม่เพื่อเพิ่มโอกาสในการเติบรายได้รูปแบบใหม่ ๆ ในอนาคต แม้หนี้ครัวเรือนจะยังอยู่ในระดับสูง แต่ด้วยโจทย์การช่วยเพิ่มการเข้าถึงสินเชื่อ และ ขยายโอกาสทางธุรกิจ ทำให้ในปีนี้ธนาคารพาณิชย์ของไทย ยังเดินทางที่จะปล่อยสินเชื่อดิจิทัล (Digital Lending) 

นอกจากธุรกิจสินเชื่อดิจิทัลแล้ว ยังคาดการณ์ว่าจะเห็นการให้น้ำหนักกับการพัฒนาธุรกิจด้านอื่น ๆ เช่น ธุรกิจที่เกี่ยวกับสิ่งแวดล้อม สังคม และ ธรรมาภิบาล (ESG) , สินทรัพย์ดิจิทัล (Digital Access) , ธุรกิจต่างประเทศ ตลอดจนธุรกิจอื่น ๆ ที่ไม่ใช่ธุรกิจการเงินโดยตรง เช่น ธุรกิจอาหาร หรือ ธุรกิจสันทนาการ โดยทั้งหมดเป็นการย้ำถึงทิศทางของธุรกิจแบงก์ที่วิ่งสู่ Beyond Banking Business ในอนาคต ซึ่งจะทำให้ธนาคารพาณิชย์ไทยน่าจะมีส่วนผสมของรายได้ที่ไม่ใช่ดอกเบี้ย และ รายได้จากการถือหุ้นในกิจการที่ตั้งใหม่เพิ่มขึ้นในอนาคต



พร้อมรับมือการแข่งขันในมิติต่าง ๆ 

อีกความแตกต่างที่สำคัญในปีนี้ คือ การกระตุ้นการแข่งขันในมิติต่าง ๆ ที่เป็นไปตามแนวนโยบายภูมิทัศน์ใหม่ภาคการเงินของธนาคารแห่งประเทศไทย เช่น 
    • การออกใบอนุญาต Virtual Bank : โดยมีประเด็นที่ต้องติดตามได้แก่ การกำหนดกลุ่มลูกค้าเป้าหมายขอบเขตการดำเนินธุรกิจ แนวทางการช่วยเหลือ Virtual Bank ให้เข้าถึงโครงสร้างพื้นฐานทางการเงินที่มีอยู่ ภายใต้การคิดค่าธรรมเนียมที่เหมาะสม รวมถึงการคำนึงถึงประเด็นความเท่าเทียม (Level Playing Field) กับผู้ประกอบการที่ดำเนินงานอยู่ในปัจจุบัน 
    • การปรับปรุงหลักเกณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับผู้ให้บริการธุรกรรม FX ที่ไม่ใช่สถาบันการเงิน : เพื่อขยายให้สามารถทำธุรกิจได้หลากหลายขึ้น เข้าถึงโครงสร้างพื้นฐานด้วยต้นทุนที่เหมาะสม เช่น อนุญาตการซื้อขาย FX ผ่านแพลตฟอร์ม หรือ ขยายขอบเขตธุรกิจให้นอนแบงก์ ซึ่งอาจมีผลกระทบต่อการแข่งขันด้านรายได้ค่าธรรมเนียม FX ของธนาคาร
    • การพัฒนาสกุลเงินดิจิทัลสำหรับประชาชนที่ออกโดยธนาคารกลาง : โดยความแพร่หลายในการใช้งานคงจะมีผลในการกำหนดทิศทางของบริการธุรกรรมดิจิทัลของธนาคาร รวมถึงการกำหนดราคาและกลไกการส่งผ่านนโยบายการเงินในระยะถัดไป
    • นโยบายการปล่อยสินเชื่ออย่างรับผิดชอบ : ซึ่งอาจกระทบการปล่อยสินเชื่อโดยตรง โดยเฉพาะสินเชื่อรายย่อย เนื่องจากต้องคำนึงถึงเงินเหลือจากการชำระหนี้ ที่ควรต้องให้ลูกหนี้มีเพียงพอในการดำรงชีพอาจมีเกณฑ์ หรือ ระเบียบเพิ่มเติมที่ไม่สนับสนุนให้ทำแคมเปญกระตุ้นการใช้จ่ายที่ฟุ่มเฟือยเกินตัว



จากที่กล่าวมาแนวโน้มของธุรกิจธนาคารพาณิชย์ในประเทศไทย ศูนย์วิจัยกสิกรไทยคาดการณ์ว่าจะฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง แต่ในกรอบที่จำกัดท่ามกลางความเปราะบางทางเศรษฐกิจที่คงยังมีอยู่ โดยในปี 2023 นี้ ธนาคารกสิกรไทยยังคงดำเนินธุรกิจตามหลักความระมัดระวังรอบคอบภายใต้ทิศทางภาวะเศรษฐกิจที่ยังมีความไม่แน่นอน ในการเดินหน้าเชิงกลยุทธ์ด้วยการใช้เทคโนโลยี และ กระบวนการใหม่ ๆ รวมทั้งการผนึกกำลังกับพันธมิตรทางธุรกิจ 

มุ่งมั่นเป็นธนาคารยุคใหม่แห่งภูมิภาค AEC+3 อย่างต่อเนื่อง เพื่อขยายโอกาสการเข้าถึงบริการทางการเงินในระบบธนาคารพาณิชย์กับประชาชนในวงกว้างให้ได้รับการสนับสนุนเงินทุน สภาพคล่อง รวมไปถึงการใช้ประโยชน์จากผลิตภัณฑ์ และ บริการต่าง ๆ ของธนาคารเพื่อส่งเสริมให้ธุรกิจลูกค้าเติบโต ตอบรับโอกาสทางธุรกิจที่จะเกิดขึ้น รวมทั้งธนาคารยังคงดำเนินการเชิงรุกในการดูแล และ ให้ความช่วยเหลืออย่างต่อเนื่องแก่ลูกค้าที่ได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจที่มีการฟื้นตัวไม่เท่ากันผ่านช่องทางต่าง ๆ ของธนาคาร สำหรับมุมมองด้านการลงทุน แม้ว่ากลุ่มธนาคารอาจได้รับอานิสงส์จากดอกเบี้ยขาขึ้น แต่นักลงทุนควรใช้ความระมัดระวังในการลงทุนในหุ้นกลุ่มธนาคาร และ ควรใช้กลยุทธ์กระจายการลงทุนในสินทรัพย์ต่าง ๆ เพื่อกระจายความเสี่ยง


​​ 


กลับ