Display mode (Doesn't show in master page preview)
Skip Ribbon Commands
Skip to main content

ทุกวันนี้จะเห็นว่าแทบทุกคนบนโลกล้วนมองหาความสบายในการใช้ชีวิต แต่รู้หรือไม่ว่าความสะดวกสบายนั้นกลับกลายเป็นภัยที่ค่อยๆคุกคามเงินในประเป๋าของคุณและยังเป็นอีกตัวการที่มีส่วนทำร้ายสิ่งแวดล้อม ลองมาดูพฤติกรรมประจําวันที่ควรทําเพื่อให้การใช้เงินเป็นไปอย่างคุ้มค่า และพฤติกรรมที่ควรหลีกเลี่ยงเพื่อช่วย Save เงินในกระเป๋าและยังได้ช่วยรักษ์โลกก่อนที่จะไม่มีโลกให้รัก



Do : ใส่ใจก่อนเลือกของใช้ใกล้มือ และ ผลิตภัณฑ์ดูแลร่างกาย

รู้หรือไม่ว่าในแต่ละวันเราได้ใช้สินค้าหรือผลิตภัณฑ์ต่างๆในการอำนวยความสะดวกให้กับชีวิตจนเกินความจำเป็น และก่อให้เกิดสารเคมีตกค้าง ซึ่งทิชชู่เปียก แม้จะเป็นหนึ่งในไอเท็มสำคัญติดกระเป๋าของคนยุค Covid-19 ที่สามารถทำความสะอาดได้แทนการล้างด้วยน้ำ และมีความเหนียวยืดหยุ่น ไม่ฉีกขาดง่าย แต่คุณสมบัติของมันกลับกลายเป็นโทษมหันต์ เพราะเส้นใยพลาสติกที่เป็นส่วนผสมทำให้ใช้เวลาย่อยสลายนานถึง 100 ปี

นอกจากนี้อีกหนึ่งผลิตภัณฑ์ในชีวิตประจำวันอย่าง สกินแคร์ หรือ ครีมอาบนํ้าที่ไม่ได้ผลิตจากส่วนผสมธรรมชาติ รวมถึงการใช้ยาสีฟันหรือเจลล้างหน้าที่มีเม็ดบีดส์ เพราะมันคือพลาสติกไมโครบีดส์ที่ไม่ย่อยสลายในธรรมชาติ ทั้งมีขนาดที่เล็กมากจนสามารถผ่านเครื่องกำจัดน้ำเสียไปได้ และมักจะมีสารเคมีประเภท Paraben, Dioxin และ Phenol ซึ่งนอกจากจะสามารถก่อให้เกิดมะเร็งผิวหนังได้แล้วยังทำให้เกิดอันตรายต่อสิ่งแวดล้อม


Stella McCartney
ที่มา : www.facebook.com/stellamccartney

Dr.Bronner
ที่มา : facebook.com/drbronner


การแก้ปัญหาเหล่านี้ทําได้ไม่ยาก นั่นคือการหันมาใช้สินค้าที่มีความปลอดภัยต่อโลก ได้แก่ การใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดที่ปราศจากสารเคมี เช่น
      • ​Dr. Bronner แบรนด์สบู่ธรรมชาติทั้งส่วนผสม และ แพ็กเกจ อีกทั้งยังช่วยเหลือสังคมด้วยการให้ค่าแรงที่เป็นธรรมกับชาวนาผู้ผลิตวัตถุดิบอีกด้วย
        การซื้อเสื้อผ้าที่ทํามาจากผ้า Organic Cotton เพราะนอกจากมีความทนทานแล้วยังปราศจากไมโครพลาสติก เช่น
      • ​Stella McCartney แบรนด์เสื้อผ้​าที่เริ่มใช้ organic cotton ตั้งแต่ปี 2008, ร่วมโครงการ Ethical Trading Initiative ในปี 2012, เริ่มใช้ผ้า Viscose แบบ Sustainable ตั้งแต่ปี 2016 และ ยังคงหาวิธีใหม่ ๆ เพื่อรักษาสิ่งแวดล้อมอยู่ 


Don’t : ทานอาหาร หรือ เครื่องดื่มที่มีส่วนทำร้าย และ เพิ่มปริมาณขยะให้โลก

พฤติกรรมการกินที่เป็นที่นิยม แต่หารู้ไม่ว่าเป็นตัวการก่อให้เกิดขยะจำนวนมาก นั่นคือ การดื่มกาแฟจากเครื่องชงแบบแคปซูล เพราะพลาสติกและอลูมิเนียมที่เป็นส่วนประกอบของแคปซูลนั้น ยากอย่างยิ่งที่จะนำมารีไซเคิล และในแต่ละปีจำนวนแคปซูลเป็นพันล้านชิ้นถูกทิ้งจากครัวเรือนและสำนักงานต่างๆ 

        นอกจากนี้การรับประทานช็อกโกแลต และ อะโวคาโด ก็ส่งผลต่อโลกแบบคาดไม่ถึงเช่นกัน เพราะการผลิตช็อกโกแลตต้องใช้น้ำราว 2,400 ลิตรต่อช็อกโกแลต 100 กรัม ส่วนการปลูกอะโวคาโด 1 ผล ต้องใช้น้ำราว 272 ลิตร 

        อีกหนึ่งพฤติกรรมที่เกี่ยวข้องกับอาหารและการกินของครอบครัวใหญ่ คือ การปรุงอาหารจำนวนมาก และ อาจเกินกว่าที่ต้องการ ซึ่งเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นในทุก ๆ วัน ในปัจจุบัน ⅓ ของอาหารที่ถูกปรุงขึ้นนั้นกลายเป็นขยะ และ เป็นตัวการปล่อยแก๊สเรือนกระจกตัวสำคัญเลยทีเดียว


Moka Pot

Super Bee Wax Wrap

ขอแนะนำวิธีช่วยลดปัญหาขยะจากอาหารที่คุณทาน แถมยังช่วยคุณประหยัดเงินในกระเป๋าได้อีก อาทิ
    • การชงกาแฟแบบ Moka Pot สไตล์อิตาลี หรือ แบบ French Press อาจไม่ง่ายด้วยปลายนิ้วเหมือนแบบแคปซูล แต่รับรองว่าได้รสชาติอร่อยไม่แพ้กัน
    • การใช้ SuperBee Wax Wrap หรือ ผ้าเคลือบขี้ผึ้ง ซึ่งสามารถนํามาห่ออาหารได้ แทนการใช้ Wrap พลาสติกที่คุ้นเคย ซึ่งนอกจากจะช่วยยืดอายุอาหารตามคุณสมบัติของ Wrap แล้ว ยังสามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้อีกเรียกได้ว่า ทั้งถนอมอาหาร และ ลดพลาสติกไปด้วยอีกทางหนึ่ง

  • ​การชงกาแฟแบบ Moka Pot เป็นการชงแบบไม่ต้องใช้ไฟฟ้า สามารถใช้บนเตาแก๊ส หรือ เตาไฟฟ้า วิธีการทำงานของหม้อต้มประเภทนี้ คือ การใช้แรงดันของน้ำผ่านกาแฟขึ้นมากลายเป็นน้ำกาแฟ 
  • การชงกาแฟแบบ French press เป็นการชงกาแฟแบบนำเมล็ดกาแฟที่บดแล้วมาแช่กับน้ำร้อน จะทำให้กาแฟชุ่มน้ำและสกัดกาแฟออกมาอย่างสม่ำเสมอแทนที่จะปล่อยให้น้ำไหลผ่านกาแฟบดแบบวิธีอื่น


Do : ใช้เทคโนโลยีเพิ่มความสะดวกในชีวิตประจำวัน

อย่างที่รู้กันดีว่าการเดินทางเพื่อไปช้อปปิ้งซื้อของ หรือการเดินทางไปประชุมแบบจัดในสถานที่  ในแต่ละครั้งล้วนแล้วแต่เพิ่มค่าใช้จ่ายในการเดินทางและสร้างผลกระทบให้กับสิ่งแวดล้อมในด้านพลังงานน้ำมันและการสร้างก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ แต่ด้วยเทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลงไปในปัจจุบันทำให้เราสามารถใช้ชีวิตประจำวันได้ง่ายขึ้นการเปลี่ยนมาจัดประชุมแบบออนไลน์ผ่านเทคโนโลยี Zoom หรือ Google Meet ช่วยลดคาร์บอนไดออกไซด์ และ ยังลดการเดินทางพบปะผู้คนในช่วงการระบาดของ COVID-19

        สำหรับเทคโนโลยีใหม่ Metaverse ก็สามารถที่จะช่วยให้เราทำกิจกรรมได้เสมือนอยู่ในโลกแห่งความเป็นจริงจนเรียกได้ว่าไม่จําเป็นต้องเดินทางมากเท่าเมื่อก่อน เช่น การช้อปปิ้ง พบปะเพื่อนฝูง หรือ แม้กระทั่งการดูคอนเสิร์ต นอกจากนี้ภายใน Metaverse ยังมีการเก็บข้อมูลบนระบบ Cloud ซึ่งปล่อย Carbon Footprint น้อยกว่าการเก็บข้อมูลแบบเก่า ๆ ในออฟฟิศหลายเท่า

​​
Meta
เว็บไซต์ : about.facebook.com/meta

Apple
ที่มา : www.facebook.com/apple
เว็บไซต์ : www.apple.com

โดยปัจจุบัน Meta ได้มีการลงทุนในการสร้างโลก Metaverse เป็นจํานวนมาก และ Mark Zuckerberg เองก็คอยผลักดันบริษัทให้นําเทคโนโลยี Virtual Reality, Augmented Reality และ Smart Glasses มาทดลองอย่างต่อเนื่อง บริษัทยักษ์ใหญ่อย่าง Apple เองก็ได้แอบซุ่มลงทุนในการพัฒนาโลก Metaverse อยู่เช่นกัน 

ส่วนใน ‘ไทย’ มีการร่วมมือกันของ บริษัท เดอะมอลล์ กรุ๊ป จำกัด, บริษัท ซิตี้มอลล์ กรุ๊ป จำกัด (ดิ เอ็มโพเรียม), บริษัท ทีวีไดเร็ค จำกัด (มหาชน), และกลุ่มแบรนด์ไลฟ์สไตล์รีเทลชั้นนำ เพื่อพัฒนาแพลตฟอร์ม V-Avenue by AIS 5G โดยผู้ใช้สามารถเข้าใช้งานห้างเสมือนจริงได้ผ่านเว็บไซต์ V-Avenue.Co ที่จะนำเสนอห้างสรรพสินค้าและคอมมูนิตี้มอลล์แบบสามมิติ เชื่อมต่อโดยตรงกับมาเก็ตเพลสออนไลน์ของแต่ละห้างฯ และร้านค้า อย่างครบถ้วนถึง 360 องศา


Do : ใช้รถ EV เพื่อลดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์

รถยนต์ คือ สิ่งสำคัญสำหรับการเดินทางในชีวิตประจำวัน และ เป็นหนึ่งในตัวการสำคัญของการทำลายสิ่งแวดล้อมจากการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ดังนั้นในระยะหลังมานี้เทรนด์รถยนต์พลังงานไฟฟ้า หรือ รถ EV จึงเป็นที่สนใจของคนเรามากขึ้น นอกจากนี้ในยุคที่ราคาน้ำมันพุ่งสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง การเปลี่ยนมาเป็นรถพลังงานไฟฟ้ายังมีส่วนช่วยในการประหยัดเงินในระยะยาวได้อีกด้วย 


BMW รุ่น BMW iX
ที่มา : www.bmw.co.th

Audi รุ่น Audi e-tron
ที่มา : www.audi.co.th

และด้วยเทรนด์ความสนใจของรถไฟฟ้าที่มีมากขึ้นในทุกวันนี้ ทำให้แบรนด์ต่าง ๆ ได้มีการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าออกมาสู่ตลาดมากมาย อย่างเช่น 
    • BMW ที่เริ่มพัฒนารถยนต์ไฟฟ้ามาตั้งแต่ปี 2011 และ ปัจจุบันได้ปล่อยรถยนต์ EV ออกมาสู่ตลาดเรียบร้อยแล้ว อีกทั้งยังมีแพลนที่จะพัฒนาต่อในอีกหลาย ๆ รุ่น 
    • Audi อีกหนึ่งแบรนด์รถหรู ที่ปัจจุบันได้ปล่อยรถยนต์ EV ออกมาแล้วสองรุ่น และ มีแพลนจะทยอยเปิดตัวเพิ่มในไม่ช้า
    • Tesla รถไฟฟ้าที่โดดเด่นในช่วงเวลานี้ ซึ่งในปัจจุบันมีการเข้ามาจดทะเบียนในประเทศไทยเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
    • EVme บริการเช่ารถยนต์ไฟฟ้า นวัตกรรมมาแรงของยานยนต์ในปี 2022  โดยที่มีตัวเลือกรถที่หลากหลายเหมาะสำหรับทุกโอกาสของคุณ 


Do : ลงทุนเพื่ออนาคต พร้อมสร้างโลกสีเขียว

จากเทรนด์สิ่งแวดล้อมที่ได้กลายเป็นประเด็นสำคัญของทุกประเทศในตอนนี้ ส่งผลให้ธุรกิจต่าง ๆ หันมาพัฒนาผลิตภัณฑ์ และ มุ่งเน้นการลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งผู้บริโภคก็ตอบรับเป็นอย่างดีอันเป็นผลมาจากการเล็งเห็นถึงความสำคัญดังกล่าว ทำให้ธุรกิจเหล่านี้เติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง

จึงเกิดเป็นเทรนด์การลงทุนที่เกี่ยวข้องกับกลุ่มธุรกิจนี้ ตัวอย่างเช่น การลงทุนใน ESG หรือ Environmental Social & Governance ซึ่งกำลังเป็นการลงทุนที่น่าจับตามอง เพราะนอกจากจะสร้างการเปลี่ยนแปลงเชิงบวกให้กับสิ่งแวดล้อม ยังมีโอกาสสูงที่จะสร้างผลตอบแทนกลับมาได้ในระยะยาวอีกด้วย


กองทุนแนะนำที่เกี่ยวข้อง
K-CLIMATE
กองทุนเปิดเค Climate Transition
ลงทุนหุ้นทั่วโลกที่มีส่วนช่วยลดปัญหาสิ่งแวดล้อมโดยเฉพาะ Climate Change

​อ่านรายละเอียดกองทุน
​ซื้อกองทุนง่าย ๆ บน KPLUS

​​​​​​​​​

ทำไมต้อง K-CLIMATE
    • ลงทุนผ่านกองทุนหลัก LO Funds - Climate Transition (USD), I Class A 
    • ลงทุนในหุ้นบริษัทที่มีส่วนร่วมการแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศ (Climate Change) ซึ่งหนุนให้ธุรกิจมีความสามารถในการแข่งขันและยั่งยืนในระยะยาว
    • ป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนตามดุลยพินิจของผู้จัดการกองทุน

เหมาะกับใคร?
    • คาดหวังผลตอบแทนจากการลงทุนในหุ้นของธุรกิจที่ได้รับประโยชน์จากกฎเกณฑ์ นวัตกรรม การบริการ หรือสินค้าที่เกี่ยวข้องกับการป้องกันหรือช่วยลดปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (Climate Change)
    • รับความผันผวนของราคาหุ้นที่อาจปรับตัวสูงขึ้นหรือลดลงจนทำให้ขาดทุนได้ 
    • ยอมรับความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนได้
    • สามารถลงทุนได้ตั้งแต่ 5 ปีขึ้นไป


กลับ